THE RESPONSIBILITY PROCESS
Responsibility มาจากคำว่า Response(การตอบสนอง) + Ability(ความสามารถ)
- คืออะไรนะ?
➡ พูดง่ายๆเลยคือ ความรับผิดชอบ
- ยกตัวอย่างหน่อย?
➡ สมมุติผมเป็นคนขับ taxi ความรับผิดชอบของผมก็คือ รับผู้โดยสาร ส่งผู้โดยสารให้ถึงที่และปลอดภัย
แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะมองดูแล้วไม่ได้มีอะไรเลยแค่รับผู้โดยสาร ส่งผู้โดยสาร แค่นี้เอง คนขับ taxi ใครๆก็ทำได้
แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีอะไรที่มันมากกว่านั้น
- รถติด อาจจะทำให้คนขับหัวร้อน
- ผู้โดยสารหัวร้อนใส่ เพราะ ขับรถไม่ดี หรือพาอ้อมไปทางไกลๆ
- ต้องทำความสะอาดรถอยู่เสมอ ไม่สูบบุหรี่
โดยปัจจัยหลายๆอย่างข้างต้นนั้นสุดท้ายแล้วก็ต้องรับผิดชอบไปส่งผู้โดยสารอยู่ดี แต่วิธีการคิดแบบไหนหละที่จะรับมือได้ทุกสถานการณ์ เลยอยากแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนมาให้
3 Keys of success
- Intension (ความตั้งใจ)
สิ่งสำคัญที่สุดของ Resposibility คือ ความตั้งใจ
ในคลาสที่เรียนพอมาถึงช่วงที่ให้นึก good intension นั่งคิดอยู่สักพักนึง ปรากฏว่าคิดไม่ค่อยออก กลับกันถ้าในนึกถึง bad intension ปรากฏว่า คิดออกมาได้แบบรัวๆแบไม่มีอีโก้เลย จากการที่ได้ bad intension มาเยอะๆ เราถึงจะนำมา switch เป็น good intension นี่เป็นอีกเทคนิคที่ได้จากการเรียนมา
จากตัวอย่างทางด้านบน ความตั้งใจของเราก็คือส่งผู้โดยสารให้ถึงที่แบบปลอดภัย
2. Awareness (การรับรู้)
เป็นส่วนของ emotional ซึ่งข้อนี้อยากขออธิบายตรงส่วนของ Metal Model (รูปแบบทางความคิด)
Metal Model:
- Lay brame ขั้นนี้เป็นการโทษคู่กรณี
- Justify ขั้นนี้เป็นการโทษสภาพแวดล้อม
- Shame ละอายใจ ขั้นโทษตัวเอง
- Obigation ขั้นที่ต้องจำใจทนอยู่กำมันต่อไป
สมมุติเหตุการณ์ที่ว่าคือ ผู้โดยสารด่าว่า “ขับรถดีดีหน่อยดิ เวียนหัวหมดแล้ว”
QUIT
เราสามารถเลือกได้ที่จะออกจากสิ่งที่เจอแบบดีหรือแบบแย่
ยกตัวอย่างของ QUIT แบบที่ไม่ดี
- บอกกับผู้โดยสารไปว่า “ลงจากรถไปหารถคันใหม่เลย”
ตัวอย่าง QUIT แบบที่ดี
- เลือกที่จะไปส่งให้ถึงที่โดยที่เก็บความรู้สึกที่ไม่ดีไว้ในใจ จัดการกับความรู้สึกตัวเองและพิจารณาเรื่องราว
DENIED
ขั้นนี้คือขั้นของการปฏิเสธ จะมี ignore กับ disagree
ขั้นนี้ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้มาถึงเพราะว่ามันจะนำไปสู่การ toxic
ยกตัวอย่างเช่น
- จากเหตุการณ์ที่ว่าผู้โดยสารไม่พอใจกับการขับของคนขับรถคืออาจจะเลือกที่ไม่ฟังคำพูดผู้โดยสาร หนำซ้ำยังอาจะเปิดเพลงหรือวิทยุให้เสียงดังจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงของผู้โดยสาร
3. Confront (การเผชิญหน้า)
ขั้นสุดท้ายคือการเอาสิ่งที่ตั้งใจจากข้อแรก มาเผชิญหน้ากับมัน คือเอา good intension ของเราคือการส่งผู้โดยสารให้ถึงที่หมายปลายทางให้ปลอดภัย และทำมันให้เต็มที่
สุดท้ายแล้วก็อยากนำเรื่องราวที่เรียนมา มาเล่าสู่กันฟัง ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วย