เข้าใจกันอย่างโรแมนติก และจากกันไปอย่างคลาสสิก

Chonlasith Jucksriporn
odds.team
Published in
5 days ago

ในคลาส Less in Action ตอนแรกสุดของคลาสเลย Terry ชวนให้ช่วยกันคิดว่าอะไรคือ โรแมนติก (Romantic) อะไรคือ คลาสสิก (Classic) ทั้งห้องก็ช่วยกันออกความเห็น พอจะสรุปออกมาได้ประมาณนี้

โรแมนติก (Romantic)

  • เป็นเรื่องระหว่างบุคคล ฉันแคร์เธอ ฉันเข้าใจเธอ
  • เป็นเรื่อง emotional
  • เป็นเรื่องปัจจุบัน และอนาคต
  • อุดมคติ อารมณ์เหมือนวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์

คลาสสิก (Classic)

  • เป็นเรื่องที่ไม่ได้สนใจเวลา
  • เรียบง่าย
  • ถูกส่งต่อจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง

ลองคิดดูว่า ถ้าเราเป็นทั้งคนที่โรแมนติก แถมยังคลาสสิก มันจะยอดเยี่ยมขนาดไหน

Terry บอกว่า ตอนเวลาที่เราต้องไปทำ Product Backlog Requirement หรือตอนที่เราไปเก็บรายละเอียด requirement อยากให้เรา Be romantic นั่นคือ ให้เราทำความเข้าใจผู้ใช้ (User/Persona) จริง ๆ ว่าเค้าต้องการอะไร อยากจะแก้ปัญหาอะไรกันแน่ ถึงแม้ว่าลูกค้า (Customer) เค้าอยากให้เราพัฒนาฟีเจอร์ A, B, C ก็ตาม ในความเป็นจริง ผู้ใช้อาจจะไม่ได้อยากได้ฟีเจอร์พวกนั้น เค้าแค่อยากจะแก้ปัญหาอะไรบางอย่างเท่านั้น แค่ลูกค้าอาจจะคิดว่าฟีเจอร์ A, B, C จะแก้ไขปัญหาพวกนั้นของผู้ใช้ได้ ทั้งที่จริง อาจจะแก้ได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ เราควรจะช่วยเค้าคิด ท้าทายพวกเค้าว่าฟีเจอร์พวกนั้นมันส่งมอบ Business value อะไรให้กับผู้ใช้ เพื่อให้เค้าได้เลือกทำของที่มีคุณค่า และคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนจริง ๆ (Make the right thing)

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า เราไม่ได้ทำงานคนเดียว เราไม่ได้ทำงานแค่แป๊บเดียว ผลงานที่เราทำก็จะมีคนมาทำต่อ ดังนั้นตอนเวลาที่เรา implement ฟีเจอร์พวกนั้น อยากให้เรา Be classic นั่นคือ ของพวกนั้นควรจะเรียบง่าย เข้าใจง่าย ปรับปรุงแก้ไขได้ง่าย ไม่เช่นนั้น มันจะกลายเป็น waste มหาศาลที่ลูกค้าจะต้องเสีย เพื่อทำการเข้าไปปรับปรุงแก้ไข source code ของเรา เพราะเค้าจะต้องมาเรียนรู้ว่าเราเขียนอะไรไป เขียนเพื่ออะไร เพื่อแก้ไขปัญหาอะไร ฯลฯ การที่เราจะทำของให้เรียบง่ายได้ ก็ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ เราจะเขียนโค้ดให้เรียบง่ายตั้งแต่แรก สิ่งที่เราควรใส่ใจก่อนที่จะทำให้มันเรียบง่ายคือ ทำให้มันทำงานได้อย่างถูกต้องก่อน (Make the thing right) เสร็จแล้วค่อยทำให้มันเรียบง่ายผ่านกระบวนการ Refactoring อย่างสม่ำเสมอเพื่อที่จะทำให้ code ของเราไม่ยุ่งเหยิงเกินไปตอนเราพยายาม refactor มัน

ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่ามันไม่ได้ยากเกินไปที่จะเป็นทั้งคนที่โรแมนติก และคลาสสิก แค่ขอให้โรแมนติก และคลาสสิกให้ถูกที่ถูกเวลา เราก็จะกลายเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากทำงานด้วยทั้งนั้น

--

--