Hanoi Coffee (Shops)
EP1: Hanoi-Ninh Binh Trip 2024
สิ่งหนึ่งที่คนมักนึกถึงเมื่อพูดถึงเวียดนามก็คือ กาแฟ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมล็ดกาแฟ การปลูก รสชาติ กรรมวิธีการชงอันเป็นเอกลักษณ์ และเมนูกาแฟเฉพาะตัว ดังนั้นเมื่อเราจัดทริปฮานอย เรื่องของกาแฟ จึงเป็นสิ่งแรกที่เลือกหยิบมาเล่า
เวียดนามผลิตกาแฟมากเป็นอันดับสองของโลก รองจากบราซิล แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์โรบัสต้า (ที่มา: wikipedia)
ฝรั่งเศสเป็นคนนำกาแฟเข้ามาเผยแพร่ในเวียดนามตั้งแต่คศ. 1857 มีการตั้งโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปครั้งแรกในเวียดนามที่เมือง Bien Hoa, Đong Nai ในปี 1969 ปัจจุบันเมืองที่ผลิตกาแฟมากที่สุดในเวียดนามคือ Buon Ma Thuot ใน Dak Lak ซึ่งเรียกว่าเป็น “เมืองหลวงกาแฟ” ของเวียดนามเลยทีเดียว (ที่มา: https://vihaba.global/2021/06/03/types-of-coffee-beans-in-vietnam/)
ก่อนมาฉันศึกษามาระดับหนึ่งแล้วว่า มีร้านอะไรบ้างที่น่าไป ทำลิสต์ไว้เรียบร้อย แต่เมื่อมาจริงๆไม่ได้ไปตามลิสต์เลยแม้แต่ร้านเดียว ความที่ในฮานอยมีร้านกาแฟเต็มไปหมด เชียงใหม่ว่ามีร้านกาแฟเยอะแล้ว เทียบไม่ได้เลยกับในฮานอย โดยเฉพาะในย่าน Old Quarter หรือเมืองเก่าของฮานอย
ด้านหน้าที่พักของเราบนถนน Pho Chan Cam ที่มีความยาวประมาณ 140 เมตร มีร้านกาแฟถึง 7 ร้าน นี่นับเฉพาะร้านกาแฟเท่านั้น ไม่นับร้านอาหารที่ขายกาแฟด้วย พักที่นี่ 3 คืน เราสิงอยู่ใน 3 ร้านหลักๆ
Blackbird Coffee
5 Pho Chan Cam เปิด 7:00–21:00 จ่ายการ์ดได้
ที่นี่นอกจากขายกาแฟตามมาตรฐานร้านกาแฟ แล้วยังมีกาแฟท้องถิ่นอีก 3 อย่างคือ Den (Black Coffee), Nau (Milk Coffee) และ Bac Xin (Ice Coffee) ทั้งสามอย่างจะเป็นกาแฟเอสเปรสโซที่ทำจากโรบัสต้า กาแฟนม จะใส่นมข้นหวานด้านล่าง ส่วนกาแฟเย็นก็เป็นกาแฟใส่นมในขณะที่ signature ของร้านเป็น Eggpresso หรือ กาแฟไข่ ซึ่งจะท้อปเอสเปรสโซด้วยครีมที่ทำจากไข่แดงตีกับนมข้นหวานและครีม (บางร้านก็อาจจะแตกต่างกันไปนิดหน่อยแต่ส่วนผสมหลักคือไข่แดง)
วิธีกินกาแฟไข่ เขาห้ามคน ให้ใช้ช้อนตักกิน คนชิมบอกว่าอารมณ์เหมือนกินขนมหวาน
ร้านนกดำนี่ขายเบเกอรี่ด้วยสองสามอย่าง แต่ต้องพูดถึงซินนาม่อนโรลชิ้นนี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันสั่งซินนาม่อนโรลแล้วมีการอุ่นมาแบบอร่อยมากๆ ด้านในฟูนุ่มในขณะที่เปลือกบางกรอบ ที่เคยกินๆมา เวลาเสิร์ฟมักจะไม่อุ่น บางทีอุ่นมาแบบรู้เลยว่าไม่เป็นคือน่าจะอุ่นด้วยไมโครเวฟ ขนมมาเหนียวมาก และแป้บเดียวแข็งโป๊ก กินไม่ได้ ฮือ อยากกินอีก
Blackbird Coffee ในฮานอยน่าจะมีประมาณ 4 สาขา (สาขาที่ Pho Chan Cam นี่ด้านบนเป็นที่พักด้วย ต้องจองผ่าน airbnb เดิมเราก็จะพักที่นี่แต่จองช้าไปแค่วันเดียว ไม่ว่างแล้ว)
Loading T Cafe’
8 Pho Chan Cam เปิด 8:00–18:00 รับเงินสดอย่างเดียว
ร้านนี้ดึงดูดเราด้วยรูปลักษณ์อาคารภายนอก ร้านอยู่ชั้นสอง ส่วนชั้นล่างเป็นร้านขายครัวซองต์ ที่สามารถสั่งมากินได้ อินทีเรียร์ในร้านสีสันสุดจริง ถ้วยกาแฟหลากหลาย ลายไม่ซ้ำ ฉันกิน Coffee Den ครั้งแรกที่นี่ กาแฟเอสเปรสโซแก้วเล็ก เข้มข้น (ไม่ข้นเท่ากาแฟตุรกี) มีความขมที่ไม่เปรี้ยวเลย แม้จะเป็นโรบัสต้า แปลกใจเหมือนกัน และที่แปลกใจอีกอย่างคือ มันจะขมตอนดื่ม แต่เมื่อผ่านลงคอไปแล้ว มันจะมีความหวานเล็กๆหลงเหลือในปาก ในขณะที่ไม่มีความขมค้างอยู่เลย
นึกถึงร้านกาแฟที่ไทยบางแห่ง นอกจากขมตอนกินแล้วยังทิ้งความขื่นไว้ในคอทั้งวัน
ร้านนี้เหมาะกับการมาถ่ายรูปมาก พนักงานน่ารัก แถมน้ำชาร้อนคู่มากับกาแฟด้วย มากันสี่คนสั่งกาแฟสองแก้ว แจกชาร้อนให้คนที่ไม่สั่งกาแฟด้วยนะเธอ
Eggyolk Coffee
5a Pho Chan Cam เปิด 7:00–22:30 จ่ายการ์ดได้
ร้านนี้เป็นอีกร้านที่สมาชิกชอบมาก นอกจากขายกาแฟแล้ว ที่นี่ยังทำแก้วกาแฟเซรามิคของตัวเองขายอีกด้วย และแน่นอนว่า signature ของร้านก็คือกาแฟไข่ ตามชื่อร้าน หนึ่งในสมาชิกที่ได้ชิมกาแฟไข่ทั้งของร้านนี้และร้านนกดำบอกว่า ของ Eggyolk มีความเป็น “ขนม” มากกว่า
Tra Thang
9 Pho Chan Cam เปิด 7:30–22:00
ถัดจากร้าน Eggyolk เป็นร้านชื่อ Tra Thang — Tea, Coffee & Brunch ร้านนี้ไม่ได้ชิม แต่ชอบบรรยากาศหน้าร้านมากๆ ให้ความรู้สึกโบราณดี
Still Color Cafe’
32 Ng. Tho Xuong เปิด 8:00–19:00 จ่ายการ์ดได้
ร้านนี้เป็นความบังเอิญที่เจอ เราเดินผ่านและสะดุดตากับภาพวาดบนประตูเล็กๆข้างร้านกาแฟ เลยตัดสินใจเปิดเข้าไปด้านใน ร้านเล็กมาก ที่ผนังด้านหนึ่งวางชั้นหนังสือ ส่วนด้านบนผนังกลายเป็นจอโปรเจ็คเตอร์ที่เปิดมิวสิควิดีโออยู่ ฉันสั่ง “Pine Sea” เป็น Cold Brew ที่มี Pineapple Homemade และเลมอน (แต่วันที่สั่ง Pineapple homemade หมดเขาขอเปลี่ยนเป็น Lemon Homemade: เป็นแยมเหลวๆ) แตะปากแก้วด้วยเกลือรอบๆ คือ อร่อยมากถึงมากที่สุด
ระหว่างที่รอเครื่องดื่ม มีสาวเวียดนามคนหนึ่ง สวยและหุ่นดีมากสวมเดรสดำ ส้นสูงเดินเข้ามาสั่งกาแฟ แล้วก็เดินออกไป สักพักก็กลับเข้ามาพร้อมกุหลาบหอบใหญ่ นางแกะห่อกุหลาบและเอามาให้ฉันกับน้องคนละดอก พร้อมกับถามว่าเรามาจากไหน พอบอกว่าประเทศไทย เธอทำตาโตแล้วบอกว่าชอบประเทศไทยและภูเก็ตมากๆ จิ๊จ๊ะกันพอประมาณ แล้วเธอก็จากไป น้องฉันบอกว่า ฟีลฉาก Breakfast at Tiffany มาก
ร้านนั่งสบาย กาแฟอร่อย และมู้ดคือดีมากๆ อยู่ในซอกหลืบลับของ Old Quarter เดินออกมานิดนึงจะเป็นซอยข้างโบสถ์ St. Joseph
Hanoi 1990s TrainStreet Coffee
Ngo 222 D. Le Duan เปิด 8:00–21:00
ร้านกาแฟสำหรับนั่งรอดูขบวนรถไฟแล่นผ่าน ชนิดเฉียดผิว ฉันสั่ง Cafe Den ซึ่งที่นี่จะต่างจากร้านอื่นตรงที่กาแฟจะมีรสเค็ม เหมือนเติมเกลือลงไปเล็กน้อย แต่บอกเลยว่า อร่อย ว่าจะลองทำกินดูบ้าง แต่คิดว่ามันน่าจะเหมาะกับเอสเปรสโซข้นๆมากกว่าอเมริกาโน่บางๆ ส่วนอีกแก้วในรูปเป็นเมนูชื่อ Salted Coffee เป็นกาแฟเอสเปรสโซที่มีนมข้นด้านล่างและท้อปด้วยฟองครีมเค็มๆ คนกินว่าอร่อยดี รายละเอียดของร้านและบรรยากาศจะเเก็บไว้เล่าในตอน Train Street อีกครั้ง
นอกจากร้านที่เราได้เข้าไปชิมแล้ว ก็มีร้านที่เราเดินผ่าน และอยากเข้าอีกหลายร้านมาก ฉันอยากทำทริปกินกาแฟอย่างเดียวจัง เพราะยังไม่ได้ชิมกาแฟที่หยดผ่าน “Phin” หรือที่กรองแบบเวียดนามเลย
ตอนกลับไปเดินเลือกซื้อกาแฟกลับบ้าน ซึ่งมีให้เลือกหลายชนิดมากทั้งแบบเมล็ด แบบบด และแบบสำเร็จรูป รวมไปถึงกาแฟชะมดที่หลายคนชอบ จบที่ Mr.Viet ซื้อเพราะแพคเกจเท่านั้น