เรื่องมันเศร้าขอเหล้าเข้ม ๆ ตอนที่ 1 นนท์ (NON)

Chokchai Phatharamalai
odds.team
Published in
2 min readJul 5, 2021
Photo by Johann Trasch on Unsplash

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น ทั้งชื่อและเนื้อหาล้วนเป็นเรื่องที่ผมแต่งอุปโลกน์ขึ้นมาเองเพื่อสร้างความบันเทิงและอาจจะนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ เท่านั้น ไม่มีเค้าความจริงแต่อย่างใด

Business people and developers must work together daily throughout the project.

นนท์มีอาชีพเป็นสกรัมมาสเตอร์ที่ให้ความสำคัญกับ Agile principle ด้านบนมากที่สุด มากขนาดที่ว่า หลายต่อหลายครั้งที่มีคนติดต่อมาให้นนท์ไปช่วย สิ่งแรกที่นนท์ตรวจสอบคือตำแหน่งของคนที่ติดต่อมา เรียกว่า ถ้าคนที่ติดต่อมาอยู่ใต้ CIO หรือ CTO นนท์จะหาข้ออ้างปฏิเสธทันทีโดยไม่สนใจรายละเอียดของงานด้วยซ้ำ

แล้วนนท์ก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทแห่งหนึ่ง เค้ากำลังต้องการสร้าง mobile app ใหม่ให้กับลูกค้าใช้

นนท์เข้าไปช่วยบริษัทแห่งนี้เพราะสปอนเซอร์ที่ติดต่อมาที่ชื่อคุณสวยเป็นหัวหน้าฝ่าย customer engagement และเธอเป็นรองแค่ CMO เท่านั้น และ engagement ลูกค้าทั้งหมดของบริษัทที่ผ่านช่องทาง mobile app ทั้งหมดอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบเธอ

นนท์อธิบายเรื่อง cross functional ให้คุณสวยและทีมงานของเธอเข้าใจ และได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่ายจนสามารถฟอร์ม cross functional ทีมได้สำเร็จ ทีมที่นนท์โค้ชมีทักษะหลากหลายตั้งแต่คิดโปรโมชั่น, สำรวจราคาตลาด, เขียนโค้ด, ทดสอบระบบ, จนถึง deploy ได้ในทีมนี้เลย

และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของทีมนี้คือ เป้าหมายของทีมนี้ในแต่ละ sprint นั้น จะเป็นการเพิ่มยอดขาย, ลด cost, ขยายฐานลูกค้า หรือทำเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร

เป็นทีมที่ไม่เคยสนใจว่าอะไร เสร็จ หรือ ไม่เสร็จ เพราะทีมนี้เชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้ชนะในธุรกิจไม่ได้อยู่ที่ใครสร้าง output ได้มากกว่ากัน แต่อยู่ที่ outcome ของ impact ที่ทีมเราสร้างต่างหาก

พอเห็น sprint goal ของทีมที่ตัวเองโค้ช ก็อดนึกเยาะเย้ยเพื่อนสกรัมมาสเตอร์ของตนที่ชื่ออิฐไม่ได้

อิฐเป็นเพื่อร่วมอาชีพสกรัมมาสเตอร์เหมือนนนท์ อิฐเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ technical excellence เรียกว่าเป็นทั้งคู่หูและคู่แข่งของนนท์เลยก็ว่าได้

“ป่านนี้คงกำลังช่วยทีมให้ปั่นงานเร็วที่สุด โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าของที่ทำออกมามันทำเงินได้สักบาทไหมอยู่ละมั๊ง” นนท์ยิ้มเยาะ

ถึงทีมของนนท์จะมี goal ที่ชัดเจนมาก และคนในทีมไม่เคยมีปัญหาเรื่องหมดไฟเลย ในทางกลับกัน ปัญหาที่ทีมมักจะเจอคือ ไฟท่วมเกินไปมากกว่า

ใน product backlog refinement ครั้งหนึ่ง สวยที่เป็น product owner บอกทีมว่า บริษัทเรามี deal กับร้านข้าวเหนียวไก่ทอด ถ้าลูกค้าเล่นเกมในแอพของเราจนชนะ สามารถ redeem ของขวัญเป็นน่องไก่ที่ร้านได้ฟรี ปัญหาคือ deal นี้ valid ถึงสิ้นเดือนหน้าเท่านั้น เราจึงต้องพยายามปล่อยแคมเปญนี้ออกไปให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็วเท่าไหร่ เราก็มีเวลาให้ลูกค้าได้เล่นเกมเพื่อชิงรางวัลเร็วเท่านั้น สวยรู้ว่า timeline มันบีบมากสำหรับทีมเรา เราจะทำยังไงกันดี

หนี้ทางเทคนิค

นนท์เห็นว่านี่เป็นจังหวะดีที่จะอธิบายคอนเซ็ปท์เรื่อง technical debt หรือหนี้ทางเทคนิคให้ทั้งทั้ง product owner และทีมฟัง นนท์เปรียบหนี้ทางเทคนิคกับหนี้บัตรเครดิต มันเหมือนกันตรงมันมีดอก และเราต้องจ่ายดอกมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราไม่รีบโปะมัน

หลังจากวิเคราะห์ความเสี่ยง ข้อดีข้อเสียแล้ว ทีมก็ตัดสินใจจะลองพยายามทำให้ทัน

ระหว่างมี่ทีมกำลังฝืนทำจนทันนั้น นนท์ก็เห็นทีมละทิ้งทุกกระบวนท่าที่นนท์สอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Test Driven Development, การทำ automate end-to-end test, การ timebox เวลาทำงานนั่นคือเริ่มและเลิกตรงเวลา ทีมนัดกันมาทำเสาร์อาทิตย์ด้วย นนท์เองก็ตัดสินใจมาทำงานเสาร์อาทิตย์เช่นกัน

ถึงนนท์จะรู้ดีว่า การมาทำงานนอก timebox เป็นการบอกกราย ๆ ว่านนท์ ok ที่จะให้ทีมฉีก timebox ทิ้งในจังหวะนี้ แต่นนท์ให้ความสำคัญกับการมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทีมในเวลานี้มากกว่า

บริษัทที่นนท์โค้ชไม่มีนโยบายการจ่าย OT แต่สวยก็ชดเชยโดยการซื้ออาหาร ชานมและขนมนมเนยมาเติมให้ทีมไม่ขาด เพื่อขอบคุณน้ำใจทีมที่มาช่วยกันในภาวะคับขันนี้

นอกจากนี้สวยก็คอยอยู่เพื่อตอบคำถามหรือช่วยเหลือทีมเท่าที่จะทำได้

แล้วทีมก็ทำสำเร็จ สามารถ launch campaign ออกไปทันภายใน 3 สัปดาห์ แล้ว campaign ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี คูปอลที่ดีลมาถูกใช้จนหมด ยอดการใช้ของลูกค้าก็พุ่งสูงขึ้น ทีมได้รับคำชมมากมายทั้งจากลูกค้าและเพื่อน ๆ ในองค์กร ซึ่งคำชมเหล่านี้สวยก็เล่าให้ทีมฟังในงานเลี้ยงฉลองหลัง release สำเร็จ

ถ้านี้เป็นการ์ตูน Walt Disney ทีมคงอยู่กันอย่างมีความสุข happily ever after แต่พอมันไม่ใช่ มันก็ต้องมีปัญหาตามมาเป็นธรรมดา

นั่นคือเหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้เกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุก ๆ ครั้งที่ทีมดันจนมันผ่านไปได้แต่ละครั้ง ก็สร้างซากปรักหักพังไว้ใน product ทำให้หนี้ทางเทคนิคสูงขึ้นเรื่อย ๆ ความเร็วของทีมก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัดจนเหลือไม่ถึงครึ่งจากเมื่อก่อน

นอกจากนี้ ยังมีของพังบน production ที่ลูกค้ากำลังใช้งาน ซึ่งทำให้ทีมต้องหยุดทำของที่กำลังทำอยู่ เพื่อสลับไปดับไฟเป็นพัก ๆ และทุกครั้งที่ดับ ก็ทำได้แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน เพื่อให้ผลกระทบที่มีกับลูกค้านั้นน้อยที่สุด แล้วไอ้วิธีแก้ดี ๆ ที่เคยเตรียมไว้ก็ไม่เคยถูกทำเลย เพราะความเร็วของทีมในปัจจุบันนี้มันวิ่งตามธุรกิจไม่ทันแล้ว

นนท์แนะนำสวยให้ลองมองดูทางเลือกที่จะสร้าง product ใหม่ เพราะหนี้ทางเทคนิคที่มีมันเกินจะจ่ายไหวแล้ว สวยอยู่กับทางเลือกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะสวยลงทุนกับ product นี้ไปเป็นสิบล้านแล้ว การลงทุนอีกสิบล้านเพื่อให้ได้ของเดิมเป็น business case ที่ขายไม่ออกจริง ๆ แต่จากการประมาณการของนนท์ งบประมาณที่ต้องใช้เพื่อปลดหนี้ทางเทคนิคที่ต้องใช้เวลาเกือบ 2 เท่าของการสร้างใหม่ และทุกวันที่สวยกำลังตัดสินใจว่าจะไปทางไหนดี ทีมก็ช้าลงเรื่อย ๆ ถูกจัดจังหวะจากของที่พังบน production บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้อย่าว่าแต่ออกแคมเปญใหม่ ๆ ให้ทันเลย แค่ให้บริการพื้นฐานกับลูกค้าอย่างไม่สะดุดก็ยากขึ้นทุกวัน

แล้ววันหนึ่ง สมาชิกอาวุโสของทีมคนหนึ่งก็มาขอลาออก เค้าบอกว่าเค้าบอกว่าเค้าอิ่มตัวกับงานที่ทำอยู่แล้ว อยากออกไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ บ้าง

การออกของสมาชิกอาวุโสเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของโดมิโน เมื่อแรงกดดันเท่าเดิมแต่สมาชิกในทีมน้อยลง สมาชิกคนอื่น ๆ ก็ทนแรงกดดันไม่ไหว ทยอยออกกันไปทีละคนสองคน แม้สวยจะพยายามเต็มที่ที่จะหาคนมาแทน แต่หนี้ทางเทคนิคที่มีทำให้น้องใหม่เรียนรู้งานนานมาก กว่าจะเริ่มช่วยเหลือทีมได้ บางคนฝึกไม่ทันเสร็จ ก็ทนแรงกดดันไม่ไหวจนต้องออกไปก่อน

สุดท้าย product ตัวนี้ก็โดนปิดตัวลงพร้อมกับใบลาออกของสมาชิกคนสุดท้ายของทีม นั่นคือจุดที่ไม่เหลือคนที่มีความรู้เรื่อง product นี้เหลือในองค์กรแล้ว

เมื่อไม่เหลือทีม สกรัมมาสเตอร์ก็หมดประโยชน์ engagement ของนนท์จึงจบลงเท่านี้

นนท์เก็บข้าวของ ร่ำลาเพื่อน ๆ ในองค์กรเสร็จ ระหว่างหอบลังเดินไปที่รถ ก็นึกถึงคำของอิฐคำหนึ่งขึ้นมา

สำหรับโปรแกรมเมอร์มันไม่สำคัญหรอกว่าออฟฟิศจะสวยแค่ไหน หรือโต๊ะจะเรียบร้อยสะอาดยังไง เพราะพวกเค้าไม่ได้ใช้ชีวิตในนั้น เค้าใช้ชีวิตอยู่ในโค้ด อยู่ใน product ที่กำลังพัฒนา โค้ดที่สะอาดเป็นสวัสดิการที่ดีกว่าโต๊ะราคาแพงเป็นไหน ๆ

“ไม่ได้เจอไอ้อิฐนานแล้ว นัดมันออกมาดื่มกันสักทีดีกว่า” นนท์บอกกับตัวเองว่าเมื่อถึงรถ เก็บของเสร็จแล้ว จะลองโทรหาอิฐดูสักที

--

--