เอาเทคนิคการเรียนรู้แบบ FAST มาฝาก

Kan Ouivirach
odds.team
Published in
1 min readJul 9, 2022
Photo by Nick Morrison on Unsplash

เคยได้ยินกันไหมว่า “ถ้าเราเปลี่ยน mindset ชีวิตเราก็เปลี่ยน” ประโยคนี้สามารถใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตของเราเลยครับ มันเป็นเรื่องของมุมมอง และสมองของเรา หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ถ้าเราสามารถ hack สมองของเราได้ พฤติกรรมของเราก็จะเปลี่ยนตาม และสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตก็จะเปลี่ยนไป 😎

การเรียนรู้ก็เช่นกันครับ ถ้าเราสามารถเปลี่ยน mindset ในการเรียนรู้ของเราได้ เราจะรู้สึกได้เลยว่าเราเก่งแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว

อ่ะ ที่เขียนมานี่ เพราะอยากมาแนะนำเทคนิคการเรียนรู้ครับ ชื่อว่า “FAST” มี 4 ข้อ ตามตัวอักษร

F มาจากคำว่า FORGET

Steve Jobs กล่าาไว้ในงานรับปริญญาที่ Stanford ว่า “Stay hungry. Stay foolish.” ดังนั้นก่อนที่เราจะเรียนรู้เรื่องอะไร หรือฟังคนอื่นแชร์ในเรื่องที่ตัวเองคิดว่ารู้อยู่แล้ว ให้ “FORGET” เรื่องนั้น ๆ และความเชื่อในหัวของเราก่อน จึงค่อยเปิดรับสิ่งที่เรากำลังจะเรียนรู้เข้ามา

เพราะเมื่อไหร่ก็ตามถ้าเราไม่ FORGET แล้ว เราจะกลายเป็นน้ำเต็มแก้วทันที เวลาใครพูดอะไรมา เราจะ defend สิ่งที่เค้าพูด และเราจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย

ผมมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า คนเราเวลาพูดในสิ่ง ๆ เดียวกัน เค้าจะพูดมาในมุมมองของตัวเอง ดังนั้นแปลว่าไม่ว่าเค้าจะพูดอะไรมาก็ตาม สิ่ง ๆ นั้นจะเป็นเรื่องใหม่ของเราเสมอ 😉

A มาจากคำว่า ACTIVE

ในประเทศไทย และประเทศเอเชียต่าง ๆ การเรียนในโรงเรียน หรือในมหาวิทยาลัย จะเป็นแนว passive หมด (อ. พูดอย่างเดียว เรานั่งฟัง) ซึ่งต่างกับทางตะวันตก ที่นักเรียนจะมีการโต้ตอบกลับเกือบตลอดเวลา

สิ่ง ๆ นี้แหละ เราเรียกว่า ACTIVE ครับ คือเราในฐานะคนเรียน ถ้าต้องการที่จะเรียนรู้ในเรื่องนั้น ๆ เราต้อง “ACTIVE” เช่น ถามคำถาม จดโน้ต ทดลองทำจริง พูดคุยกันในกลุ่ม ฯลฯ

คำแนะนำของผมนะ การที่เราเรียนแบบ passive มาหลายปี การจะปรับเปลี่ยนไปเป็น active นั้นทำได้ยาก อยู่ดี ๆ เราจะถามคำถามเลยคงเป็นไปได้ยาก ลองสังเกตดูเวลาที่ พี่ ๆ ถามเราว่า “มีอะไรสงสัยไหม?” หรือ “ใครมีคำถามบ้าง?” มันจะ dead air ทันที 😂

เอาใหม่ ต่อไปนี้ผมอยากให้ทุกคนลองฝึกแบบนี้ครับ.. แทนที่จะเราจะตอบคำถาม ให้เรา “ทวนสิ่งที่เราได้ยินกลับไป” แบบนี้คิดว่าน่าจะเครียดน้อยกว่าเนอะ

S มาจากคำว่า STATE

ตรงนี้เป็นการจัดสภาพร่างกาย และสภาพแวดล้อมของเราให้เหมาะสมกับการเรียนครับ เช่น นอนพักผ่อนเต็มอิ่มก่อนไปเรียน ตอนเรียนก็ปรับท่านั่งให้เหมาะสม นั่งตัวตรง หรือจัดโต๊ะให้สะอาด นั่งสมาธิ ปิดโปรแกรมพวก instant messaging ให้หมด ฯลฯ

จัด state ของตัวเองให้พร้อม เราจะเรียนรู้ได้ดีขึ้นเยอะ

T มาจากคำว่า TEACH

ส่วนใหญ่ 3 ข้อแรกอาจจะทำกันอยู่แล้วบ้าง ถ้าเสริมได้ ผมอยากให้ทุกคนเสริมข้อนี้เข้าไปครับ นั่นก็คือ “TEACH” เนื่องจากว่าส่วนใหญ่เราอาจจะมองแค่ว่าเราเรียนไปเพื่อทำงานให้ดีขึ้น เราเรียนไปเพื่อเราจะได้ทำสิ่ง ๆ นั้นได้ อะไรประมาณนี้

แต่น้อยคนที่จะมาเรียน เพื่อที่จะเอาไปสอนครับ การเรียนเพื่อที่จะเอาไปสอนนั้น แตกต่างอย่างมากในการเรียนเพื่อที่จะเอาไปทำงานให้ได้ เพราะว่าการที่เราจะสอนได้นั้น เราจะต้องสามารถอธิบายสิ่งที่อยู่ในหัวของเราให้คนอื่นเข้าใจว่าเราต้องการที่จะสื่อสารอะไรให้ได้ ซึ่งหมายความว่าในขณะที่เราเรียน เราจะต้องคิดคำพูดของเราแล้วว่า ถ้าเป็นเราพูดประโยคนี้ เราจะพูดในแบบของเราว่าอะไร

ลองดูนะครับ ลองปรับความคิดของเรา หรือ hack สมองของเราก่อนเรียนให้เป็น “เราจะเรียนเพื่อไปสอนต่อ” ผมมั่นใจมากกว่าทุกคนจะเปิดโลกใหม่ในการเรียนรู้ครับ

Happy FAST Learning 😊

ปล. สรุปมาจากบทความของ Jim Kwik 👉🏻 Learn ANYTHING Faster

--

--

Kan Ouivirach
odds.team

Data Craftsman. Passionate in software engineering, data engineering, and data science. ♥