ReviewEverything — TMB Wave เรื่องแตะจ่าย ง่ายกว่าที่เคย

Ohmmie
Ohmmie Guide
Published in
4 min readSep 7, 2018

ยุคสมัยเปลี่ยน การจับจ่ายใช้สอยและความทันสมัยในการใช้จ่ายก็เริ่มพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป จากสมัยก่อนที่ต้องยื่นธนบัตร ยื่นเหรียญจ่าย แล้วรับเงินทอน พอมาปัจจุบัน ยื่นบัตรรูดปื๊ด หรือหยิบสมาร์ทโฟนตัวโปรดของเราขึ้นมาสแกนจ่าย และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ Ohmmie Guide อยากหยิบมารีวิว ก็เกี่ยวกับการใช้จ่ายในยุคสมัยใหม่นี่แหละ และเพิ่งมีการเปิดตัวมาใหม่ ๆ เลยทีเดียว นั่นคือ “ชิปแทนเงินสด TMB Wave” นี่เอง

TMB Wave คืออะไร ?

TMB Wave คือ ชิปอัจฉริยะ ที่ให้คุณใช้จ่ายแทนเงินสดได้ที่ร้านค้าที่รองรับ Visa PayWave

คำถามต่อมา Visa PayWave คืออะไรคะพี่? หนูงงมากมาย

Visa PayWave คือเทคโนโลยีการชำระเงินแบบ Contactless นั่นคือ แค่แตะบัตรที่รองรับเทคโนโลยีนี้บนหน้าเครื่อง EDC โดยที่ไม่ต้องเอาบัตรไปรูดหรือเสียบเลย ส่วนบัตรไหนที่ใช้ได้นั้น ลองสังเกตสัญลักษณ์รูปคลื่นบนหน้าบัตรแบบด้านล่างนี้เลยครับ

แล้วในไทยมีแบบนี้บนบัตรไหนบ้าง?

ถ้าเป็นบัตรเครดิต หาเจอได้ในบัตรเครดิตเกือบทุกใบ ทุกธนาคารเลย

ส่วนบัตรเดบิตและบัตรพรีเพด ตอนนี้มีประมาณ 4 ธนาคาร นั่นคือ CIMB Thai (เป็นธนาคารแรกที่เพิ่มลงในบัตรเดบิต ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558) TMB (เพิ่มลงบนบัตรเดบิตวีซ่า All Free, Lite และ Royal All Free สำหรับข้าราชการทหาร เมื่อต้นปี พ.ศ. 2561) ธนาคารกรุงไทย (เปิดตัวครั้งแรกบนบัตร Krungthai Travel Card เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา) และรายล่าสุดอย่าง SCB(เปิดตัวครั้งแรกบนบัตรเดบิต SCB M บัตรเดบิตวีซ่าใบแรกของธนาคาร เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา)

และพระเอกของเรื่องนี้อย่าง TMB Wave คือชิปการ์ดใบแรกในไทยและในวงการธนาคารไทยที่มีเทคโนโลยีการใช้จ่าย Visa PayWave

อยากสมัครใช้งานบ้าง ทำยังไงอะ?

อยากใช้ TMB Wave ง่ายนิดเดียว เพียงแค่คุณเป็นลูกค้าบัญชีเพื่อใช้ TMB All Free อยู่แล้ว ก็สามารถไปสมัครได้เลยที่ TMB สำนักงานใหญ่ พหลโยธิน และสาขาในห้างสรรพสินค้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑลทั้ง 34 แห่ง ถ้ายังไม่มี All Free ก็สามารถเปิดบัญชีได้เลย อ้อ! เตรียมบัตรประชาชนไปด้วยนะครับ แล้วก็ไปที่สาขาเพื่อสมัครใช้งานได้เลย แต่ในช่วงนี้อาจจะยังมีพนักงานบางคน งง และ อึ้ง ว่ามันคืออะไร และอาจจะทำรายการสมัครให้ช้าหน่อยนะครับ เพราะของมันใหม่มาก ยังไงก็ใจเย็นและเข้าใจพนักงานกันด้วยนะครับ เผลอ ๆ คุณอาจแจ็คพอต เป็นลูกค้ารายแรกที่สมัครใช้ TMB Wave แบบผมก็ได้นะ

สมัครแล้วได้อะไรบ้าง?

สมัครใช้งานเสร็จแล้ว คุณจะได้ซองกระดาษผ่านการปิดผนึกอย่างดี รอคุณแกะออก เมื่อคุณแกะออกมา ก็จะได้เป็นชุดชิปการ์ดไซส์คล้าย ๆ ซิมโทรศัพท์สมัยเมื่อ 10 ปีก่อน พร้อมกับ Keeper หรือ ตัวเก็บชิปการ์ดแบบสุ่มสีด้วย (เอ๊ะ นี่ Keeper หรือ โฟโต้เซ็ต BNK) ซึ่งมีให้ได้เลือกลุ้นอยู่ 4 สี คือ ดำ เทา ขาว ฟ้า และอยู่ในซองที่คุณได้ด้วย นอกจากนี้ หลังซอง ยังมีขั้นตอนการเปิดใช้งาน TMB Wave ด้วย ซึ่งคุณสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยตัวเองบน TMB Touch ของคุณ และยังสามารถควบคุมวงเงินการใช้งานต่อวันหรืออายัดชิปตัวนี้ในกรณีสูญหายหรือถูกขโมยผ่าน Touch ได้เช่นกันอีกด้วย

เริ่มต้นใช้งานกัน

เริ่มต้นอย่างง่าย ไม่นานครับ แค่เอาชิปการ์ดที่ได้ ใส่เข้าไปใน Keeper แล้วนำไปใส่ไว้กับอุปกรณ์หรือ Gadget ประจำตัวของคุณ (ในที่นี้ ผมขอแนะนำให้ใส่ไว้กับนาฬิกาของคุณเลย จะ Smart Watch หรือไม่ ก็ร้อยใส่สายนาฬิกาของคุณได้เลย เชื่อว่าหลายคนคงมีสิ่งนี้ติดตัวแน่นอน ใครมีไอเดียการติดที่แปลก ๆ แชร์มาได้เลยนะครับ) แล้วก็เอาไปใช้งานกันได้เลย!!!

มาลองใช้บนโลกความเป็นจริงกันบ้าง

สำหรับพื้นที่ที่ลองไปใช้งานจริง เราเลือกมา 2 พื้นที่ ที่รองรับ Visa PayWave นั่นคือ McDonalds และ Big C นั่นเอง (จริง ๆ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่รับชำระแบบนี้)

เริ่มจาก McDonalds เลย เราลองกันที่เครื่องสั่งอาหาร ซึ่งขั้นตอนก็เรียบง่าย สบาย ๆ เพราะเราสื่อสารกับระบบคอมพิวเตอร์นั่นเอง แค่กดสั่ง และชำระโดยการเอา TMB Wave ไปแตะที่หน้าเครื่อง EDC เสร็จปุ๊บ จบปิ๊ง ผ่านมาได้แบบสบาย ๆ เลย

ส่วนอีกหนึ่งพื้นที่ ที่ลงไปลอง นั่นคือ Big C ซึ่งก็รองรับการจ่ายแบบ Visa PayWave เช่นกัน ซึ่งตอนไปจ่าย พนักงานก็ยัง งง ๆ นะครับว่ามันคืออะไร คุยกันอยู่นานพอควร แต่ก็สามารถจ่ายได้สำเร็จ สบาย ๆ พร้อมกับความงุนงงที่เกิดขึ้นกับพนักงาน

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ Big C เราไม่โทษ TMB นะครับ ระบบใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา ไม่มี Error เกิดขึ้น แต่ความไม่เข้าใจ และความงงที่เกิดขึ้นกับพนักงาน อันนี้เราอาจจะต้องโทษทางร้านนะครับที่ไม่ได้มีการสอนพนักงานเรื่องเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย (เอาจริง ๆ คือทุกวันนี้ พนักงานน่าจะรู้แค่ว่าได้บัตรมาก็เสียบเลย) ยังไงก็ต้องฝากร้านค้าทุกร้าน สอนพนักงานเรื่องนี้ด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ครับ เชื่อเถอะ (TMB ช่วยสอนเรื่องนี้ก็ดีนะครับ เดี๋ยวพนักงานร้านจะงง คิดว่ามันเป็นระบบใหม่อีก แล้วก็ไม่รับชำระ แบบที่เคยเป็นกับ Samsung Pay นี่แหละ)

ปล. ตอนใช้งานที่ Big C ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ ยังไงก็ขออภัยด้วยครับ

นี่แหละ ที่ Ohmmie Guide ว่าดี

อย่างแรกเลยคือ ความสะดวก เพราะคุณสามารถนำชิปไปติดไว้กับอุปกรณ์ หรือ Gadget ชิ้นไหนก็ได้ของคุณ และนำไปแตะจ่ายได้เลย

อย่างที่สอง คือ ความปลอดภัย เพราะทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่าน TMB Wave จะมี SMS เตือนการใช้จ่ายทุกครั้ง และด้วยระบบ Visa PayWave ที่กำหนดยอดการใช้งานไว้ที่ไม่เกิน 1,500 บาท/ครั้ง ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลยครับว่า ถ้าหายแล้วจะถูกนำไปรูดซื้อของหลักหมื่นจนหมดบัญชี

อันนี้แหละ Ohmmie Guide ว่าอาจจะต้องปรับ

อย่างแรก คือ ความซ้ำซ้อน เพราะบัตรเดบิต TMB All Free เองก็สามารถใช้งาน Visa PayWave ได้เช่นกัน บางคนอาจจะคิดว่าจะต้องทำเพิ่มทำไมให้ซ้ำซ้อน

อย่างที่สอง คือ สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ TMB อาจจะต้องไปศึกษา และทำโปรโมชั่นเพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้งานเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย

ช่วงนี้ มีโปรบ้างมั้ย?

ลูกค้า TMB ที่ใช้งาน TMB Wave รับไปเลย 2 ต่อ

ต่อที่ 1 ซื้อตั๋วหนังที่ Major Cineplex 1 ที่นั่ง รับฟรีอีก 1 ที่นั่ง พร้อมชุด Combo Set ฟรีอีก 1 ชุด

ต่อที่ 2 ใช้จ่ายผ่าน Visa PayWave ด้วย TMB All Free debit หรือ TMB Wave รับคะแนน WOW X2 (จากปกติ 5 WOW)

ตั้งแต่วันนี้-31 ตุลาคมนี้ เท่านั้น

ใครที่อยากศึกษาเพิ่มเติม ก็คลิกไปได้เลยที่ https://www.tmbbank.com/page/view/TMB-WAVE.html

และถ้าคุณมีเรื่องที่อยากรู้ ก็ลองถามมาได้เลยครับ เดี๋ยว Ohmmie Guide จะลองช่วยหาคำตอบให้ครับ

--

--