7 เครื่องมือที่หลอกให้คนคุยกัน

Picture From https://www.thefactsite.com/pinokios-paradox/

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน (ที่จะเขียน blog นี้) Roof เขียน blog เรื่อง ประเมินความเข้าใจ (Agile Estimation) เอาไว้ได้น่าสนใจมากเลย แล้วผมก็มีโอกาสได้คุยกันกับแบงค์ Apirak ถึงเรื่องนี้ แบงค์ก็พูดขึ้นมาประมาณว่า “…นี่มันเป็นเรื่องที่เอาไว้หลอกให้คนคุยกันนี่ เราน่าจะมารวบรวมเอาไว้นะ ประมาณว่า ‘Top 10 เครื่องมือที่หลอกให้คนคุยกัน’ อะไรแบบนี้ดีไหม” ผมก็เลยตกลงกับแบงค์ว่าผมจะเขียน blog แนวๆ Agile กับ Scrum แล้วกัน ส่วนแบงค์เขียนแนว UX เพราะฉะนั้น blog นี้ก็เลยมี theme แบบ “หลอกให้คนคุยกัน” มาดูกันครับว่า เราจะมีเครื่องมือแบบไหนไปหลอกให้คนคุยกันได้บ้าง

Note: แบงค์เขียนถึงฝั่ง UX แล้ว มีเครื่องมือหลายตัวน่าสนใจมากเลย ตามไปอ่านกันได้ ที่นี่ ครับ

1. Story Point

จาก blog ของรูฟที่อธิบายเรื่อง estimation อย่างการใช้ตัวเลข Fibonacci 1,2,3,5,8… เพื่อประเมิน story point ว่า มันไม่ได้ใช้แค่ planning หรือ forcast เท่านั้นนะ มันช่วยให้คนคุยกันด้วย พอเปิดเลขออกมา แต่ละคนก็จะอธิบายความเข้าใจของตัวเองให้คนอื่นเข้าใจ ยิ่งตัวเลขไม่เท่ากันยิ่งดี เพราะยิ่งต้องขุดมุมมองที่ไม่เหมือนกันออกมาให้เข้าใจตรงกันมากขึ้น

… นี่มันเทคนิคหลอกให้คนคุยกันขั้นเทพเลย

2. Burndown Chart

ถ้าพูดถึง story point แล้วไม่พูดถึง burndown chart มันก็เหมือนกินเหล้าไม่มีโซดา (เหมือนกันไหมนะ) จริงอยู่ที่ Burndown chart ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ Scrum ซึ่งหลายๆ ทีมเลิกใช้ burndown chart ไปแล้ว หรือไม่ก็ไม่ใช้ตั้งแต่ต้น แต่สำหรับผม ผมว่ามันก็มีประโยชน์ตรงที่หลอกให้คนคุยกันได้นะ เช่น ถ้ากราฟมันแปลกๆ PO ก็อาจจะถามทีมละว่าทำไมเป็นแบบนี้แบบนั้น ทีมก็จะได้เล่าให้ PO ฟังว่าตอนประเมินมันแค่นี้ แต่พอลง detail ก็พบว่ามันไปกระทบ x,y,z กราฟเลยพุ่งเลย ซึ่ง PO ก็ไม่ได้คิดถึงมาก่อน มันก็ช่วยให้ทุกคนได้คุยกันและจะได้มีข้อมูลที่ครบถ้วนมากขึ้นไง

ส่วน SM ก็จะได้จังหวะตอน retrospective โดยเอา burndown มากางแล้วชวนให้ทีมคิดว่า “เออ แล้ว sprint ต่อๆไป จะทำยังไงให้มันดีกว่านี้นะ?” ยิ่งถ้าผ่านไปหลายๆ sprint แล้วเอากลับมาดูกัน SM ก็ยังหลอกให้คุยกันได้อีกว่า ที่ผ่านมาเราได้เรียนรู้เรื่องอะไรไปบ้าง?

3. User Story / Product Backlog Item

ผมขอรวม 2 อันนี้เป็นหัวข้อเดียวกันเลย ไม่ใช่ว่ามันเหมือนกันอะไรนะ แค่ทั้ง 2 อันมันไม่มี detail ทั้งคู่ มันเลยเหมาะที่จะหลอกให้คนคุยกัน …ยังไง? มาดูกัน

ผม subscribe mailing list กับ Mike Cohn เกี่ยวกับเรื่อง Scrum เอาไว้ มีเรื่องนึงที่เค้ามีมุมมองต่อ user story ได้น่าสนใจ เค้าบอกว่า “A user story is a pointer to a requirement.” คือมันเหมือน instance variable ที่มันไม่ได้เก็บข้อมูลจริง มันแค่ชี้ไปที่ object (requirement) เท่านั้น … เออ แล้ว requirement มาจากไหน? ก็มาจากการคุยกันไง จะตอน Product Backlog Refinement หรือ Sprint Planning ก็แล้วแต่ เราอาศัยการคุยกันเพื่อลง detail แล้ว document ไว้เพื่อช่วยจำ ส่วนจะ documentation ท่าไหนมันก็ได้ทั้งนั้น ขอให้เหมาะกับ requirement นั้นก็พอ เช่น มันอาจจะเป็น UI ก็ได้ อาจจะเป็น spreadsheet หรือ flow chart ก็ได้ ถ้าเอาให้สุดก็ช่วยกันเขียน test case ก่อนเลย เพราะฉะนั้นจะมองว่ามันเป็นเครื่องมือที่หลอกให้คนคุยกันก็ได้นะ

4. Sprint Backlog แบบ Physical Board

Sprint Backlog เป็นเครื่องมือสำหรับทีมเพื่อให้เห็น real-time picture ของงานใน sprint และมันควรจะ “highly visible” นะ ผมจึงมักจะบอกทีมที่เริ่มใช้ Scrum ว่าเรามาใช้ผนังทำบอร์ด Todo/Doing/Done ง่ายๆก่อน เวลา Daily Scrum เราจะได้เล่าให้เพื่อนฟังง่ายๆ จะ update ก็ง่าย ถ้าไม่มั่นใจว่างานไหนใครเอาทำดี ก็ชวนเพื่อนไปคุยหน้า board พอได้ข้อสรุปมันจะได้ update ด้วย หลังจากนั้นทีมก็มักจะใช้ board นี่แหละ update งานกันเอง เป็นเครื่องมือที่ใช้หลอกให้คนคุยกันได้ดีเลย

5. Increment / Definition of Done

ถ้าไม่มี DoD คำว่าเสร็จของแต่ละคนจะไปคนละทาง ไม่งั้นของที่ได้แต่ละ sprint มันก็จะไม่ใช่ Potentially Shippable จริงๆ การตกลงกันเรื่อง DoD และ PSPI ก็หลอกให้คนคุยกันว่า คำว่าเสร็จพร้อม release มันต้องยังไง ซึ่งประโยชน์ของมันไม่ใช่แค่กับสมาชิกในทีมนะ แต่รวมไปถึงทีมข้างเคียงที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งทีม infra, ทีม security ไปจนถึง management เลย แอบพาหลอกไปคุยกันได้เป็นวงกว้างเลย

6. Good/Bad/Try

ใครที่คุ้นเคยกับ Scrum คงคุ้นเคยกับเทคนิคนี้ มันเป็นเทคนิคแรกๆเลยที่ผมหยิบมาใช้ใน Retrospective Meeting ผมอยากเจาะจงเทคนิคนี้ เพราะการเขียนลงบน Post-It ก่อนแล้วค่อยพูด มันทำให้คนที่คิดว่าไม่มีอะไรจะพูด สุดท้ายมันก็มีจนได้ รวมถึงการพูดเรื่องดีๆก่อน (good) เพื่อดึงบรรยกาศของทีมให้กลับมาบวกจะได้มีแรงคุยกันต่อ (bad) ก็เจ๋งมาก ที่สำคัญมันช่วย (หลอก)ให้คนได้คุยกันจริงๆ แถมตบจบด้วยการหลอกให้ช่วยกันหาทางแก้ปัญหาด้วยนะ (try) ผมนี่ยกนิ้วให้เลย

7. กระดาษ Post-It + ปากกาหัวใหญ่

“งั้นมาลองเขียนกันไหม หยิบกระดาษ Post-It กับปากกาขึ้นมา ผมขอ 1 เรื่อง 1 แผ่น คนละกี่เรื่องก็ได้ … ok คราวนี้เรามาแชร์กัน ใบนี้คืออะไรนะ? … group รวมกันได้ไหม? ยังไงดี?, เอาละ มาโหวตกัน, …ฯลฯ”

กระดาษ Post-It นี่แหละ เป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายสำหรับหลอกให้คนคุยกันได้ดีทีเดียว และต้องใช้กับปากกาหัวใหญ่หน่อยด้วยนะ เพราะพอหัวมันใหญ่ มันจะเขียนได้ไม่เยอะ ลงรายละเอียดไม่ได้ จึงต้องเขียนแค่ประโยคสั้นๆ ส่วนที่เหลือก็คุยกัน เหมาะมากเลยที่จะเอามาใช้ใน Sprint Planning, Product Backlog Refinement, Retrospective ยิ่งโดยเฉพาะใน workshop หรือตอน brainstorm ยิ่งเหมาะเข้าไปใหญ่ (ป้ายยาขนาดนี้ 3M จะมาเป็น sponsor ให้ไหมนะ)

Conclusion

สุดท้าย ผมกับแบงค์ก็เลยได้ข้อสรุปตรงกันอย่างนึงว่า หนึ่งในหน้าที่ของ ScrumMaster ก็คือการหลอกให้คนคุยกันผ่านบทบาท facilitator นี่หว่า … เขร้ มันช่างร้ายกาจ!!! 😏

--

--