Focused conversation

ช่วงที่ผ่านมา ผมพบว่าผมได้มีโอกาสใช้ focused conversation เยอะมาก ใช้ตอนโค้ชสมาชิกในทีมสองต่อสอง, ใช้ตอนเก็บเกี่ยวการเรียนรู้หลัง training session, แล้วยังเอาไปใช้เป็นท่า facilitate ใน retrospective อีก

Focused conversation เป็นคำถาม 5 ข้อ เรียงลำดับตามนี้

1. จากเรื่อง… ที่เราคุยกันมา อะไรเด่นสุด?
2. อะไรเซอร์ไพรส์?
3. อะไรทำให้กำลังวล?
4. อะไรให้ความหวัง?
5. ทั้งหมดนี้แปลว่าอะไร?

ค.พิเศษของ focused conversation คือ หลังจากตอบคำถาม 5 ข้อนี้แล้ว มักจะมีของ 3 อย่างเกิดขึ้นกับคนที่ผมคุยด้วย (1) คนที่กำลังติดปัญหา มักจะคิดไอเดียใหม่ ๆ ออก (2) คนที่เพิ่งทำกิจกรรมมา มักจะได้เกร็ดค.รู้ไปใช้ต่อ (3) คนที่กำลังตัดสินใจจะทำอะไร มักจะรู้สึกมีพลังที่จะเริ่มต้น

ทำไม focused conversation ถึงฟังดูวิเศษขนาดนี้?

ผมได้รู้จัก focused conversation จากคอร์ส powerful retrospective ซึ่งเป็นคอร์สออนไลน์ของ Esther Derby ซึ่งได้รับสมญานามว่า เทพธิดา retrospective ร่วมกันกับ Diana Larsen เป็นธรรมดาที่ท่าของเทพธิดาจะเป็นท่าวิเศษ ;)

ค.เข้าใจของผมต่อคำถาม 5 ข้อนี้ ผมเข้าใจว่า คำถามที่ 1 จะเริ่มต้นที่สมองซีกเหตุผล คำถามที่ 2 จะเคาะประตูเพื่อเข้าไปสมองซีกอารมณ์ คำถามที่ 3 และ 4 จะลงไปในอารมณ์ที่ลึกขึ้น และคำถามที่ 5 จะเอาของที่เราพบในคำถามที่ 2–4 กลับมาให้ซีกเหตุผลตีความ

ลำดับของคำถามนี้ ชวนให้ผมนึกถึงตอนตัวเองปั่นป่วน ขณะที่ผมทำค.เข้าใจตนเอง ผมก็ต้องเริ่มจากซีกหัว (เหตุผล) ลงไปยังกาย (อารมณ์) แล้วเอาก้อนปัญญาอะไรไม่รู้กลับมาวิเคราะห์ที่หัวเหมือนกัน

กระบวนการนี้มักจะทำให้เกิดการเรียนรู้ การเรียนรู้มักจะทำให้เกิดแรงใจที่จะเอาไปทดลอง เป็นที่มาที่ทำให้ focused conversation นำผมและทีมไปเจอกับ ไอเดียใหม่ ๆ, เกร็ดความรู้ หรือพลังงานที่จะริเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ ตามที่เล่ามาข้างต้น

credit Dana. for making the photo available through cc at https://flic.kr/p/XQrfa9

focused conversation เป็นทักษะ และถ้าอยากเข้าใจทักษะก็ต้องฝึกฝน ลองตอบคำถามด้านล่างเล่น ๆ ในใจดูนะครับว่า ตั้งแต่ที่คุณเคยอ่านบทความของผมมา

1. อะไรเด่นสุด?
2. อะไรเซอร์ไพรส์?
3. อะไรทำให้กังวล?
4. อะไรให้ความหวัง?
5. ทั้งหมดนี่ สำหรับคุณแปลว่าอะไร?

ผมอยากรู้จังว่าตอบคำถาม 5 ข้อเสร็จแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง? ถ้าแบ่งปันได้เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ :)