แปรงฟัน
ผมแปรงฟันผิดวิธีมาตลอดชีวิตเลย ผลที่ตามมาก็คือคอฟันผมสึก ทำให้เสียวฟันเวลาทานอะไรเย็น ๆ โดยเฉพาะหลังทานของเปรี้ยวเช่น มะม่วง หรือมะยม แล้วต้องคอยใช้ยาสีฟันที่ลดการเสียวฟันคอยช่วยอยู่เป็นพัก ๆ ผมเพิ่งมาเข้าใจมากขึ้นตอนแปรงฟันให้ลูกวัย 8 ขวบนี่แหละ ว่าผมควรเปลี่ยนการแปรงฟันอย่างไร
แปรงแบบถูไปมา
คือการถูแปรงซ้ายขวาตามแนวเหงือก ซึ่งเป็นวิธีแปรงสำหรับเด็กก่อนวัย 8 ขวบ เพราะเด็กวัยนี้ฟันยังขึ้นมาไม่เต็มที่ ว่าง่าย ๆ คือ คอฟัน ยังไม่โผล่พ้นเหงือกมา เลยแปรงแบบนี้ได้ การแปรงแบบนี้คือถูไปมาบริเวณละ 5 ครั้ง
ผมแปรงแบบนี้มาจนอายุ 30 กว่านี่แหละ ถึงได้มีปัญหาคอฟันสึก เพราะ ไปถูจนคอฟันมันเสียหายหมด
แปรงแบบปัดขึ้นปัดลง
พอลูกอายุ 8 ขวบ หมอให้เปลี่ยนการแปรงฟันเป็นปัดขึ้นปัดลง และให้ปัดหลาย ๆ ครั้งให้สะอาด แต่ปัดเบา ๆ เพื่อรักษาคอฟันไม่ให้สึก
ฟลูออไรต์
ตั้งแต่เด็ก หมอฟันแนะนำลูกผมให้ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรต์ และตอน 8 ขวบให้เพิ่มปริมาณฟลูออไรต์เป็น 1500 ppm หลังแปรงฟันเสร็จก็ให้ถุยยาสีฟันออก แต่ไม่ต้องบ้วนปาก เพื่อเก็บฟลูออไรต์ไว้เคลือบฟัน เพราะมันจะช่วยให้ฟันแท้ที่จะขึ้นมาแข็งแรง เพราะถ้าผ่านเวลานี้ไปจนฟันแท้ขึ้นครบหมดแล้ว ฟลูออไรต์ก็จะไม่ช่วยอะไรแล้ว อย่างผมที่อายุ 40 ไปเคยไปถามหมอฟันว่าเคลือบฟลูออไรต์ให้ได้ไหม หมอฟันตอบว่าไม่มีประโยชน์
แปรงนาน ๆ แต่เบา ๆ
ผมเป็นคนที่ทีปัญหาเรื่องหินปูนหลังฟันหน้ามาก เพราะแปรงฟันไม่สะอาดนี่แหละ สิ่งสำคัญที่ผมได้เรียนรู้จากการแปรงฟันให้ลูกตามคำแนะนำของหมอฟันคือ การแปรงฟันให้สะอาด ไม่ใช่การแปรงแรง ๆ เพราะมันทำร้ายเนื้อฟัน ทำให้เหงือกร่น มีปัญหามากมายตามมาได้ การแปรงให้สะอาดคือการแปรงเบา ๆ แต่นาน ๆ ปัดหลาย ๆ ที ไม่ต้องแรง เดี๋ยวก็สะอาดเอง
ผมเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ แค่จำ ๆ มาจากคำหมอฟันหลาย ๆ คนมาปะติปะต่อกันเอง ถ้าใครมีมุมมองที่แตกต่างก็แบ่งปันผมด้วยนะครับ หวังว่าจะช่วยให้ผู้อ่านมีสุขภาพฟันที่ดีไปนาน ๆ ครับ
