Once upon a time at tainan city, Taiwan

OIR RMUTL
oirrmutl
Published in
5 min readJan 25, 2018

กาลครั้งนึง ณ ไถหนาน ไต้หวัน

กาลครั้งหนึ่ง ณ ไต้หวัน ครั้งแรกของการเดินทางไปยังต่างแดน

สวัสดีครับ ผมนายอภิรัษ์ แสงเงินชัย นักศึกษาครุศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่ (RMUTL) นับว่าเป็นความโชคดีของผมที่ได้พบกับอาจารย์ที่ดี มหาลัยที่คอยสนับสนุน และช่วงเวลาที่พอเหมาะ ทำให้ผมได้รับโอกาศในการเดินทางไปไต้หวันในครั้งนี้ โดยมีอาจารย์และนักศึกษาไปด้วยกัน 8 คน จุดมุ่งหมายคือมหาลัย STUST (Southern Taiwan University of Science and Technology) เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ได้รับประสบการณ์อะไรและได้เห็นสถานที่ต่าง ๆ มากมายเพียงใดนั้น ผมขอเริ่มเล่าตั้งแต่ออกเดินทางเลยละกันครับ

ผมออกเดินทางวันที่ 11 กรกฎาคม จากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ไปลงยังท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง แล้วเปลี่ยนเครื่องต่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติไต้หวันเถาหยวน ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 4 ชั่วโมงก็ไปถึงยังประเทศไต้หวัน

ถึงแบ๊ว ไปถึงเวลาประมาณ 22.00 น.ของไต้หวันเร็วกว่าไทยไปชั่วโมงนึงครับ ต้องขึ้นรถบัสต่อไปยังไถหนันซึ่งอยู่ทางใต้ของไต้หวัน แต่รถหมดต้องรอตอนเช้าจึงจะเริ่มขายตั๋วใหม่ สรุปว่านอนที่สนามบินเลยคร๊าฟ ที่นี่เค้าใช้ไฟ 110 โวลต์กันเล่นมือถือยาว ๆ

ตื่นเช้ามารีบซื้อตั๋วไปต่อ THSR (Taiwan High Speed Rail) ลงใต้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าขึ้นรถบัสจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง นั่ง THSR ฝ่าเขาทะลุดอยมาจนถึงมหาลัย STUST ผมพักที่ชั้น 11 วิวดีมาก หอพักก็สะอาด มองไปทางไหนก็สดชื่น :)

เอาละได้เวลาตะลอนทัวร์ไปดูอาคารต่าง ๆ ในมหาลัยกัน GoGoGo !

ป้ายมหาลัย STUST

ตึก B Electrical Engineering Building

ภายในตึกก็จะเจอป้ายบริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ น่าจะคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี

สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับตึกที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์นั่นก็คือหุ่นยนต์และบอร์ดวงจรต่าง ๆ

อีกห้องที่อยากนำเสนอก็คือห้อง Clean Room ใช้สำหรับการผลิต OLED

ต่อไปจะพาไปชมแผนก BMEC (The Bio-Medical Electronic Center) กันครับ เป็นแผนกเกี่ยวกับการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปใช้ในทางการแพทย์หรือช่วยเหลือผู้ป่วย เช่นเครื่องช่วยเปิดหนังสือ ตู้ทำน้ำร้อน — เย็นสำหรับผู้พิการทางสายตา เครื่องช่วยสวมใส่เสื้อผ้า เป็นต้น

เดินลุยต่อเข้าไปข้างในตึก ภายในห้องชั้นล่างสุดจะพบกับห้อง Integrated Biomedical System Laboratory ภายในห้องมีเครื่องแสกนศีรษะ เครื่องพิมพ์สามมิติ และอุปกรณ์สำหรับจำลองทางการแพทย์อีกมากมาย

เอาละ ย้ายไปเที่ยวตึกอื่นกันบ้าง เป็นตึกที่เพื่อนร่วมสถาบันของผม (เพื่อนจาก RMUTL) มาฝึกประสบการณ์อยู่ที่นี่เช่นกัน โดยห้องปฎิบัติการเป็นห้องสำหรับทดสอบคุณสภาพของผลิตภัณฑ์ก่อนทำการส่งออก แต่ดูเหมือน Prof. ที่ดูแลห้องนี้จะชอบเล่นพวก Multirotor แหะ (“มัลติโรเตอร์” หรือที่เรียกติดปากกันว่า “โดรน”)

หลังจากพบปะกันได้พอหอมปากหอมคอ ก็ขอตัวไปที่อื่นกันต่อดีกว่า สถานที่ต่อไปก็คือ Joint Incubation Center เป็นสถานที่สำหรับครูอาจารย์หรือนักศึกษาที่ต้องการเช่าห้องทำงาน ภายในแบ่งเป็นหลาย ๆ ห้องพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะแก่การเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อก่อตั้งบริษัทขนาดเล็กเป็นของตัวเองจริง ๆ

เจอ Maker Zoo ด้วยอะ [-0-]

แอบแวะไปดูห้องจัดแสดงผลงานของมหาลัยซักหน่อย เจอผลงานเจ๋ง ๆ เยอะเลย

บ้านอัจฉริยะสำหรับน้องหมาน้องแมว

ไมโครเมาส์ก็มี

รถเข็นพลังงานแสงอาทิตย์ก็มา

หรือว่าจะเป็น LED ติดกระจกแบบนี้ดี มีแต่อันเจ๋ง ๆ ทั้งนั้นเบยยยย

เมื่อเดินเที่ยวในมหาลัยจนเกือบทั่วแล้ว ก็ถึงคราวที่จะต้องไปตะลอนในเมืองกันบ้าง สิ่งที่แรกที่ต้องไปให้ได้สำหรับผมก็คือ ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นั่งรถไฟจากมหาลัยไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงแหล่งความเจริญ ในที่สุดก็หาร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เจอแล้วววว ผมคิดว่าน่าจะเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในระแวงนี้แล้วนะ

จอแสดงผลหลากหลายสีสัน หลากหลายรูปแบบ

บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ยอดนิยมอย่าง Arduino ก็มีเช่นกัน แต่เป็น Ktduino ;)

แผ่นทองแดงที่ติดดรายฟิล์มไว้เรียบร้อยแล้ว เหมาะแก่การทำ PCB เป็นอย่างยิ่ง

หัวแร้งแบบหัวงอและมีที่สอดตะกั่ว แหล่มโฮ๊ก

ไหน ๆ ก็เข้ามาในเมืองแล้ว สถานที่ต่อไปก็คือ Fablab Tainan เป็น Maker Space ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือตั้งแต่งานไม้ ไปจนถึงงานเชื่อมโลหะกันเลยทีเดียว อาทิเช่น 3D printer, CNC wood router, Laser cutting และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมายที่พร้อมจะเป็นตัวช่วยในการสร้างความฝันของเราให้เป็นจริง

โดยการไปถึงแบบกระทันหันในครั้งนี้ก็ได้รับการต้อนรับจากคนที่ดูแล Fablab เป็นอย่างดี แถมยังร่วมแสดงความคิดเห็นกับงาน Maker Faire Tainan ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้อีกด้วย ครอบครัวเมกเกอร์ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็อบอุ่น :) (แอบทราบมาว่าที่นี่รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนด้วย ดีจุง)

เอาละมาถึงสถานที่สุดท้ายที่ผมอยากจะนำเสนอ ที่นี่ก็คือ Science Park ผมอุปมาเอาเองว่าเป็นนิคมอุตสาหกรรม โดยภายใน Science Park นั้น มีบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย แต่ที่นี่แตกต่างจากนิคมอุตสาหกรรมบ้านเราตรงที่ Science Park มีทั้งโรงเรียน หอพัก ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สวนสาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเมืองขนาดย่อมได้เลยครับ

สุดท้ายนี้ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความที่ผมได้เขียนขึ้น จะเป็นการเปิดหูเปิดตา สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผมได้ไปอยู่ยังประเทศแห่งนี้ ได้เห็นทั้งความทันสมัย สภาพสังคม ความกระตือรือร้นในการริเริ่ม สร้างสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งประสบการณ์ในครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้ผมพัฒนาตนเองให้มากยิ่งขึ้น และก้าวเข้ามารวมกันเป็นครอบครัวของเมกเกอร์อย่างมีความสุข สวัสดีครับ (^/\^)

--

--

OIR RMUTL
oirrmutl
Editor for

Office of International Relations, RMUTL lanna