เขียน learning objective ด้วย bloom taxonomy

มีครั้งหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังสอน Scrum แล้วกำลังสอนไม่ทัน ผมเลยให้คนเรียนเลือกว่า ใน 3 หัวข้อที่เหลือนี้ เค้าอยากเลือกหัวข้อไหน ปรากฏว่าคนเรียนก็ตัดสินใจไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่า 3 หัวข้อนี้มันเกี่ยวกับอะไร เพราะเค้ายังไม่เคยเรียน 3 หัวข้อนี้ มันจึงเป็น keyword ที่เค้าไม่รู้จัก

ผมใช้เวลาอธิบายคร่าว ๆ ว่าแต่ละหัวข้อเกี่ยวกับอะไร สรุปหมดเวลา ไม่ได้เรียนซักเรื่อง :D

ผมติดใจกับเรื่องนี้มาก เลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาชาวออด-อีใน Odd-e gathering ที่เราชาวออด-อีทั่วโลกจะมาเจอกันปีละ 2 ครั้ง เพราะในวงนั้นมี trainer ระดับโลกหลายคน เช่น Bas Vodde, Viktor Grgić, Lv Yi เป็นต้น

สิ่งที่ผมจำได้แม่นเลยคือ ข้อสรุปที่ผมได้จากการถกกันครั้งนั้น คือ ผมไม่ควรถามคนเรียนว่าเค้าจะเรียนอะไร ถึงผมจะอยากจะ child center (ซึ่งในบริบทนี้ก็ไม่เด็กซักเท่าไหร่ :P) แต่การถามคนเรียนที่ไม่รู้ว่าเค้ายังไม่รู้อะไร เค้ามีข้อมูลไม่พอจะตัดสินใจ ในจังหวะนั้น ผมควร take ownership แล้วตัดสินใจว่าเท่าที่ผมรู้จักเค้า อะไรน่าจะดีกับพวกเค้าที่สุด และการละเลยความรับผิดชอบตรงนั้น ก็ไม่รู้จะมีผมเป็น trainer อยู่ในห้องตรงนั้นไปเพื่ออะไร? (ผมนี่ร้องซี๊ดดด เลย)

“Bloom’s Taxonomy” by Vandy CFT is licensed under CC BY 2.0

ตอนผมไปเรียน Training from the back of the room by Shane Hastie ผมได้รู้จักกับ Bloom taxonomy เป็นครั้งแรก คนสอนใช้สิ่งนี้เขียน learning objective ว่าเรียนเรื่องนี้จะได้อะไร ตัวผมเองที่มีโอกาสเขียน course outline บ่อย ๆ ก็เคยเขียน learning objective เหมือนกัน แต่เมื่อก่อนก็เขียนไปมั่ว ๆ ไม่ได้มีหลักการอะไร

พอได้รู้จักกับ bloom taxonomy ทำให้ผมเลือก level ว่าผมอยากให้คนเรียนเข้าใจลึกซึ้งแค่ไหน แค่พอจำได้ หรือระดับที่สร้างมันขึ้นมาเองได้เลย แล้วใน level นั้นค่อยไปเลือกอีกทีว่าเค้าจะ “ทำ” อะไรใน level นั้นได้ เช่น ในเลเวล apply คนเรียนสามารถคาดหวังได้ว่าเรียนเสร็จจะเอาไปทำงานได้ หรือสาธิตได้ หรือ sketch แผนภาพออกมาได้เป็นต้น

ตั้งแต่นั้นมาหลังจากผมเขียน course outline ผมก็เขียนวัตถุประสงค์การเรียนรู้ได้รู้เรื่องขึ้นเยอะเลย

ที่พิเศษกว่านั้นคือ เดี๋ยวนี้เวลาผมสอนไม่ทัน แล้วผมอยากจะให้คนเรียนเลือกว่าด้วยเวลาที่เหลือ คนเรียนอยากใช้เวลากับหัวข้อไหนมากที่สุด ผมไม่ต้องอธิบายรายละเอียดแต่ละเรื่องเพื่อให้คนเรียนสามารถตัดสินใจได้อีกแล้ว เพราะผมสามารถบอกวัตถุประสงค์การเรียนรู้ได้กระชับและเห็นภาพได้แล้ว ผมไม่ต้องเสียเวลาเล่ารายละเอียดอีก ผมพบว่าสิ่งนี้เป็นประโยชน์กับการเรียนการสอนมาก เลยอยากจะเอามาแบ่งปัน ถ้าเอาไปใช้แล้วเป็นยังไง มาเล่าสู่กันบ้างนะครับ ขอบคุณครับ!