NO BROKEN WINDOWS

Chokchai Phatharamalai
odds.team
Published in
1 min readOct 4, 2020
Photo by roya ann miller on Unsplash

ผมมีโอกาสได้เล่าเรื่องนี้หลายครั้งแต่ชอบที่ตัวเองเล่าเมื่อวานนี้ใน class Collective Code Ownership ที่สุด เลยอยากจะเอามาจดเก็บไว้ เผื่อวันหน้าจะได้กลับมาอ่าน

ผมเคยไปเข้าห้องน้ำของโรงแรมห้าดาว พอจะใช้ก็รู้สึกเกรงใจว่าจะทำให้มันไม่เอี่ยมเหมือนเดิม พอหลังทำธุระเสร็จ ผมก็นั่งเช็ดนั่งขัดเพราะอยากจะทำให้ห้องน้ำมันกลับมาเอี่ยมเหมือนเดิมที่สุด พอลองเทียบกับความรู้สึกตอนไปเข้าห้องน้ำสกปรก ๆ ในปั้มแห่งหนึ่ง ตอนผมทำธุระเสร็จ จะตักน้ำราดยังไม่อยากโดนน้ำเลย เพราะไม่มั่นใจว่าน้ำสะอาดไหม ความรู้สึกมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

ผมได้เรียนรู้ว่า…

ของที่ถูกดูแลด้วยความใส่ใจ มันมีออร่า และคนเราสัมผัสถึงสิ่งนั้นได้ ผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนาด้วยความใส่ใจ ลูกค้าที่รับของไปก็สัมผัสถึงออร่านั้นได้เช่นกัน

สำหรับโปรแกรมเมอร์ทั้งหลาย จัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยมันไม่พอ เราควรจัดระเบียบโค้ดเราด้วย เพราะเวลาทำงานส่วนใหญ่ จิตเราอยู่ในโค้ดนั้น ไม่ใช่บนโต๊ะทำงาน

เรื่องราวของ No broken windows มาจากการทดลองที่เค้าทิ้งรถสปอร์ตคันใหม่เอี่ยมคันหนึ่งไว้ริมถนนเป็นเวลา 1 เดือน ผลลัพธ์คือรถคันนั้นก็เอี่ยมเหมือนเดิมแค่มีหิมะกองเต็มหลังคารถเท่านั้น หลังจากนั้นเค้าลองทุบกระจกข้างให้ห้อยไว้ข้างนึง แล้วทิ้งไว้อีกเดือน ปรากฏว่าล้อทั้ง 4 โดนขโมย เบาะโดนกรีด ของในรถถูกขโมยไปหมดเกลี้ยง รถโดนทึ้งจนไม่เหลือสภาพเลยหลังจากทิ้งไว้อีก 1 เดือนเท่ากัน

กระจกที่ห้อยอยู่เป็นสัญลักษณ์ว่ารถคันนี้ไม่มีใครสนใจดูแล

นี่เป็นที่มาของความเชื่อของผมว่า ของที่ได้รับการดูแลด้วยความใส่ใจมันมีออร่า จักรวาลจะจัดสรรให้มันได้รับความใส่ใจต่อไปอย่างยั่งยืน ในทางกลับกัน ของที่ถูกทำไว้ลวก ๆ จักรวาลก็จะจัดสรรให้มันลวกขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

ถึงตรงนี้ก็นึกถึงบทเรียนที่ได้ตอนไปเรียน Neuro Linguistic Programming ขึ้นมาว่า ถ้าจะทำอะไรให้ทำเต็ม 100% ไม่ว่าจะส่งเมล ขับรถ เคลียร์เอกสาร พับที่นอน ถ้าเลือกจะทำแล้ว ให้สมาธิกับมันให้เต็มที่แล้วทำให้ดีที่สุด และถ้าจะทำเต็ม 100% ไม่ได้ ก็อย่าทำมันเลยเสียดีกว่า การทำของครึ่ง ๆ กลาง ๆ เป็นการใช้เวลาชีวิตอย่างน่าเสียดาย

--

--