You are Your Proof of Work
Proof of Work เป็น concept ที่คนที่เคยศึกษาการทำงานของ bitcoin อาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก
Proof of Work สำหรับ bitcoin เอาแบบสั้น ๆ คือ การที่เราเจอ ตัวเลขที่ถูกต้อง (Proof) ซึ่งได้จากการขุด ที่จะเกิดขึ้นได้โดยการใช้พลังงานและเวลาของเครื่องขุดในการคำนวณตัวเลข (Work)
ยิ่งมี Proof of Work ใน chain เยอะขึ้น ก็ทำให้ transaction มี confirmation มากขึ้น
ถ้าจะให้เขียนให้ครบจบตรงนี้ คนอ่านน่าจะตาลอย แนะนำให้ลองอ่านต่อใน Inventing Bitcoin ดูครับ
พอเราซูมออกมาเป็นภาพกว้าง ๆ Proof of Work จะหมายถึง “หลักฐาน” ที่เกิดขึ้น จากการทำ “งาน”
งาน (Work)ในที่นี้ คือ การลงทุนทาง “เวลา” ไปกับการทำส่ิง ๆ หนึ่ง ซึ่งจะได้ผลตอบแทนเป็น Proof of Work ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
Proof ที่พูดถึง ไม่จำเป็นต้องเป็นชิ้นงานที่มองเห็นหรือจับต้องได้ มันอาจจะหมายถึงทักษะ ความรู้ หรือ ประสบการณ์ ก็ได้
ตัวอย่างในชีวิตประจำวันชัด ๆ เลยก็อย่างเช่น
- การที่บางคนที่มีหุ่นดี สุขภาพแข็งแรง มีกล้ามเนื้อกำยำ ก็เป็น Proof of Work ของการออกกำลังกาย กินอาหารที่ดี และความมีวินัย
- การที่เราเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ แล้วเรารู้สึกว่ายังไม่แน่ใจกับสิ่งที่รู้ เราเลยศึกษาเพิ่ม สิ่งนี้ก็เป็นการเพิ่ม Proof of Work ตัวเรา ซึ่งคือ knowledge ของสิ่งนั้น ทำให้เรามั่นใจในองค์ความรู้นั้น ๆ มากขึ้น และสามารถนำไปส่งมอบ valueให้กับคนอื่น ๆ ได้
- หรือจะเป็นการฝึกทักษะการทำงาน ถ้าเรารู้ว่ายังไม่เก่ง Work ที่เราจะทำเพิ่ม ก็คือการหมั่นฝึกฝน และ Proof of Work ที่ได้ คือ ทักษะที่ดีขึ้นของเรา
พอมองแบบนี้ เราจะชั่งน้ำหนักได้ง่ายขึ้น ว่าเราอยากจะลงทุนเวลาของเราไปกับ Proof of Work แบบไหน เพราะทุกคนย่อมอยากได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากการลงทุน
แต่มันมีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง คือ เราต้องมองให้ออก ว่าอะไรเป็น Proof of Work จริง ๆ ของแต่ละสิ่ง
อย่างบางที เราบอกว่า เราเข้าใจเรื่องนี้นะ เพราะเราเคยเรียนคลาสนี้มา และเราอาจจะคิดว่าเอารูปถ่ายหรือประกาศนีย์บัตรมันเป็น Proof of Work ได้ แต่จริง ๆ แล้วไม่น่าใช่ มันคือ Proof of อะไรไม่รู้
อ่ะ ๆ มันอาจจะเป็น Proof ว่าเราเคยไปเรียนมาจริง อันนี้ยอมรับได้ แต่ไม่ใช่ว่ามันจะเป็น Proof ว่าเราเข้าใจเรื่องนั้นได้โดยตรง
เพราะ Proof ของ Work ที่เรากำลังพูดถึง มันคือ knowledge ที่อยู่ในหัวเรา ถ้าเราอยากโชว์ว่ามี Proof of Work จริง ๆ เราต้องเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ มาแชร์ให้คนอื่นฟังได้
และสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า Proof of Work ที่ได้พวกนี้ มันเป็นสิ่งที่จะติดไปกับตัวเราทั้งหมดเลย มันจึงเกิดเป็น quote ที่ว่า
“You are your Proof of Work”
ซึ่งสื่อว่า สิ่งที่เราเป็น ล้วนเป็น Proof of Work มาจากสิ่งที่เราทำทั้งสิ้น และยิ่งเรามี Proof of Work เยอะขึ้น เราก็จะยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
บางทีเราสามารถมองได้ด้วยตาเปล่าด้วยซ้ำ ว่าใครมี Proof of Work ที่มากหรือน้อย เพราะมันจะมันสะท้อนออกมาในรูปแบบของความมั่นใจ
พอรู้จักสิ่งที่เรียกว่า Proof of Work แล้ว สุดท้าย เราต้องกลับมาถามตัวเอง ว่าสิ่งที่เราทำอยู่ มันกำลังให้อะไรกับเรา กำลังสอนอะไรกับเรา หรือมันจะมอบ Proof of Work ที่เราต้องการ สำหรับเป้าหมายของเราในอนาคตหรือเปล่า
พิจารณามันให้ดี และอย่าลืม
หมั่นสร้าง Proof of Work ให้กับตัวเอง
