LeSS ไม่เหมาะกับองค์กรคุณหรอกถ้า…
Optimization goals ของคุณไม่ตรงกับ LeSS
ครั้งนึงตอนผมนั่ง observe class Certified LeSS Practitioner ที่ Viktor Grgić สอน เค้าเล่าเรื่อง optimization goals ของ Large Scale Scrum หรือ LeSS ไว้ดังภาพ
ผมพบว่า optimization goals 3 ข้อนี้ช่วยให้ผมเข้าใจกลไลของ LeSS ในองค์กรขนาดใหญ่มากขึ้นเยอะเลย
พลวัตรในองค์กรขนาดใหญ่
บ่อยครั้งที่ผมนั่งทำงานอยู่กับทีม แล้วเกิดคำถามว่าทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้นะ? ทำไมงานถึงมารีบ ๆ พอรีบทำเหนื่อยจะเป็นจะตาย แล้วก็มาบอกว่าไม่เอาแล้ว ให้ทำอย่างอื่น(ที่รีบกว่า) แทน เจอแบบนี้มันตัดกำลังใจมากเลย ;(
บ่อยครั้ง ที่ผมได้ทำงานกับผู้บริหาร แล้วเจอปัญหาว่าน้อง ๆ ทำงานหนักมากเลย แต่ของไม่ออก บางอย่างที่ดูง่าย ๆ ไม่กี่สัปดาห์ควรจะเสร็จได้ แต่รอเป็นเดือนจนตลาดวายแล้ว ของก็ยังไม่ออก เค้าพยายามมากเลยนะที่จะสนับสนุนน้อง ๆ ช่วยเคลียร์ทางให้ เพื่อให้ของออกเร็วที่สุด แต่ก็ไม่ได้ผล เป็นสถานการณ์ที่อึดอัด เหมือนกำลังว่ายน้ำแบบโดนมัดมือมัดเท้าเลย
ผมเห็นเป้าหมายหนึ่งเรื่อง ถูกแตกออกมาเป็นงานย่อย ๆ หลาย ๆ ชิ้น แล้วกระจายไปเข้าคิวในแผนกต่าง ๆ ในองค์กร แล้วไปติดแหง็กอยู่ตรงนั้นเพราะทุกคนงานเต็มมือแล้ว ด้วยความที่ไม่มีใครรู้ว่า ณ นาทีนี้ ของที่สำคัญที่สุดจริง ๆ ขององค์กรเราคืออะไร หัวหน้าแผนกก็จะเลือกสลับลำดับ อาจจะเอางานมาแทรก ยกเลิกงานเก่า เพื่อทำสิ่งที่คิดว่าสำคัญที่สุดสำหรับองค์กรในมุมมองแคบ ๆ เท่าที่ตัวเองเห็น
และเพราะจำนวนแผนกมันเยอะ การ synchronize ข้อมูลมันยาก ทันทีที่ผู้บริหารระดับสูงตัดสินใจว่า ตอนนี้เปลี่ยนให้อันนี้สำคัญที่สุดแล้วนะ กว่าสิ่งนี้จะกระจายไปครบทุกแผนก ต้องประชุมกันกี่ครั้ง? ใช้เวลากี่ชั่วโมง? สถานการณ์เปลี่ยนไปถึงไหนแล้ว? ที่เจ็บปวดที่สุดคือ ไอ้สิ่งสำคัญที่สุดเปลี่ยนไปอีกกี่หนแล้ว!?
ทุกคนในองค์กรรู้ดีว่า 8 ใน 10 อย่างที่ทำอยู่คือทำแล้วทิ้ง รีบก็รีบ เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ไม่รู้ว่าไอ้ 2 อย่างที่สำคัญที่สุดคืออะไรกันแน่? พอเลือกไม่ได้ก็ทำ ๆ มันทั้งหมดนี่แหละ อันไหนทำง่ายก็ทำก่อน งานมันจะได้ไหลออกไปจากตัวเราเร็ว ๆ
บางครั้งกำลังทำงานใหม่อยู่ ก็โดนขัดจังหวะด้วยงานเก่ามาขอแก้ หรือขอให้เราอธิบายเพิ่ม ซึ่งงานในมือคืองานที่หัวหน้าบอกว่าสำคัญและด่วนที่สุด บางทีผมก็ปล่อยให้งานเก่า (ซึ่ง ณ เวลานึงในอดีตเคยสำคัญที่สุด) รอไปก่อน บ่อยครั้งที่ผมเองไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าถ้าไอ้งานเก่ายังสำคัญที่สุดอยู่หล่ะจะเป็นยังไง?
จากพลวัตรขององค์กรที่ผมเห็นมาข้างต้น พอได้เห็น optimizations goals 3 ข้อที่ Viktor แชร์แล้ว ผมก็เริ่มฝัน…
ความฝันของฉัน
ผมฝันว่าบอร์ดบริหารจะคอยตกลง 3 สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กรตอนนี้ แล้วให้ฝ่ายไอทีอัพเดท wallpaper ของคอมฯพนักงานทุกคนเลยว่าตอนนี้ 3 สิ่งที่สำคัญที่สุดขององค์กรคืออะไร ทุกคนจะได้ดึงองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน
แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าเราเอาสิ่งที่องค์กรกำลังทำมากางบน desktop ทุกคนแบบนี้แล้วมันหลุดไปถึงหูคู่แข่งหล่ะ?! คิดอีกที ช่างมันเถอะ เพราะผู้บริหารของคู่แข่งก็กำลังมัดมือมัดเท้าว่ายน้ำอยู่เหมือนกัน :D
ผมฝันว่าพอหัวหน้าแผนกที่จ้าง outsource มา เจอสถานการณ์ตอนที่ไม่มีงานให้ทำ แทนที่จะสร้างงานจิปาถะขึ้นมาให้ทำฆ่าเวลา หัวหน้างานก็เปลี่ยนเป็นขอบคุณพวกเค้าที่ก่อนหน้านี้เร่งงานสำคัญให้ บอกพวกเค้าว่าไม่ต้องกังวลเรื่องเลิกจ้าง เค้าไม่เคยคิดจะทำเลยเพราะเชื่อว่า long lasting team คุ้มค่าที่สุดสำหรับองค์กร แล้วบอกให้เค้าพักผ่อนตามอัธยาศัย ใครที่พักกายหายเหนื่อยแล้ว ให้ไปถามแผนกข้าง ๆ ว่ามีใครทำไอ้ top 3 บน wallpaper อยู่ไหม? มีอะไรให้ช่วยไหม?
ผมฝันว่าเวลาเรามีปัญหา X แทนที่จะจ้าง X manager เราจะให้คนที่ว่าง ๆ มารวมตัวกันระดมความคิดว่าจะ “แก้” ปัญหานี้อย่างไรอย่างยั่งยืน แทนที่จะ “ย้าย” ที่ปัญหาไปไว้ในบทบาทใหม่ในองค์กรเราแล้วสร้าง organizational debt ขึ้นมา
ผมฝันว่าที่ทำงานจะเป็นเหมือนที่ทำงานตามคำนิยามของคำว่า “งาน” ของ Taiichi Ohno คนที่สอนผมว่าทุกการเคลื่อนไหวที่ลูกค้ายินดีจ่ายเงินให้เป็น “งาน” ที่เหลือเป็น “waste”
ขอปิดท้ายด้วย quote นี้ละกัน
The only place that work and motion are the same thing is the zoo where people pay to see the animals move around. — Taiichi Ohno
สถานที่เดียวที่งานกับการเคลื่อนไหวเป็นสิ่งเดียวกันคือสวนสัตว์ ที่ ๆ ผู้คนจ่ายเงินเพื่อมาดูสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่ไป ๆ มา ๆ