ความเชื่อใจ (Trust)
Tong Yee เล่าเรื่องความเชื่อใจ (Trust) ให้ฟังว่า Trust ประกอบด้วย 4 pillar หลัก ๆ คือ Sincerity, Competence, Reliability และ Care ผมไปเจอรายละเอียดเพิ่มเติมจากในหนังสือ The Thin Book of Trust เขียนโดย Charles Feltman เขาเล่าถึงรายละเอียดแต่ละอันว่า
Sincerity (มีความจริงใจ)
จะมองว่าความตั้งใจของเราในการทำสิ่งนั้นมันชัดเจนมากแค่ไหน เราตรงไปตรงมาแค่ไหน การกระทำและคำพูดตรงกันแค่ไหน
Competence (มีความสามารถ)
จะมองว่าเรามีความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหานั้นได้จริง ๆ หรือไม่
Reliability (มีความน่าไว้ใจ)
จะมองว่าเราทำได้ตามที่เราเคยบอกไว้ตลอดมาหรือไม่
Care (เข้าอกเข้าใจ)
จะมองว่าเราเข้าใจถึงปัญหาจริง ๆ หรือไม่ ตอนที่เราตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ เราเอาเรื่องเหล่านั้นมาคิดด้วยจริง ๆ ใช่ไหม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันจะช่วยให้เราสามารถสร้าง trust ที่ยืนยาวได้
Charles เล่าว่า การสร้าง trust เนี่ย เป็นสิ่งที่ต้องทำทั้งสองทาง คือต้องทำตัวเองให้น่าเชื่อถือ (being trustworthy) และเชื่อใจอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หัวหน้าที่มีคนเชื่อถือ แต่ไม่เคยเชื่อใจคนในทีม แบบนี้คือก็เรียกว่าไม่มี trust ซึ่งกันและกันก็จะนำไปสู่ปัญหาในอนาคตได้
Trust ในที่นี้ Charles หมายถึงการที่เราเลือกที่จะยอมให้คนอื่นทำอะไรบางอย่างที่ส่งผลกระทบถึงสิ่งสำคัญที่เปราะบางของเรา (choosing to risk making something you value vulnerable to another person’s actions) โดยที่สิ่งสำคัญนี้อาจจะหมายถึง เงิน หน้าที่การงาน ความเชื่อ ชื่อเสียง ชีวิตความเป็นอยู่ ฯลฯ
ความไม่เชื่อใจ (Distrust)
ความไม่เชื่อใจเกิดขึ้นจากการที่เรากลัวว่าอีกฝ่ายจะทำให้สิ่งสำคัญของเราเสียหาย หรือเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร เมื่อเราไม่เชื่อใจกัน เราก็จะหาวิธีป้องกันสิ่งสำคัญสิ่งนั้น ปัญหาใหญ่จากการไม่เชื่อใจกันในที่ทำงานคือการที่วิธีที่คนเอามาป้องกันตัวเองเข้ามาขัดขวางการทำงานร่วมกัน เช่น การต่อต้าน การหลีกเลี่ยง การทะเลาะ การเพิกเฉย ทำให้เราไม่เชื่อใจกันมากขึ้นเข้าไปอีก
Trust เป็น analog
Trust ไม่ใช่ 0 กับ 1 เมื่อเรารู้สึกไม่เชื่อใจ ให้ลองกลับไปพิจารณาถึง 4 pillar ข้างบน ดูว่าอีกฝ่ายขาด pillar ไหนไป บางกรณีเรายังสามารถทำงานร่วมกับอีกฝ่ายได้จากการที่เรายังตระหนักถึงว่ายังมี pillar ไหนที่เขายังเชื่อใจได้อยู่
เมื่อความเชื่อใจมันพังทลาย
เราจะมองเห็นได้ว่า trust เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เปราะบาง ทำให้ trust ก็กลายเป็นสิ่งที่เปราะบางเช่นกัน trust กว่าจะสร้างให้สมบูรณ์ได้จริง ก็ต้องทำให้ครบถ้วนทั้ง 4 pillar แต่เพราะมันเปราะบาง มันแปลว่า มันสามารถพังทลายได้ภายในพริบตา หากเราทำให้อีกฝ่ายไม่เชื่อใจแล้ว การที่จะแก้ไขให้มันกลับมาดีเหมือนเดิมมันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่เราจำเป็นจะต้องทำเมื่อเราทำให้ความเชื่อใจมันพังทลายคือ เราควรจะต้อง ยอมรับอย่างจริงใจและรู้จักขอโทษจากใจจริง
