EP1: The 6ix
Toronto by Eyes and Mind
แคนาดา ไม่เคยอยู่ในแผนของการเดินทางของเรามาก่อนเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงไม่คิดจะไปเที่ยวประเทศนี้ จนกระทั่งคุณแพร์ตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อ และทำงานที่แคนาดา คนทั้งบ้านจึงลุกขึ้นมาปรึกษาหารือ ช่วยวางแผนการเรียนของลูก และการเที่ยวของคนอื่นๆ เราสรุปเลือกโตรอนโต้เพราะอยู่ฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือและเป็นโซนเดียวกับคุณพายที่ทำงานอยู่ในเวอร์จิเนีย
แผนการเดินทางกำหนดขึ้นทันทีที่โรงเรียนตอบรับ โดยคุณแพร์จะเข้าเรียนในเทอม Fall คือต้นเดือนกันยายน ดังนั้นแผนเที่ยวจึงกำหนดเป็นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนที่แคนาดาพอดี และเนื่องจากเป็นการไปเยือนแคนาดาครั้งแรกของทุกคน เราเลือกที่จะทำความรู้จักกับโตรอนโต้ เมืองซึ่งจะเป็นที่อยู่ของคุณแพร์ตลอดสองปีแรก เป็นหลัก โดยไม่ข้ามไปรัฐอื่นๆ
และเราก็พบว่า เกือบยี่สิบวันในโตรอนโต้ เรายังรู้จักมันเพียงผิวเผินเท่านั้น
โตรอนโต้เป็นเมืองหลวงของรัฐ Ontario อยู่ทางใต้ของประเทศติดกับทะเลสาบออนตาริโอ ที่กว้างขวางใหญ่โต ใหญ่ขนาดที่หลายๆคนคิดว่ามันคือทะเล นอกจากทะเลสาบจะใหญ่ เมืองโตรอนโต้เองก็ใหญ่มากเช่นกัน ทั้งพื้นที่และจำนวนประชากร โตรอนโต้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับสี่ ในทวีปอเมริกาเหนือ (อันดับ 1 คือเม็กซิโกซิตี้ อันดับสองคือนิวยอร์ค อันดับสามคือแอลเอ) คือมีประชากรประมาณสามล้านคน (ในปี 2021) ในพื้นที่เมือง 630 ตารางกิโลเมตร ในขณะที่กรุงเทพมีประชากร 5.5 ล้านคน (ปี 2023) พื้นที่ 1,5xx ตารางกิโลเมตร (ไม่รวมปริมณฑล) พูดถึงความหนาแน่นก็สูสีกันอยู่
สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้คนในโตรอนโต้ 43.5% เป็นคนยุโรป และ 34.8% เป็นเอเชีย ที่เหลือก็คละๆกันไป (สถิติปี 2021) ความหลากหลายทางเชื้อชาติมีมากเหลือเกิน เอาจริงเกือบยี่สิบวันนี่ เราเจอคนอินเดีย มากที่สุด :D
นอกจากผู้คนหลากหลายแล้ว โตรอนโต้เป็นเมือง Dog Friendly มากถึงมากที่สุดเมืองหนึ่งที่เคยเจอ ไปที่ไหนก็จะเจอแต่คนจูงหมา ชนิดไปไหนไปด้วย สถานที่เกือบทุกแห่งอนุญาตให้หมาเข้าได้ มีขนม ชามน้ำดื่มวางไว้ให้ฟรี แต่ก็ไม่เคยเห็นขี้หมาตามถนนแม้แต่ก้อนเดียว
นอกจากหมา กระรอกดำ เป็นสัตว์ตามถนนที่พบเจอบ่อยๆ ตัวดำปี๋ หางยาวเป็นพวง กระโดดไปมาตามต้นไม้ แทะลูกนัทต่างๆ ความที่ต้นไม้ในเมืองเยอะมากๆ กระรอกก็เลยเยอะไปด้วย
อีกตัวที่อยากพูดถึงคือ นกพิราบ ตัวอ้วนมากๆ และค่อนข้างเชื่อง เราไม่ค่อยเห็นตามสายไฟหรอกนะ ส่วนใหญ่จะอยู่บนพื้นหญ้า ลาน โดยเฉพาะบริเวณที่มีแดดอุ่นๆ
โตรอนโต้เป็นเมืองที่ไปเที่ยวเองง่ายมากๆ เดินทางสะดวก ขนส่งสาธารณะมีทั้งรถไฟใต้ดิน รถเมล์ รถไฟระหว่างเมือง และรถรางไฟฟ้า ซื้อบัตรโดยสารแบบเติมเงิน เรียกว่า PRESTO Card บัตรเดียวใช้ได้ทุกประเภทของยานพาหนะ และที่ดีมากคือ หากเราเดินทางในระยะเวลาไม่เกินสองชั่วโมงจากการแตะบัตรครั้งแรก เราก็จะไม่เสียเงินอีก พูดง่ายๆคือจ่ายครั้งแรก มีเวลาสองชั่วโมง จะขึ้นรถอะไรกี่เที่ยวก็ไม่เสียเงินอีก
แต่อันที่จริงในหลายๆจุดท่องเที่ยวของเมือง เป็นระยะที่เดินได้ทั้งนั้น สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป แนะนำให้เดินเป็นหลัก ไม่งั้นอาจจะพลาดรูปสวยๆได้ง่ายๆ
โตรอนโต้ ในประวัติศาสตร์เคยเป็นพื้นที่สู้รบระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสมาก่อน สิ่งที่หลงเหลือให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม หรือกระทั่งภาษา ที่สืบทอดทางวัฒนธรรมมาถึงคนยุคปัจจุบันจึงค่อนข้างจะแตกต่างกว่าที่เราพบเจอมาในอเมริกา ป้ายต่างๆมีสองภาษาคืออังกฤษและฝรั่งเศส ศัพท์แสงต่างๆสำหรับคนที่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ก็อาจจะมีงงๆไปบ้าง
โตรอนโต้ ที่เราเจอค่อนข้างจะรณรงค์ในเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมาก มีการแยกขยะกันอย่างจริงจัง มีจุดทิ้งของที่เอาไป recycle ได้ ถังขยะหน้าบ้านก็ยังแยกว่าถังไหนเป็นขยะ recycle ถังไหนเป็นขยะเปียก อะไรแบบนี้ รถเก็บขยะของเมืองก็เก็บแยกกัน ถังขยะสีดำ ก็จะเป็นรถสีดำ ถังสีน้ำเงินก็เป็นรถสีน้ำเงิน ไม่ปะปนกัน (มันมีบางประเทศแยกขยะเรียบร้อย พอรถขยะมาปุ๊บเก็บทุกอย่างเข้ารถคันเดียว จบข่าว)
นอกจากจะมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอันดับต้นๆของโลกแล้ว โตรอนโต้ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองอันดับสามของ “tech hub” หรือศูนย์กลางของเทคโนโลยี ในทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย ซึ่งอันดับหนึ่งคือ Silicon Valley และอันดับสองคือ New York City (มิน่า ในวิทยาลัยที่ลูกจะเรียน ฉันจึงเห็นแต่นักศึกษาชาวอินเดียเต็มไปหมด)
สิ่งที่ประทับใจมากอย่างหนึ่งในเมืองที่โด่งดังด้านเทคโนโลยี่อย่างโตรอนโต้ ฉันกลับพบว่าร้านหนังสือมีเยอะมาก และนอกจากนั้นห้องสมุดยังเยอะมากๆอีกด้วย เป็นห้องสมุดสาธารณะที่สามารถเข้าไปใช้ได้ฟรี และมีอยู่ทั่วไปทุกชุมชนย่อยๆ กระทั่ง “ซุ้ม” ห้องสมุดจิ๋ว ตามซอยย่านที่พักอาศัยต่างๆก็ยังมีให้เห็น
โตรอนโต้มีหลายอย่างให้น่าเที่ยว เราสนุกกับการถ่ายรูปสิ่งละอันพันละน้อยในเมือง เท่าที่จะพบเจอในสิบกว่าวันนี้ ได้เรียนรู้บางอย่างใหม่ๆ เช่น เก้าอี้ ที่ดีไซน์เฉพาะแคนาดา หน้าตาที่เหมือนจะนั่งไม่สบายแต่อันที่จริงแล้วนั่งสบายที่สุด งานกราฟฟิค และศิลปะต่างๆที่เต็มเมืองไปหมด
จะค่อยๆเหลาไปก็แล้วกัน
หมายเหตุ
The 6ix เป็นชื่อเล่นของโตรอนโต้ นัยว่ามีที่มาจากการแบ่งย่านหลักของเมืองออกเป็น 6 ย่าน แต่หลายๆที่มาระบุว่า ชื่อ The 6ix มาจากนักดนตรีที่ชื่อ Drake และแร็ปเปอร์ชาวโตรอนโต้ที่ชื่อ Jimmy Prime