Design thinking doesn’t work in real life? ???? (Design Thinking ไม่ใช่ไม้วิเศษ จริงดิ)

Dark_Spirit (Warm)
odds.team
Published in
3 min readSep 1, 2020
Photo by Diego PH on Unsplash

พักนี้ได้ยินคนพูดถึงว่า Design Thinking ไม่ work เยอะมากเลยครับ ในฐานะคนที่เอา Tool Design Thinking มาสอน ในการทำ Product Discovery และเรื่อง UX เลยคันปากอยากพูดถึงเรื่องนี้สักหน่อยนึง

Design Thinking ไม้วิเศษ เสกของได้

พักหลังมานี้ ใครๆ ก็ใช้ Design Thinking กันนะครับ เวลาอยากทำ Product ก็จะมีคนบอกแล้วว่างั้น ทำDesign Thinking สิ หรือ เวลามีปัญหาก็มีคนบอกว่าทำ Design Thininkg สิ ประหนึ่งมันเป็น “ไม้วิเศษ เสกของได้”

แล้วพอเป็นอย่างนั้น เราเลยส่งคนไปเทรนบ้าง หรือ ลองเอามาทำกันเลยบ้าง แล้วก็พบว่า “Design Thinking ไม่เห็น work เลย”

มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่านะ ผมอยากจะมาเล่าผ่านประสบการณ์ครับว่าไอ้ที่ว่ามัน ไม่ Work น่าจะเป็นเพราะอะไรบ้าง

สำหรับบทความนี้จะไม่ได้มาเล่าว่า Design Thinking คืออะไรนะ เพราะผมเชื่อว่าคุณสามารถไปหาอ่านได้เยอะมากเลยแหละ

Photo by Matthew Henry on Unsplash

ข้อดีของ Design Thinking

ยึดลูกค้าเป็นหลัก

Design Thinking จะเป็น Customer centric mindset ครับ เพราะในกระบวนการจะเน้นย้ำให้เห็นว่าเราต้องทำความเข้าใจ ลูกค้าก่อนนะ เราต้องรู้จักลูกค้าก่อน เราต้องมี ตัวแทนของลูกค้าเราก่อนนะ

ร่วมมือกันคิด ได้คิดอะไรใหม่ๆ นอกกรอบ

Design Thinking เป็น Collaboration Tool ตัวหนึ่งที่จะทำให้คุณร่วมมือกันช่วยคิดไอเดีย และ ยินยอมให้คุณคิดอะไรที่มันมีความเป็นไปไม่ได้ เพื่อให้คุณคิดนอนกรอบได้ง่ายขึ้น

เน้นคุยกัน เน้น Visualize and Storytelling

โชว์ให้เห็นไปเลย โดยไม่ต้องอธิบาย (Show Don’t Tell) การสื่อสารที่ดีที่สุดก็คือ การแสดงให้เห็น เปิดให้ได้สัมผัสจริงๆ แทนการบอก หรืออีกทาง ก็คือการเล่าเรื่องราว (Storytelling)

Experimentation

Mindset ถึงการสร้าง Prototype and Test ต้องทำเสมอๆ เพื่อที่เราจะได้ Feedback เพื่อเรียนรู้และปรับปรุง

Photo by Element5 Digital on Unsplash

ถ้าจะไม่ Work ก็คงเพราะ

ไม่มีเป้าหมายในการทำ และ ไม่รู้ว่าจะวัดผลอะไร

คิดดูสิว่าคุณกำลังจะมาทำ Design Thinking กันนะ และใช่คุณไม่รู้เนอะว่าจะทำอะไรได้อะไรออกมา แต่ก่อนคุณคุณควรต้องรู้ WHY ก่อนว่าคุณมาทำ Design Thinking กันไปเพื่ออะไร สุดท้ายคุณอยากให้เกิด Impact อะไรขึ้นทั้งกับ Customer และ ฺBusiness ไม่อย่างนั้นคุณจะเหมือน กำลังงมอะไรสักอย่างในมหาสมุทร …

ไม่เริ่มด้วยข้อมูล

เวลาไปเรียนมาเนี้ยเค้าก็จะข้ามกระบวนการ Research ไปนะ เพราะส่วนใหญ่เวลาที่มีมันจะไม่พอที่จะให้ลองทำการ Research เพราะฉะนั้น เวลาคุณจะทำ Design Thinking อะ ไม่ได้เริ่มแบบว่างเปล่าเลยนะ อย่าคิดเอาเองนะ คุณต้องหาข้อมูลกับที่ที่คุณจะเอามาทำให้ได้ก่อน เช่น

  • ข้อมูลลูกค้า กลุ่มลูกค้า
  • ข้อมูล Product ของคุณ Market Research หรือ Research อื่นๆ ที่คุณมีในมือ
  • Data ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า และ Product ของคุณ

ไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริง

แบบว่ามีปัญหาในใจมาแล้วแหละ ผู้บริหารอาจจะตั้งโจทย์มา แล้วปักธงเอาไว้เลยว่านี่แหละคือ ปัญหาที่เราอยากจะแก้ให้ลูกค้า แบบนี้ กลายเป็นว่าคุณไม่ได้คิดนอกกรอบนะ และที่ยิ่งกว่านั้นเป็นไปได้ที่ว่าคุณไม่ได้ Empathy ลูกค้าเลย

อีกอย่างคือคุณทำ Empathy และ Define Problem โดยไม่มีข้อมูลอะไรเลย คุณกำลังคิดเอาเองอย่างเดียว

คิดว่าทำแล้วใช้ได้เลย

Design Thinnking ทำรอบเดียวแล้วได้ของเอาไปทำเลย เยี่ยมจริงๆ !!! …….. เดี๋ยวก่อนนะครับ Design Thinking คือ ของที่ทำให้เรา Fail Fast และ Fail Smart ครับ ไม่มี Tool ใดที่จะวิเศษขนาด เสกของออกมาได้แล้วใช้ได้ดีหรอกครับ กระบวนการใน Design Thinking จะทำให้คุณพบว่าคุณยังไม่มีข้อมูลอะไร หรือ มีอะไรบ้างที่คุณคิดเอง Hypotesic และควรเอาไป Test เพื่อรับ Feedback ให้เร็วที่สุด

คิดอย่างเดียว ไม่เอาไปทำ แล้วเก็บ Feedback

ต่อจากข้อด้านบนเลยครับ บางที่มีทีมทำ Desgin Thinking เต็มไปหมดเลย แต่ไม่มีทีม Delivery อย่างลืมว่าเวลาคุณทำ Design Thinking คุณอาจจะ Test Concept ได้ แต่คุณยังคงต้องทำของ “จริง” ออกมาให้ลูกค้า Test และ เก็บ Feedback นะครับ อย่ามั่นใจว่า Prototype ของคุณได้ทำการ Test แล้วจนกว่าจะเอาของออกไปให้ใช้จริง

ไม่คุยกับคนที่เกี่ยวข้อง Business ไม่คุยกับ Tech

อย่างเอา Design Thinking ทำกันเองเฉพาะผ่าย คุณต้องรู้จักที่จะรวบรวม หรือนำพาเอาผู้เชี่ยวชาญ หรือทีมที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายมาร่วมกันคิด เพื่อที่จะได้มุมมองทั้งหมดที่ Product ของคุณต้องเกี่ยวข้อง และรวมไปถึง คนเหล่านี้อาจจะเป็นคนที่ต้องมีส่วนร่วมในการทำ Product เป็นการดีที่เค้าจะบอกว่าอะไร ควรไม่ควรตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่คุณจะทำจริง แล้ว เค้าบอกว่า “ไม่ได้”

Test ผิดที่ Test ผิดคน

Test ผิด personar หรือ Test แค่เรื่องความสวยงาม แบบนั้นคุณจะได้ Feedback ที่ทำให้คุณหลงทางเพิ่มไปอีก ถ้าเจออย่างนั้นสิ่งที่คุณควรกลับไปเริ่มใหม่ตรงไหน หรือว่าคุณไป Test แค่เรื่อง การใช้งานง่าย หรือความสวยงามอย่างเดียว ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่ Painpoint ที่แท้จริงของ User หรือ ลูกค้า ก็เป็นได้

ใช้แค่ Design Thinking อย่างเดียว

Design Thinking คือกระบวนการทำซ้ำ เพื่อให้เราเก็บ Feedback เอามาพัฒนาปรับปรุง และไม่ใช่กระบวนการ แบบ 1,2,3 ถ้าคุณมีข้อมูลหรือพร้อมตรงไหนคุณก็เริ่มที่ Step นั้นแล้วเก็บ Feedback เพื่อจะได้รู้ว่ายังขาดอะไรต้องกลับมาเริ่มใหม่ตรงไหน และ Design thinking ไม่ใช่ Tool เดียวทีใช้แล้วจบกระบวนการทำ Product โดยทั่วไป Design thinking จะเอามาร่วมกับ Lean UX หรือ Lean Starup เพื่อให้คุณ ทำจริง วัดผลจริง และเรียนรู้เพื่อแก้ไขได้จริงๆ (Discovery and Delivery)

Design Thinking ไม่ใช่ไม้วิเศษ ครับ มันเป็นTool ที่มีไว้ให้คุณเลือกใช้ คุณอาจจะต้องใช้ Tool อื่นมาเสริม เพื่อให้คุณไปถึงเป้าหมาย เช่น

  • Lean UX / Lean Startup
  • Design Sprint
  • Impact mapping
  • User Story mapping
  • etc.
รูปแบบการใช้ Tool จากพี่ Bank เทพ UX

Design Thinking อาจะเป็นไม้วิเศษ แต่ถ้าท่องคาถาไม่เป็น ก็อาจจะเสกของผิด หรือเสกอะไรไม่ได้เลย

Photo by Kristopher Roller on Unsplash

--

--

Dark_Spirit (Warm)
odds.team

From ITSupport to PM jump into Agile world as a SM. The SM/Agile Coach who passionate on Product development, Agile , Transformation ,UX and People.