“Loop” ตอนที่ 1 ทำงานวันแรก

Boonsong Srithong
odds.team
Published in
4 min readSep 28, 2024

ในโลกที่หมุนวนอย่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งการเงิน เทคโนโลยี และการตัดสินใจที่ต้องเร่งรัด ลูป คือชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาสู่เส้นทางนี้ด้วยความมุ่งมั่น เขาเริ่มทำงานวันแรกในสายของนักพัฒนาซอฟต์แวร์

ลูปเอามือจับแว่นตาขึ้นมาเช็ดอีกครั้งหลังจากที่ฝ้าขึ้นเพราะอากาศร้อนและชื้น เขาเพิ่งก้าวออกจากสถานี BTS และรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยจากการเดินตามคนจำนวนมากไปยังทางออก 4 “ไปยังไงวะเนี่ย” เขาพึมพำเบาๆ ในใจด้วยความกังวล เรียก Grab หลายครั้งแล้วก็ไม่มีคนรับ เพราะอากาศร้อนจัดและการจราจรที่แน่นขนัดทำให้คนไม่อยากรับงาน

ลูปรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าและหงุดหงิดจากความร้อนที่อบอ้าว รอบข้างมีแต่ผู้คนที่เร่งรีบ เขามองไปรอบๆ และทันใดนั้นเขาก็เห็นแท็กซี่คันสีเหลือง-เขียวกำลังวิ่งผ่านมา ลูปไม่รอช้า ยกมือขึ้นมาโบกด้วยความรวดเร็ว

“ไป Tipco Tower ไหมครับ” ลูปถามลุงแท็กซี่ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ พลางเปิดประตูรถ ลุงแท็กซี่หันมามองและพยักหน้าเบาๆ

เขาก้าวขึ้นรถพร้อมถอนหายใจเบาๆ อีกครั้ง ต่อไปต้องแลกบัตรขึ้นตึกที่ฝ่ายต้อนรับบอกว่าให้ไปชั้น 20 จะมีโซฟาสีครีมให้นั่งรอ

“สวัสดีครับ” ลูปทักทายคนที่เคยเจอในวันสัมภาษณ์
“หวัดดี อ้อ! คุณเป็นคนที่ผมสัมภาษณ์วันนั้นใช่ไหม? จากมหา’ลัย เหมืองแร่ ขอโทษนะ ผมจำชื่อคุณไม่ได้”

“ไม่เป็นไรครับ ผมชื่อลูปครับ” ลูปกล่าว

“พี่ชื่อซอร์สนะครับ เดี๋ยวมากับพี่ก่อนแล้วกัน ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะไปลงทีมไหน เอากระเป๋าไปวางบนโต๊ะนั่นแล้วตามพี่มานะ”

ณ ห้องประชุม
พี่ซอร์สเปิด MacBook Pro M3 สีดำสเปซแบล็คและกด Join Meeting “สวัสดีครับ” เขาทักทายคนในการประชุมด้วยน้ำเสียงรื่นหูดุจสายน้ำไหลริน “ทางเราพร้อมแล้วนะครับ ถ้าฝั่งนั้นพร้อมแล้ว เราสามารถเริ่มได้เลยครับ”

“ได้ค่ะ งั้นเริ่มเลยนะคะ ชื่อน้ำใสนะคะเป็น PO ของโครงการนี้ค่ะ อีกสองท่านคือคุณชายสี่และคุณหมี่เกี๊ยว จะมาอธิบายเกี่ยวกับโปรดักต์ที่เรากำลังจะทำค่ะ”

“สวัสดีครับ” เสียงทักทายเอ่ยออกจากเจ้าของชื่อทั้งสอง
“สวัสดีครับ ผมซอร์สครับ ตอนนี้อยู่กับน้องลูปนะครับ จะเข้ามาช่วยดูโปรดักส์นี้” เขาพูดพร้อมเปิดกล้องให้ลูปทักทายลูกค้า

คุณน้ำใสยิ้มรับก่อนจะเริ่มเข้าประเด็นการประชุม “วันนี้เป็น Kick-off meeting โดย Agenda จะมีดังนี้นะคะ

  • Project Overview
  • Timeline and Milestones
  • Next Steps and Action Items
  • Q&A

เริ่มกันเลยนะคะ คุณชายสี่และคุณหมี่เกี๊ยว ช่วยเล่า Project Overview ให้ทางทีมฟังหน่อยค่ะ”

ชายสี่: “เราต้องการพัฒนา SBL application ครับ SBL ย่อมาจาก Securities Borrowing and Lending หรือธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ เป็นธุรกรรมที่โบรกเกอร์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางหรือคู่สัญญาระหว่างผู้ยืมหุ้น (Borrower) และผู้ให้ยืมหุ้น (Lender) เพื่อให้เกิดการยืมและให้ยืมหุ้น

ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนมีหลักทรัพย์ ODT อยู่ในบัญชีและต้องการให้ยืมหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียมการให้ยืม ในขณะเดียวกัน มีนักลงทุนอีกท่านที่ต้องการทำ Short Sell เพื่อทำกำไรในช่วงตลาดขาลง ในกรณีนี้ โบรกเกอร์จะเข้ามาเป็นคนกลางระหว่าง Lender และ Borrower ครับ”

ลูปยิ้มแหยพลางคิดในใจ อันนี้ยกตัวอย่างใช่ไหมนะ? เขาถือ ​ODT ตัวนี้อยู่พอดี ห่ะๆ

“สักครู่นะครับ ผมขอแชร์สกรีนนะ” พี่ซอร์สพูดพร้อมเปิดเว็บ egon.io แล้วพูดต่อไปว่า “รบกวนเล่าเป็น Scenarios ให้หน่อยครับ เช่น กรณีที่นักลงทุนต้องการให้ยืมหลักทรัพย์ เขาต้องทำอะไรบ้าง เดี๋ยวผมจะวาด Flow ให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกัน” ซอร์สหันมองลูปที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ “ลูป เดี๋ยวเราช่วยพี่ทำโปรดักส์นี้ ขยับมาใกล้ ๆ ครับ เผื่อมีคำถามอะไร” เขาพูดพร้อมยิ้มให้ “เชิญเล่าต่อได้เลยครับ”

ชายสี่: “ต้องรบกวนพี่หมี่เกี๊ยวรบกวนเล่ากระบวนการทำงานให้ฟังหน่อยครับ”
หมี่เกี๊ยว: “ได้ครับคุณชายสี่ ผมขอแบ่งเป็น 2 กลุ่มนะครับ คือผู้ที่ต้องการให้ยืมหุ้นและคนที่ต้องการยืมหุ้น

เริ่มที่นักลงทุนที่ต้องการให้ยืมหลักทรัพย์ก่อนนะครับ พวกเขาจะต้องติดต่อโบรกเกอร์เพื่อแจ้งความประสงค์ให้ยืมหลักทรัพย์”
ซอร์ส: “นักลงทุนสามารถติดต่อผ่านช่องทางไหนได้บ้างครับ?”
หมี่เกี๊ยว: “จะโทรติดต่อมาร์เก็ตติ้งที่ดูแลบัญชีของเขาโดยตรงครับ”

ซอร์ส: “แล้วรายละเอียดที่คุยกันมีอะไรบ้างครับ?”
หมี่เกี๊ยว: “ก็จะมีเงื่อนไขการให้ยืม อัตราค่าธรรมเนียม และรายละเอียดสัญญาครับ
หลังจากนักลงทุนแจ้งความประสงค์ มาร์เก็ตติ้งจะส่งสัญญาการให้ยืมหลักทรัพย์ให้แก่นักลงทุน”

“ส่งผ่านช่องทางไหนครับ อีเมลใช่ไหม? ลูปหันหน้าไปถามพี่ซอร์ส”
“ใช่ครับ ส่งผ่านอีเมล” หมี่เกี๊ยวตอบคำถามลูป

หมี่เกี๊ยว: “เมื่อนักลงทุนเซ็นสัญญาและส่งกลับให้โบรกเกอร์เรียบร้อยแล้ว เราจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า `ผู้ให้ยืม (Lender)`”
ซอร์ส: “นักลงทุนทำสัญญากับโบรกเกอร์โดยตรงใช่ไหมครับ”

หมี่เกี๊ยว: “ใช่ครับ หลังจากโบรกเกอร์ตรวจสอบสัญญาเรียบร้อยแล้ว จะมีการแจ้งมาร์เก็ตติ้งให้โทรกลับไปสอบถามรายละเอียดของหลักทรัพย์ที่ต้องให้ยืม โดยเฉพาะหลักทรัพย์ตัวไหนในพอร์ต เพื่อให้มาร์เก็ตติ้งมีสิทธิในการจัดการหลักทรัพย์เหล่านั้น ถือเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการให้ยืมครับ ส่วนของ Lender มีคำถามไหมครับ?”

ซอร์ส: “รายละเอียดของหลักทรัพย์ที่ต้องให้ยืมมีอะไรบ้างนะครับ?”

หมี่เกี๊ยว: “อย่างเช่น Security Name (ชื่อหลักทรัพย์), Quantity (จำนวนที่ให้ยืม), Lending Fee (ค่าธรรมเนียมการให้ยืม), Expiration Date (วันที่หมดอายุของสัญญา), และ ระยะเวลา (ระยะเวลาที่ให้ยืม) ครับ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงหรือเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ที่ต้องพิจารณาด้วยนะครับ”

“โอเคครับ” พี่ซอร์สหันหน้าไปถามลูปว่ามีคำถามเพิ่มไหมครับ
“ไม่มีครับเล่าต่อได้เลยครับ!”

หมี่เกี๊ยว: “งั้นต่อเลยนะครับ ต่อไปจะเป็นส่วนของผู้ยืมหรือ Borrower ครับ ผู้ยืมจะติดต่อยืมหุ้นผ่านมาร์เก็ตติ้ง หากยังไม่เคยเซ็นสัญญามาก่อน ขั้นตอนจะคล้ายกับ Lender คือมาร์เก็ตติ้งจะส่งสัญญาให้นักลงทุนเซ็นก่อนครับ”

ลูปคิดในใจ `เป็นสัญญาชุดเดียวกับ Lender หรือเปล่านะ?` ความสงสัยนั้นเกิดขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากถาม เสียงของคุณหมี่เกี๊ยวดังขึ้นมาตอบราวกับอ่านความคิดของเขาออก

“เป็นสัญญาคนละแบบกับ Lender นะครับ” เสียงที่ดังขึ้นเหมือนกับมันตรงมาจากใจของลูปเอง ทำให้เขาต้องเงยหน้ามองไปที่หมี่เกี๊ยวอย่างแปลกใจ แทบจะไม่ต้องถาม คำตอบก็มาเองอย่างไม่น่าเชื่อ…

หมี่เกี๊ยว: “หลังโบรกเกอร์ตรวจสอบสัญญาเรียบร้อยแล้ว หากผู้ยืมต้องการยืมหุ้น จะต้องติดต่อมาร์เก็ตติ้งเพื่อแจ้งรายละเอียดหลักทรัพย์และจำนวนที่ต้องการยืม มาร์เก็ตติ้งจะแจ้งรายละเอียด เช่น ต้อง วางเงินหลักประกันเท่าไร และ ค่าธรรมเนียมในการยืมกี่บาท เมื่อนักลงทุนยอมรับ Loan Terms แล้ว มาร์เก็ตติ้งจะแจ้งข้อมูลให้ทาง โบรกเกอร์ เพื่อทำการนำ หลักทรัพย์เข้ามาในพอร์ตของผู้ยืม ครับ”

ซอร์ส: “โบรกเกอร์เอาหลักทรัพย์เข้าพอร์ตให้ผู้ยืมได้อย่างไรครับ?”

หมี่เกี๊ยว: “ตรงนี้จะมีระบบที่ให้ โบรกเกอร์ เข้าไปจัดการ โดยจะจับคู่ผู้ยืมกับผู้ให้ยืม มีหลายวิธี เช่น จับคู่ให้ผู้ให้ยืมที่มหลักทรัพย์มากที่สุดก่อน หรืออีกวิธีคือการ Random ครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำผ่านระบบ Stock Management ครับ”
ลูป: “Stock Management คืออะไรหรอครับ?”
ชายสี่: “ระบบของทางบริษัทเองครับ เอาไว้ให้ Broker/Marketing เข้าไปจัด Order เดี๋ยวระบบที่พวกเรากำลังจะพัฒนาต้องไปต่อระบบนี้ด้วยครับ”

ซอร์ส: “ย้อนกลับมาตอนแรกที่บอกว่าคนให้ยืมหุ้นจะได้ ค่าธรรมเนียมการให้ยืม ตรงส่วนนี้เกิดขึ้นตอนไหนครับ?”

หมี่เกี๊ยว: “อ่อ!! ขอบคุณมากครับ ผมลืมเล่า จริง ๆ แล้ว เมื่อ โบรกเกอร์ จับคู่ผู้ยืมกับผู้ให้ยืมเสร็จ พอจบสิ้นวัน มาร์เก็ตติ้งจะส่งรายละเอียดค่าธรรมเนียมที่ได้และหุ้นที่ถูกยืมไปให้ผู้ให้ยืมผ่านอีเมล์ครับ”

ซอร์ส: “ในกรณีนี้ผู้ยืมจะนำหุ้น มาคืนยังไงครับ?”
หมี่เกี๊ยว: “สำหรับการคืนหุ้นหรือ Return จริง ๆ แล้วต้องดูประเภทสัญญาทำ SBL มี 2 ประเภทครับ:

  • แบบกำหนดระยะเวลา (Term): ผู้ให้ยืมและผู้ขอยืมกำหนดระยะเวลาการยืมและวันที่ต้องส่งมอบหุ้นคืนชัดเจน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถทวงหุ้นคืน (Recall) หรือคืนหุ้น (Return) ได้
  • แบบไม่กำหนดระยะเวลา (Call): ผู้ให้ยืมและผู้ขอยืมสามารถคืนหุ้น (Return) เมื่อใดก็ได้ ทั้งสองฝ่ายต้องพร้อมที่จะรับหุ้นคืนและคืนหุ้นได้ในทันที

เดี๋ยวค่อยลงรายละเอียดลึก ๆ กันอีกทีครับ งั้นขอเล่าในแบบ Term ไปก่อนนะครับ เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด ทางมาร์เก็ตติ้งจะติดต่อขอคืนหลักทรัพย์ ผู้ยืมจะต้องซื้อหลักทรัพย์ตามจำนวนที่ยืมไปไว้ในพอร์ต หลังจากนั้นทางโบรกเกอร์จะทำการเรียกคืน เมื่อได้รับ หลักทรัพย์ คืนครบตามข้อตกลง โบรกเกอร์จะคืนหลักประกันให้กับผู้ยืม ทุกขั้นตอนจะทำผ่านระบบ Stock Management เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ Recall และ Return”

“ที่เล่ามีทั้งหมดแถบจะครบทุกอย่างที่ทางเราอยากให้ระบบสามารถทำได้แล้วครับ” คุณชายสี่พูดพร้อมกับเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ออกจากลำโพง

“อ่อครับ ได้ครับ เดี๋ยวเรามาคุย in detail อีกตอนเริ่ม implement นะครับ ลูป ๆ มีคำถามอะไรไหมครับ ก่อนที่เราจะไป Agenda ถัดไป?”

“บ่มีครับ…” ลูปกำลังคิดทบทวนสิ่งที่ได้ยินอยู่ แต่เผลอหลุดปากถามออกไปด้วยภาษาอีสานโดยไม่รู้ตัว ลูปหน้าเริ่มร้อนขึ้นเล็กน้อยจากความเขินอาย
พี่ซอร์ส: “โอ้ ลูปพูดอีสานก็ได้เหรอ! เขาพูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ โอเคครับ งั้นไป Agenda ต่อไปได้เลยครับ!”

“ถัดไปคือเรื่อง Timeline and Milestones น้ำใสอยากทราบเรื่อง Timeline ที่คุณซอร์สวางไว้ว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากน้ำใสมีแผนจะ Release ช่วงต้นไตรมาสแรก หรือประมาณบวกลบ 3 เดือน”

“ผมจะส่งแผน Timeline and Milestones โดยละเอียดให้ทีหลังนะครับ คุณน้ำใส แต่เบื้องต้นผมอยากขอเวลาทีมคุณน้ำใสอาทิตย์ละ 2 วัน คือวันพุธกับวันศุกร์ สำหรับวันพุธ เราจะทำ Product Backlog Refinement ประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อทำความเข้าใจปัญหาและคุยกันในเชิงธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ทีมหา Solution แก้ปัญหาได้ตรงจุด ส่วนวันศุกร์ เราจะทำ Sprint Review โดยเราจะทำงานเป็น Sprint ละ 1 สัปดาห์ รับ Items เข้าไปวันจันทร์ และเมื่อถึงวันศุกร์เราจะให้คุณน้ำใส หรือถ้าเป็นไปได้ก็ให้ User จริง ๆ มาทดลองใช้ระบบเพื่อเก็บ Feedback ช่วงเวลาอาจจะเป็น 15.00–17.00 น. ครับ

ส่วนเรื่องอื่น ๆ ผมไม่แน่ใจว่าตรงนี้มีทีม Dev หรือ DevOps เข้าด้วยไหม? เราอาจจะต้องนัดคุยกันอีก 1–2 ครั้ง เพื่อเตรียม Environment ให้พร้อมสำหรับการพัฒนา เช่น การจัดเก็บ source code, วิธีการ Deploy ระบบ, การเลือกใช้ Database รวมถึง Programming languages หรือ Frameworks ต่างๆ”

ลูปคิดในใจ “หน้าบ้านก็ต้อง React หลังบ้านก็ต้อง Go ทำไมต้องคิดให้มาก…”

“หรือทาง Dev มีภาษาที่ถนัด อยากให้เราใช้ เพื่อให้ง่ายเวลารับไปดูแลต่อ สามารถแจ้งได้เลยนะครับ” ซอร์สเสริม

น้ำใส: “โอเคค่ะ งั้นน้ำใสขอทำความเข้าใจนะคะ เดี๋ยวแผนงานอย่างละเอียดทางคุณซอร์สจะส่งให้น้ำใสอีกทีและทางทีมคุณซอร์สขออาทิตย์ละ 2 วัน จะดีมากถ้าได้วันพุธ… ช่วงไหนนะคะ?”
ซอร์ส: “10.00–12.00 น. ครับ สำหรับวันพุธ อาจไม่จำเป็นต้องมีการประชุมทุกครั้ง แต่เราจะใช้เวลานี้สำหรับการสื่อสารผ่านข้อความในห้องแชทที่เรากำลังจะสร้างขึ้น”

น้ำใส: “เข้าใจค่ะ แล้ววันศุกร์ช่วง 15.00–17.00 น. จะเป็นการประชุมใช่ไหมคะ?”
ซอร์ส: “ถูกต้องครับ”
น้ำใส: “ได้ค่ะ เดี๋ยวน้ำใสขอปรึกษากับทีมก่อนนะคะ อีกเรื่องคือการเตรียม Environment ให้พร้อมสำหรับการพัฒนา เราจะนัดคุยกันอีกทีเมื่อไหร่ดีคะ? น้ำใสจะได้แจ้งทีม Tech ให้เข้าร่วมด้วยค่ะ”

“วันพุธหน้า ช่วง 10.00–12.00 น. ได้ไหมครับ? สะดวกไหมครับ”
น้ำใสตอบรับพร้อมกับพูดต่อว่า “ได้ค่ะ งั้นการประชุมวันนี้ก็สรุปได้แค่นี้นะคะ มีใครมีคำถามเพิ่มเติมไหมคะ?”
เสียงเงียบ… น้ำใสจึงกล่าวปิดการประชุม “งั้นขอบคุณทุกท่านมากค่ะ แล้วพบกันวันพุธหน้านะคะ”

เสียงขอบคุณดังขึ้นพร้อมกัน “ขอบคุณครับ”

“ไปทานข้าวกัน” พี่ซอร์สพูดพร้อมกับปิดจอคอมพิวเตอร์ เดี๋ยวพี่จะเล่าเกี่ยวกับบริษัท แล้วก็วิธีการทำงานให้ฟังช่วงทานข้าวเสร็จ พี่ซอร์สเริ่มเล่าเกี่ยวกับบริษัท ตอนนี้บริษัทเราขยายขึ้นมาเยอะแล้ว

บรรยากาศในออฟฟิศช่วงบ่ายเงียบสงบ พี่ซอร์สเดินมาที่โต๊ะของลูปพร้อมกับถือ MacBook เครื่องใหม่ในยื่นให้แล้วบอกว่าล้างเครื่องและก็ Setup ให้เรียบร้อยนะ

ลูปเก็บของใส่กระเป๋าหลังจากที่เขาเซ็ตอัพ MacBook เสร็จเรียบร้อย เขาเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว ในขณะที่เดินออกจากออฟฟิศ ลูปกดโทรศัพท์เพื่อเรียก Grab อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีไรเดอร์รับงานทันที “ดีจัง” เขานึกในใจ เมื่อไรเดอร์มาถึง ลูปขึ้นรถและบอกเส้นทางกลับบ้าน เขานั่งสบายๆ ในรถพร้อมกับเสียงเพลงที่ดังจากวิทยุในรถ ขณะที่เขาหันมองวิวข้างทางและคิดถึงช่วงที่ประชุมกับลูกค้า เขามียังข้อสงสัยเกี่ยวกับโปรดักส์และที่พี่ซอร์สวาดๆ นั่นมันคืออะไร แต่พอหันหน้าไปจะถามพี่ซอร์สไม่อยู่ที่โต๊ะของเขาแล้ว ไม่เป็นไร เอาไว้ถามพี่เขาพรุ่งนี้แล้วกัน….

--

--

Boonsong Srithong
odds.team

A product developer and obsessed with coding. Nice to meet you all. I'm currently working at ODDS Team