Leading Self ~ Personal Growth Workshop

Pornpansa Boonlue
odds.team
Published in
1 min readAug 18, 2023

ในโลกการทำงานที่เราอยู่ปัจจุบันนี้ที่บังคับให้เราเข้าใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง เช่น Software Developer ที่ดีต้องเข้าใจว่า Product Owner ต้องการที่จะสร้างอะไร ตัว Product Owner เองต้องเข้าใจว่า target customer คือใคร เพื่อที่จะของออกมาให้โดน มีคนใช้ UX/UI Designer ก็ต้องมีความ empathy เพื่อที่จะออกแบบ experience ของ product เพื่อให้ใช้งานง่าย หรือแม้กระทั่ง Marketing หรือส่วนอื่นๆ ที่ต้องพยายามสนใจและเข้าใจลูกค้าเป็นส่วนใหญ่เพื่อที่จะขายหรือผลิตของให้ตรงใจคนใช้งานได้มากที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่เราลืมนึกถึงไปก็คือตัวเอง เราเป็นคนนึงที่รู้สึกว่าไม่เข้าใจตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองมี value ทางด้านไหน เราโฟกัสแต่ความต้องการของคนอื่น จนบางครั้งเราแอบลืมหรือละเลยความต้องการของตัวเองโดยการเก็บซ่อนมันเอาไว้และใช้สมองคิดว่า เราไม่ต้องการมันหรอก จนที่วันนึงความรู้สึกที่อยู่ข้างในใจก็ระเบิดออกมา วันนี้อยากมาชวนเพื่อนๆ มาเรียนคลาส Leading Self โดย Stanly (Odd-e Singapore) ที่จะมาช่วยให้ทุกคนได้กลับมาโฟกัสกับตัวเอง มาสำรวจคุณค่า ความรู้สึก ความต้องการของตัวเองผ่านเทคนิคของ Sharon Loeschen & Virginia Satir ผู้ที่ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยทำให้ชีวิตหลายๆคนดีขึ้นผ่านการรีวิวนี้กันค่ะ

คลาสนี้เราเรียนด้วยสมมุติฐานดังต่อไปนี้

  1. ผู้คนนั้นคือสิ่งมหัศจรรย์และคู่ควรกับความรัก
  2. คนแต่ละคนสื่อถึงพลังชีวิต
  3. ผู้คนสามารถที่จะเปลี่ยนและสามารถที่จะเรียนรู้ที่จะตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กระตุ้นพวกเขา
  4. การเปลี่ยนแปลงเกิดจากการเลี้ยงดูความสัมพันธ์มากกว่าการด่าทอ
  5. วุฒิภาวะคือการที่คนนั้นรับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง
  6. ผู้คนเชื่อมโยงกันบนพื้นฐานของความคล้ายและเติบโตบนพื้นฐานของความแตกต่าง
  7. ข้อมูลใหม่นำมาสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ
  8. การเข้าถึงสิ่งที่เรามีภายในเป็นหัวใจสำคัญของ leading self

เทคนิคของ Satir จะประกอบด้วยกันทั้งหมด 6 phase ซึ่งเปรียบเสมือน debugging tool เพื่อให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น

  1. Making Contact คือ การทำให้เราได้ยินเสียงในหัวของตัวเอง ทำให้เรารับรู้หรือมีสติกับตัวเองจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเรา เช่น เรากำลังมีความกังวล และเราได้ยินว่าเรากำลังมีความกังวลอยู่
  2. Validating คือ การที่เราเข้าใจคุณค่าในตัวเอง รู้ว่าตัวเองยึดถือคุณค่าไหนในชีวิต เช่น บางคนให้คุณค่ากับครอบครัว บางคนให้คุณค่ากับความอิสระ รวมทั้งเข้าใจความรู้สึก และความต้องการของตัวเอง เช่น กำลังรู้สึกสนุกสนาน เพราะได้ไปเที่ยวกับคู่รัก เพราะต้องการใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น เป็นต้น ลองค่อยๆค้นหาสิ่งที่ใจเรารู้สึก มากกว่าสมอง เป็น session ที่สนุกมากๆ มีการให้ลองฝึกทำ Active Listening เพื่อฝึกให้เราได้ยินสิ่งที่คนอื่นกำลังสื่อสารด้วย
  3. Facilitate Awareness คือ การเรียนรู้ defensive behavior ที่เกิดจากความต้องการของเรา หรือความเชื่อ กฎระเบียบต่างๆ ที่เราที่เรายึดถือเอาไว้ เช่น เราอาจจะคิดว่าเราเข้าใจพฤติกรรมที่ไม่ดีของคู่รักของเราเนื่องจากเราไม่อยากทะเลาะ เพราะว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราแย่ลง นี่ก็คือตัวอย่างของ defensive behavior อย่างนึง ซึ่งใน workshop จะพาให้เราลองมาสำรวจตัวเองว่าเรามี defensive behavior ไหม และลองนำมันมาวิเคราะห์กัน ซึ่งทำให้เราค่อนข้างปะหลาดใจทีเดียวที่มีค้นพบสิ่งนี้
  4. Promote Acceptance คือ การที่เรายอมรับคุณค่า ความรู้สึก และความต้องการของตัวเองเพื่อที่จะนำสู่การเปลี่ยนแปลง เช่น การที่ยอมรับว่าจริงๆ แล้วเราไม่โอเคกับสิ่งที่เป็นอยู่ และความต้องการของเราอาจจะยังไม่ได้ถูกเติมเต็ม เราไม่ได้ถูกเติมเต็มทางด้านจิตใจ แต่เราใช้สมองคิดว่า มันโอเค
  5. Making Changes คือ การที่เราคิดวิธีการต่างๆ ที่จะเป็นตัวเลือกในเปลี่ยน และเลือกวิธีในการที่จะเปลี่ยน ไม่มีใครในโลกที่จะเปลี่ยนเพราะคนอื่นบอกให้เปลี่ยน นอกจากตัวของคนๆนั้นเองที่คิดจะเปลี่ยนด้วยตัวเอง
  6. Reinforcing Change คือ การสร้างหรือหาวิธีการที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นยั่งยืน

ทาง Stanly จะพาเราเข้าไปรู้จักกับแต่ละ phase โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เราได้มีโอกาสทำความเข้าใจและรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เป็นคลาสที่ทำให้เราได้โฟกัสกับตัวเองมากๆ หลังจากที่การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันที่ทำให้เราต้องคิดถึงคนอื่นเป็นหลัก ทำให้เราได้ค้นพบสิ่งต่างๆที่เราแอบซ่อนเอาไว้ข้างในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการเห็นคุณค่า ความรับรู้ต้องการ ความรู้สึก หรือแม้แต่ความเชื่อที่หล่อหลอมเราให้มีวิธีคิดหรือการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ลองยอมรับตัวเอง

“Life is not what it is supposed to be. It is the way you cope with it is what makes the difference.”

สุดท้ายอยากลองชวนเพื่อนๆ มาลองเข้าคลาสนี้กัน มาลองพยายามเข้าใจตัวเองบ้างเพื่อที่เราจะได้ไม่เจ็บปวดมากนักกับการใช้ชีวิตในโลกที่วุ่นวายนี้ หลังจากที่เราไปเรียนเพื่อทำให้เราเข้าใจคนอื่นมาพอสมควรแล้ว

--

--