สานสัมพันธ์แทนที่จะรัก
สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปในตัวผมหลังจากได้เรียน NVC คือ สำหรับผม รักไม่ใช่ความรู้สึกแต่เป็นความต้องการ
ผมขอเอาเก๋ (ภรรยาผม) เป็นตัวอย่างละกัน จะได้เข้าใจง่ายขึ้น
ไม่ใช่แค่รู้สึกรักเก๋ ก็เลยทำดีกับเก๋ แล้วถ้าวันไหนความรู้สึกเปลี่ยนไป ผมก็หาคนรักคนใหม่
แต่เพราะรู้ว่าผมต้องการความรัก และผมเลือกแล้วที่จะรักเก๋ ผมเลยพยายามสานสัมพันธ์กับเก๋ และจะทำเรื่อยไป จนกว่าเก๋จะรู้สึกได้รับความรักจากผม และเธอจะได้มีความสุข
ถ้าเราเข้าใจรักในบริบทของบทความนี้ตรงกันแล้ว ขั้นถัดไปมาดูว่าสานสัมพันธ์ทำอย่างไร
Empathy
Empathy is a way of resonating with another person’s feelings (or an exile’s feelings) — Jay Early, chapter 11, Self Therapy
สำหรับผม empathy คือการเข้าถึงความรู้สึกของคนนั้นผ่านการสั่นพ้อง (resonates)
สมมติมีคนหนึ่งที่รู้สึกสิ้นหวังจนไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว มันมีแต่คนที่เคยสิ้นหวังแบบเดียวกันเท่านั้นแหละ ที่จะเข้าถึงความรู้สึกของคนนั้นได้โดยการกลับไปนึกถึงเหตุการณ์ตอนตัวเองสิ้นหวังในอดีต แล้วพูดออกมาจากพื้นที่ที่สิ้นหวังนั้น
การทำแบบนี้มันต้องทุ่มเทมาก เพราะ การกลับไปขุดความสิ้นหวังกลับมาแล้วปล่อยให้ฮอร์โมนและอารมณ์มันท่วมท้นร่างกายเราไม่ใช่เรื่องสนุก แต่เรายอมทำเพราะมันเป็นทางเดียวที่เราจะลงไปในหลุมเดียวกับคนที่เราพยายามจะ empathize ด้วยได้ และจะได้ไปขั้นต่อไปได้ นั่นคือ compassion
Compassion
Compassion is a feeling of loving kindness toward someone (or an exile) in pain. — Jay Early, chapter 11, Self Therapy
Compassion คือการส่งความความรักความกรุณาไปให้คนนั้นที่กำลังเจ็บปวด สายสัมพันธ์เกิดเมื่อคนเราได้รับความรักความกรุณา
ชีวิตมันไม่ได้มีแต่สุขเสมอไป มันมีสุข มีทุกข์ และการที่มีคนเห็นความสุข ความทุกข์ ของเรานี่แหละ ที่เป็นการยืนยันการมีตัวตน การมีชีวิตอยู่ในสังคมนี้ การถูกมองเห็นทำให้เรารู้สึกมีพื้นที่ในสังคมนี้ เพราะสายสัมพันธ์จะถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติทุกครั้งที่มีคนมองเห็นความรู้สึกลึก ๆ ของเรา
แล้วรักจากตามมาเอง
พอเกิดสายสัมพันธ์ ความรักก็จะไหลผ่านบนสายสัมพันธ์นี้อย่างเป็นธรรมชาติ
It is important to understand how they are different, especially in relating to your exiles. If you feel empathy for an exile without also feeling compassion, there is a danger that you will become to blended with her (because of resonance) and lose contact with Self — Jay Early, chapter 11, Self Therapy
ลองจินตนาการว่าเรากำลังตกหลุมลึก ๆ อยู่ลำพัง ขึ้นไปเองไม่ได้ มีคนผ่านไปผ่านมา ยืนตะโกนให้กำลังใจจากปากหลุม นี่คือสภาพของคนสิ้นหวัง
แล้วมีคน ๆ หนึ่ง เสี่ยงปีนลงมาในหลุมนี้ (ด้วย empathy) เสี่ยงที่จะลงมาติดหลุมเดียวกัน (ถ้าสั่นพ้องมากเกิน) เพื่อยื่นมือดึงเราขึ้นไป (ด้วย compassion) ผมว่ามันเข้าใจง่ายมากเลยว่าทำไมเราจะรู้สึกสนิทใจกับคนนั้น (เกิดสายสัมพันธ์)
ถ้าอ่านข้อความที่ผม quote มาจากหนังสือ จะเห็นศัพท์เฉพาะทางของศาสตร์ Internal Family System (IFS) เช่น Self, exile หรือ blended เพราะบริบทในหนังสือคือการทำงานของโลกภายในเราเอง และสานสัมพันธ์กับเสี้ยวส่วนต่าง ๆ ของเราเอง แต่บริบทในบทความนี้คือการสานสัมพันธ์กับคนอื่นที่เราให้ความสำคัญ ผมพบว่าประสบการณ์ที่ผมได้จากการฝึกทำ IFS ตามหนังสือมีประโยชน์มากตอนผมเอามาประยุกต์ใช้สานสัมพันธ์กับคนอื่น และหวังว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นเช่นกัน ก็เลยเอามาแบ่งปันครับ
ส่วนใครที่สนใจศาสตร์ IFS แล้วอยากศึกษาเพิ่มเติม ลองไปอ่านหนังสือ Self Therapy หรือไปเรียน parts work based on IFS กับพี่หลิ่งดูนะครับ ผมก็ไม่รู้พี่เค้าจะเปิดเมื่อไหร่ แต่ถ้าคุณอยากมากพอ ผมเชื่อว่าจักรวาลจะจัดสรรให้คุณได้เรียนครับ :)