เรื่องกินเรื่องใหญ่

EP2: Hanoi-Ninh Binh Trip 2024

นอกจากกาแฟ อีกอย่างหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของทริปนี้คือการกินอาหารเวียดนาม

ใครที่มาเวียดนามแล้วคาดหวังจะได้กิน แหนมเนือง ปอเปี๊ยะ หรืออะไรๆที่เราเคยกินในร้านอาหารเวียดนามในไทย น่าจะผิดหวัง เพราะหน้าตามันดูไม่ค่อยเหมือน แต่รสชาติก็คล้ายคลึงอยู่ ยกเว้นน้ำจิ้มอย่าได้ร้องขอ หามีแบบไทยไม่

ล้อมวงมากินกัน จะเหลาให้ฟัง

Pho’ — เฝอ

ก๋วยเตี๋ยวน้ำเวียดนาม

ร้านเฝอ ในเวียดนามมีเยอะมากๆ เยอะกว่าร้านก๋วยเตี๋ยวในไทย ใครกลัวว่าจะกินอะไรไม่ได้ คนกินยาก เลือกกินเฝอ เสี่ยงน้อยสุด ไม่ต้องเลือกเพราะมีเส้นแบบเดียว และมีแต่แบบน้ำเท่านั้น ไม่ต้องมา ใหญ่ตกชิ้นไม่ใน ฯลฯ แต่ต้องเลือกก่อนเข้าร้านว่า ร้านนี้ขายเฝออะไร คือเนื้อ หรือไก่ (เท่าที่เดินๆดูมายังไม่เจอร้านเฝอหมู ยกเว้นในร้านอาหารที่ขายหลายๆอย่างจะมีให้เลือกว่าเฝอหมู เนื้อ หรือไก่) ร้านขายเฝอทั่วๆไป จะใส่เส้น น้ำซุป กับเนื้อสัตว์ และโรยต้นหอมซอย และจะมีจานใส่ผักมาให้เป็นใบโหระพา หรือบางร้านเป็นสะระแหน่ กับผักอะไรอีกอย่างที่เรามักกินกับลาบ

ใกล้ๆที่เราพัก เป็นร้านเฝอระดับมิชลินไกด์ เปิดตั้งแต่หกโมงเช้า เราออกมาเจ็ดโมงคิวยาวเฟื้อย แต่ร้านนี้ขายเฝอเนื้ออย่างเดียวเท่านั้น

ร้านเฝอเนื้อ มิชลินไกด์ หัวมุมถนน Pho Chan Cam

อีกร้านหนึ่งที่เราได้ชิม เป็นเฝอไก่ อร่อยจริงจัง เป็นร้านเล็กๆ น้ำซุปอร่อยมากๆ

ชามใหญ่มาก

Bun Cha -บุ๋นจา

ขนมจีนหมูย่าง

บุ๋นจา บุ่นจ๋า บุนจา แล้วแต่จะออกเสียง ที่เราได้กินในฮานอยอร่อยมากๆ ร้านที่เราไปกิน ขายบุ๋นจาอย่างเดียวมาตั้งแต่ปี 1966 ร้านได้มิชลินไกด์ด้วย ร้านเล็กมากแต่คนแน่นมาก เต็มทุกชั้น ตอนเรานั่งกินมีคนมายืนรอโต๊ะอยู่ข้างๆกดดันสุดๆ

บุ๋นจาจะเสิร์ฟมาแยกเป็นขนมจีนจานใหญ่ น้ำซุปที่มีเบคอนชิ้นใหญ่ๆใส่มาด้วยกับหมูสับปั้นก้อนทอด ที่เป็นแบบ Caramelize คือเกรียมนิดๆรสออกหวานๆ ผักนานาชนิดเป็นกระจาด และเครื่องเคียงได้แก่พริก กระเทียมสับ มะนาว

วิธีกินก็เอาขนมจีนใส่ถ้วย ใส่พริก กระเทียม บีบมะนาว ตักน้ำซุปที่มีหมู เบคอน ใส่ผักตามชอบ แล้วกิน ฟินมาก

อีกอย่างที่ต้องเล่าคือ เส้นขนมจีนในเวียดนามดีมาก เส้นเล็กๆ เหนียวนุ่ม

Highly Recommend

Cha Ca

จ๋าก๊า ปลากระทะร้อน

จ๋าก๊าเป็นอีกเมนูท้อปฮิตของฮานอย จะเป็นเนื้อปลาที่หั่นเป็นชิ้นๆ หมักกับขมิ้น ทอดในกระทะร้อนกับต้นหอมและผักชีลาว กินกับน้ำจิ้มกะปิที่ปรุงด้วยพริกสด มะนาว และถั่วลิสงคั่ว ในร้านที่เราไป เขาใส่กระเพาะหมูด้วย

ปลาที่ใช้ไม่รู้ว่าเป็นปลาอะไร ตอนเมนูต้มปลา ปลาสดที่เขาหั่นมาเสิร์ฟ เนื้อเป็นสีชมพู หนังก็ดูไม่หนา แต่พอต้มหรือผัดในกระทะร้อน หนังจะหนาและมีชั้นมัน คล้ายปลาสวายของไทย ที่เด็ดกว่าปลาคือ น้ำจิ้มกะปินี่แหละ กินกับขนมจีน

ซ้ายมือสุดคือ Cha Ca ใส่กระเพาะหมู

Nộm hoa chuối

สลัดหัวปลี

จานนี้ก็จัดว่าเด็ด สำหรับคนชอบกินผัก มีในร้านอาหารเวียดนามแทบทุกร้าน ส่วนผสมจะแตกต่างกันไปเล็กน้อย หลักๆก็จะเป็นหัวปลีกับแครอทหั่นฝอยกับผักสีเขียวต่างๆ เช่น โหระพา สะระแหน่ บางร้านก็ท้อปปิ้งด้วยกุ้ง แต่ฉันว่าไม่มีเนื้อสัตว์เลยอร่อยกว่า ราดน้ำสลัดใส หวานอมเปรี้ยว กินเป็นออเดิร์ฟสดชื่นมากๆ

จากสองร้าน ร้านที่สองมีท้อปปิ้งด้วยกุ้ง แต่ส่วนตัวชอบจานแรกมากกว่า ร้านแรกเสิร์ฟมากับข้าวเกรียบ

Bánh Mì

แซนวิชเวียดนาม

เด็ดอีกแล้ว คือทุกเมนูที่เลือกมาและได้ชิมนี่จัดว่าสุด บั๊นหมี่ เป็นแซนวิชเวียดนามที่ทำจากขนมปังฝรั่งเศสท่อนสั้นๆ ใส่ไส้หลายๆแบบแล้วแต่จะเลือก มีทั้งเนื้อสัตว์ต่างๆและแบบมังสวิรัติ บั๊นหมี่หาซื้อได้ง่าย มีขายทั่วๆไป อาจจะมากกว่าเฝอด้วยซ้ำ ร้านที่อร่อยที่สุดในฮานอยคือ Bánh Mì 25 กินในร้านหรือซื้อกลับบ้านได้ ราคาไม่แพง เรากินอาหารเช้ากันที่นี่ เครื่องดื่มต่างๆก็ดีอยู่ ราคาไม่แพง แซนวิชแบบไส้เนื้อสัตว์ราคา 45,000 VND หรือประมาณ 65 บาท เอาจริงหนึ่งอันกินได้สองคน

Chim Quay

นกพิราบทอด

เมนูที่ไม่ได้เคยคิดมาก่อน วันแรกที่มาถึงเราเดินหาข้าวกินกันจนไปเจอร้านหนึ่งอยู่หัวมุมถนน คนนั่งกันเยอะมาก ดูน่าอร่อย อารมณ์เหมือนร้านอาหารตรงหัวมุมซอยเทกซัสที่เยาวราช แต่ที่นี่โต๊ะเก้าอี้เป็นแบบเตี้ยๆ คล้ายที่พม่า เราสั่งอาหารกันโดยวิธีชี้รูปเอา โดยเดาว่าอาหารขึ้นชื่อเขาน่าจะเป็นนกพิราบทอด เพราะเห็นรูปที่โชว์หน้าร้าน จึงสั่งมา พนักงานถามว่าเอากี่ “อัน” คือตรงลักษณะนามที่ระบุจำนวนนี่ เราก็ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร โต๊ะเรานั่งกัน 6 คนเราจึงบอกเอา 4 ก็แล้วกันมาชิมดู เมื่อมาเสิร์ฟ ในจานมีนกพิราบทอดอยู่ 4 ชิ้น คือสองตัว ผ่าแบ่งครึ่งกลางตัวมาตัวละ 2 ชิ้น ส่วนอีกโต๊ะนั่ง 6 คนเหมือนกัน แต่สั่ง 6 กะว่าคนละชิ้น

ที่ไหนได้ นับเป็นตัวฮ่ะ สรุปโต๊ะเรามาสองจาน และอีกโต๊ะมาสามจาน คืนนั้นเลยต้องห่อหิ้วนกกลับไปกินต่อที่ห้องพัก

ร้านนี้นอกจากนกพิราบทอดแล้ว ผัดผักบุ้งไฟแดงอร่อยมากๆ

คืนนี้กินกันไปเบาะๆสามล้านกว่า…เวียดนามดอง

มาทริปนี้ เราจองร้านอาหารมาสองร้าน ร้านแรกเพื่อกิน Cha Ca หรือปลากระทะร้อน ชื่อร้าน Chả Cá Đế Vương กับอีกร้านชื่อ Tung’s Kitchen เป็นร้านอาหารที่เคลมว่าเป็น Authentic Vietnamese Cuisine

เมนูปลาต้มที่ Cha Ca De Voung ส่วนรูปขวาสุดเป็นข้าวต้ม เอากะปิใส่อร่อยไปเลย

ที่ร้าน Tung’s Kitchen เราสั่งปอเปี๊ยะสดกับขนมเบื้องญวนมาลองด้วย วิธีกินขนมเบื้องญวนที่นี่แปลกดี เขาจะมีแผ่นแป้งสี่เหลี่ยม แบบที่ใช้กินกับแหนมเนือง แต่แผ่นใหญ่กว่าและบางกว่า และไม่ต้องจุ่มน้ำ ตัดขนมเบื้องเป็นชิ้นๆ แล้วเอาแผ่นแป้งห่อไปกับผัก แล้วจึงกิน อะไรๆก็เอาแผ่นแป้งนี้ห่อกินได้หมด อร่อยดี แป้งพอโดนผัก โดนอาหารก็นิ่ม ละลายเละเลย

หมูห่อใบชะพลูของร้านนี้ก็ดี รสชาติหมูคล้ายๆไส้กรอกอีสานคือออกเปรี้ยวๆ รสจัด

ผู้จัดการร้านนี้ชื่อ ตั้ม อัธยาศัยดีติดจะทะเล้นหน่อยๆ อย่าไปคิดอะไรมาก

คนถ่ายรูปเห็นหน้านี่คือ คุณตั้ม ชาวเวียดนามผู้จัดการร้าน

ทั้งสองร้านที่ว่า ราคาไม่แพงมาก กินกัน 12 คนราคารวมประมาณมื้อละสองล้านกว่าๆ

มาฮานอยหาของกินง่ายมาก street food เต็มไปหมด โดยเฉพาะในย่านท่องเที่ยวหรือ Old Quarter โดยเฉพาะผลไม้

ปาท่องโก๋ร้านนี้เจอโดยบังเอิญ ขายปาท่องโก๋อย่างเดียว อร่อยมากและถูกมาก ร้านอื่นถ้าขายกับเฝอหรือข้าวต้มจะขายตัวละ 10,000 VND

พูดเรื่องอาหารแล้วก็ต้องแถมเครื่องดื่ม แนะนำดื่มเบียร์ เบียร์ฮานอยถูกและดี ที่กินกันหลักๆก็จะเป็น Hanoi Beer

ปิดท้ายหลังอาหาร สำหรับชาวกลางคืน ฮานอยมี Beer Street ที่คับคั่งจอแจ โดยเฉพาะวันสุดสัปดาห์ นั่งดื่มกันที่โต๊ะหน้าร้าน ถ้าไม่นึกถึงหัวดำหน้าเอเชีย ก็อาจจะได้อารมณ์ประมาณนั่งดื่มอยู่ที่แซงเยอแมงในปารีสได้เหมือนกัน

Beer Street Hanoi