รีวิว Nikon 1 J5 กล้องมิเรอร์เลสอินดี้ ที่มีขนาดเล็กจนกล้องคอมแพคต้องงง!

Tor Chanon
torcnn
Published in
5 min readMay 20, 2016

--

— “เอาจริงๆเรียกกล้องคอมแพคเปลี่ยนเลนส์ได้ยังจะเหมาะกว่า”

สวัสดี นี่เรา @torcnn เอง โทษทีหายไปนาน วันนี้โผล่มารีวิวกล้องเหมือนเคย ซึ่งรอบนี้เป็นกล้องจากค่าย Nikon ครับ หลายๆคนเวลานึกถึงกล้องไร้กระจกหรือกล้องคลาส mirrorless อาจจะไม่ได้นึกถึงยี่ห้อ Nikon กันสักเท่าไหร่ แต่เราจะบอกว่าค่ายนี้เค้าก็มีของเหมือนกันนะ แต่ของของเค้าจะมีความสุดโต่งอยู่พอสมควร เรียกได้ว่า ใครจะรักก็รักไปเลย ใครจะเกลียดก็เกลียดไปเลย ประมาณนั้นเลยอะ

Background

เท้าความกันนิดนึง Nikon 1 J5 เนี่ยเป็นกล้อง mirrorless ที่เปิดตัวไปตั้งแต่กลางปี 2015 ครับ หลายคนอาจจะงงว่ากล้องก็เปิดตัวนานแล้ว ทำไมเราเพิ่งมารีวิว คือก่อนหน้านี้เราไม่เคยสนใจกล้องตัวนี้เลย ไม่เคยอยู่ในสายตา แต่พอได้มาลองเล่นจริงๆเราว่ามันโอเคมากกกกกกก เลยขอยืมทาง Nikon มารีวิวสักหน่อยครับ

Nikon 1 คือชื่อซีรีส์กล้องของเค้า ส่วน J5 เนี่ยเป็นชื่อรุ่น เป็นกล้องตัวล่าสุดและตัวทำเงินของซีรีส์ Nikon 1 เลยแหละ และช่วงที่มันเพิ่งเปิดตัวมันเป็นกล้องที่โฟกัสเร็วที่สุดตัวนึงในกลุ่มกล้องmirrorlessเลย ในไทยรุ่นนี้จะดังมากๆอยู่ช่วงนึง ช่วงที่ได้โทนี่รากแก่นมาเล่นหนังสั้นอะ เหย ดังระเบิดระเบ้อ

เนี่ยๆ อันนี้ๆๆ

ต่อไปเราจะแจกแจงประเด็นรีวิวออกเป็นส่วนๆด้วยภาษาคนนะครับ ไม่ต้องกลัวอ่านไม่รู้เรื่องนะ ย่อยให้ระดับนึงแล้ว ส่วนสำหรับคนไทยที่ยาวไปไม่อ่าน ข้างล่างมีรูปตัวอย่างของ Nikon 1 J5 นะครับ เผื่อจะเลื่อนไปดูตรงโน้นอย่างเดียว

Sensor

เจ้า Nikon 1 J5 ใส่เซนเซอร์ความละเอียด 20.8 ล้านพิกเซล ขนาด 1 นิ้วมาให้ ซึ่งเป็นขนาดเซนเซอร์ที่โดนโจมตีหนักมาก เพราะมันเล็กกว่าชาวบ้านเค้า คนยังไม่เคยใช้นี่เบะปากใส่กันเป็นแถบ สารภาพเลยว่าเราก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น(จนกระทั่งได้มาลองเล่นดู) แต่เราจะบอกว่าเซนเซอร์ขนาด1นิ้วไม่ใช่ขนาดเซนเซอร์ที่เลวร้ายอะไรเลย และข้อดีของการมีเซนเซอร์ขนาดเล็กคือมันจะสามารถทำให้กล้องและเลนส์มีขนาดเล็กลงไปด้วยได้ แล้วความที่ทุกอย่างโคตรเล็กนี่แหละคือจุดขายของมัน เดี๋ยวเราจะพูดเพิ่มในหัวข้อเรื่องเลนส์

เซนเซอร์นี้ถ้าเทียบกับกล้องฟิล์มขนาด 35mm คือมันจะคูณระยะเลนส์เข้าไปอีก 2.7 เท่า คือสมมติเราเอาเลนส์ 10mm ไปติด เราจะได้ระยะเทียบเท่า 27mm

เซนเซอร์ขนาด1นิ้วไม่ใช่ขนาดเซนเซอร์ที่สามารถละลายหลังได้เยอะๆนะครับ คือไม่ใช่เบลอไม่ได้นะ แค่มันเบลอได้ไม่เยอะ ใครที่อยากจะได้กล้องที่เบลอหลังละลายเป็นโจ๊กให้กดปิดรีวิวนี้แล้วไปหาอะไรอย่างอื่นทำครับ แต่สำหรับใครที่อยากจะได้กล้องที่เบลอหลังน้อยๆ ถ่ายเซลฟี่หมู่โดยอยากให้เบลอคนข้างหลังน้อยหน่อย หรือสายสตรีทที่ขี้เกียจปรับรูรับแสงแคบๆ คุณได้ไปต่อครับ

ISO

ปรับได้ตั้งแต่ 200–12800 ครับ ด้วยความที่ขนาดเซนเซอร์1นิ้ว ทำให้การจัดการ noise อาจจะสู้พวกเซนเซอร์ที่ขนาดใหญ่กว่าอย่าง APS-C หรือ Four Thirds ไม่ได้

ชัตเตอร์

ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดอยู่ที่ 1/16000 วินาที ช้าสุดอยู่ที่ 30 วินาที มีโหมด Bulb (หรือถ่ายแบบเปิดชัตเตอร์ค้างไว้นานๆ) เรียกได้ว่าอยากจะถ่ายแอคชั่นระดับไหนก็ได้ หรือจะตั้งกล้องลากแสงยาวๆเป็นเส้นๆก็ไม่มีปัญหา

ระบบโฟกัส

เปนแบบไฮบริด คือจะมีทั้งแบบContrast Detection และ Phase Detection จุดโฟกัส ทั้งหมดอยู่ที่ 171 จุด ซึ่งอยู่ตรงกลาง 105 จุด จากการลองเล่น ความเร็วในการโฟกัสนั้นถือว่าอยู่ในระดับเร็วครับ ไม่พบความน่าหงุดหงิดใดๆ

การถ่ายภาพต่อเนื่อง

อันนี้เป็นส่วนที่เรารู้สึกว่านิคอนบ้าไปแล้ว คือไอ้จิ๋วนี่สามารถถ่ายต่อเนื่องได้ที่ 60 ภาพต่อวินาที(แบบไม่โฟกัสต่อเนื่อง) และถ่ายได้ที่ 20 ภาพต่อวินาที(แบบโฟกัสต่อเนื่อง) คือตอนลองถ่ายเล่นนี่เอ๋อไปเลย จะเร็วไปไหน กดแป๊บเดียวรูปเข้ามาในเมมเพียบเลยอะ เร็วจนบางทีก็งงว่าชีวิตนี้จะเอา60ภาพต่อวินาทีไปทำอะไร 555

เนี่ยมันจะปรับได้ว่าจะเอากี่เฟรมต่อวิ ส่วนตัวเราว่า 10 เฟรมก็เหลือๆแล้ว 60 เฟรมนี่รัวไป๊ เปลืองเมม 555

วีดีโอ

เป็นส่วนที่เรารู้สึกว่ามีความขาดๆเกินๆนิดนึง คือมันถ่าย 1080 ที่ 60fps ได้ โอเค อันนี้ถือว่าปกติ กล้องหลายๆตัวทำได้ แต่เจ้าตัวเล็กนี่สามารถถ่าย 4K ได้ด้วย แต่ถ่ายได้แค่ที่ 15fps นะ เอ่อ งงปะว่าใส่มาทำไม 555 นี่โคตรงง แต่มีไว้ก็คงดีกว่าไม่มี

กล้องตัวนี้สามารถที่จะถ่าย Slow Motion ได้ด้วยนะ ถ้าขนาด 1280 x 720 จะถ่ายได้ที่ 120 fps ถ้าขนาด 800 x 296 จะถ่ายได้ที่ 400 fps ถ้าขนาด 400 x 144 จะถ่ายได้ที่ 1200 fps สำหรับใครที่อ่านแล้วงง ก็คือยิ่งถ่ายความละเอียดต่ำ ก็จะยิ่ง Slow Motion ได้มากเท่านั้นแหละ

จอภาพ

จอภาพของ Nikon 1 J5 สามารถที่จะปรับได้หลายองศามาก หลากหลายการใช้งานสุดๆ แล้วยังพับจอ 180 องศาเพื่อเซลฟี่ได้ด้วย

นอกจากเรื่องจอพับได้ คือจอเป็นแบบสัมผัสครับ จะปรับอะไรก็ใช้นิ้วจิ้มๆเอา เราเชียร์มาก บอกเลย มันสะดวกดี จะโฟกัสก็เอานิ้วแตะๆได้ จะถ่ายรูปก็เอานิ้วแตะได้เหมือนกัน เรานี่ใช้ประจำ มันเร็วกว่ามานั่งเลื่อนๆจุดโฟกัสเองเยอะ

เซลฟี่

เพิ่งพูดเรื่องจอพับได้ไป งั้นเข้าเรื่องเซลฟี่เลย สีผิวที่ได้จากการเซลฟี่ด้วยโหมดออโต้จะออกชมพูๆ หน้าก็ออกมาเนียนสวยดี สาวๆน่าจะชอบกัน ส่วนเลนส์ที่เหมาะสมกับการเซลฟี่คือเลนส์คิตที่มากับกล้องนั่นแหละครับ

ปรับแค่แสงก็พร้อมลงเลย เพราะสีผิวที่ได้ออกมาสวยอยู่แล้ว

แฟลช

มีแฟลชในตัวครับ ปุ่มกดแฟลชจะหลบอยู่ด้านข้าง ส่วนโหมดแฟลชที่มาด้วยนั้นก็จะมีตั้งแต่ Fill-flash, Slow-sync, Rear-sync

ปุ่มควบคุมต่างๆ

ปุ่มไม่เยอะมาก มีแต่ปุ่มเบสิกๆทั้งนั้น ด้านบนจะมีปุ่มปรับเมนู ชัตเตอร์จะวางอยู่ข้างๆ หุ้มด้วยคันโยกเปิดปิด ปุ่มวีดีโออยู่ถัดไปทางขวา หุ้มด้วยวงแหวนปรับค่าความเร็วชัตเตอร์

ด้านหลังก็จะมีปุ่มกดดูรูป ปุ่มเมนู ปุ่มปรับโหมดการถ่ายภาพ วงแหวนปรับค่ารูรับแสง ปุ่มส่งรูปเข้ามือถือ และปุ่มลบภาพ เอาจริงๆไม่ซับซ้อนครับ เล่นแป๊บเดียวก็เข้าใจ

สิ่งที่เราชอบคือกล้องตัวนี้สามารถปรับค่าความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงได้ผ่านปุ่มด้านนอก ใช้กระบวนการน้อยในการปรับ และปุ่มพวกนี้ก็อยู่ในตำแหน่งที่หมุนง่าย ทำให้การปรับค่าต่างๆทำได้รวดเร็วดี

Wifi & NFC

มาแน่นอน สามารถส่งภาพผ่านการเชื่อมต่อ Wifi ได้ ใช้สมาร์ตโฟนเป็นรีโมตกดชัตเตอร์ได้ด้วย นอกจากนี้กล้องยังมีNFC ไว้ใช้กับมือถือที่มีNFC แตะๆส่งภาพ แป๊บเดียวเสร็จ

แต่ข้อเสียของแอปพลิเคชั่นส่งรูปของ Nikon คือมันไม่สามารถกดเลือกภาพขนาด Original ได้ครับ ถ้าอยากได้ไฟล์ใหญ่เต็มๆต้องเอาเข้าคอมอย่างเดียว

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่

เป็นรุ่น EN-EL24 ใครจะซื้อเพิ่มอย่าซื้อผิด ชาร์จเต็มหลอดถ่ายได้ 250 ภาพ ถือว่าไม่ได้อึดไรมากมาย อาจจะต้องพกแบตเพิ่มถ้าคิดว่าจะออกทริปยาวๆ น้ำหนักต่อก้อนคือประมาณ 45 กรัม เบาดี การชาร์จจะมีที่ชาร์จแยกมาให้ครับ

ที่ชาร์จแยก

SD card

ก่อนซื้อ สิ่งที่ต้องรู้ไว้คือกล้องตัวนี้ใช้ Micro SD card นะครับ ไม่ใช่ SD Card แผ่นใหญ่ๆแบบธรรมดาทั่วไป อย่าซื้อผิดนะ ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบ Micro SD Card นี่หรอก ลมพัดนิดพัดหน่อยก็บินหายไปแล้ว แต่เขาก็คงตั้งใจทำให้มันเล็กตามคอนเซปของกล้องนี้น่ะแหละ

SD card ที่ใช้ต้องเป็นแบบนี้

SD card แบบนี้เราเห็นมีขายตามเซเว่นด้วย ราคาประมาณ200–300ได้มั้ง ถ้าลืมก็แวะเอา

บอดี้

เล็กมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แค่ 98 x 60 x 32 mm นี่คือสิ่งที่เรารักที่สุดของกล้องตัวนี้ เป็นไฮไลต์เลย มันเล็กจนเรารู้สึกว่า กล้องที่พกพาง่ายจริงๆมันต้องเป็นแบบนี้ดิ เก็ทฟีลปะ บางทีคนเราก็ต้องการแค่กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ที่คุณภาพโอเค พกพาง่ายๆเหมือนไม่ได้พามันมาด้วย ควักออกมาใช้งานถ่ายรูปแชะๆๆๆแล้วก็โยนใส่กระเป๋าเหมือนเดิม เห้ย ต้องการอะไรมากมาย

กล้องเปล่าๆหนัก 231 กรัม เบาโคตรรรรร ส่วนการจับถือนั้นถือว่าพอได้อยู่ มีกริปยื่นออกมานิดนึง ด้วยความที่กล้องมันเล็กมากทำให้เราโอเคกับกริปขนาดเล็กๆแบบนี้

เลนส์

ด้วยผลของขนาดเซนเซอร์ ทำให้เลนส์แต่ละตัวมีทางยาวโฟกัสสั้นมาก ข้อเสียคือมันเบลอหลังได้ไม่เยอะ แต่ข้อดีคือเลนส์ต่างๆล้วนมีขนาดเล็กและเบามากๆ

ตัวซ้าย 18.5mm f1.8 ตัวขวา 6.7–13mm f3.5–5.6

เนี่ยดูดิ เหยยยยยยยยยยยยย เราสามารถมีเลนส์ช่วงเทียบเท่า 50mm ได้ในขนาดที่โคตรเล็กเลยอะ มันน้ำหนักเบามากๆด้วยนะ

เลนส์ 18.5mm f1.8 (เทียบเท่าระยะ 50mm)

เลนส์แต่ละตัวจะมีเลขทางยาวโฟกัสแบบแปลกๆ ที่มึนสุดคือบางตัวมีทศนิยมมาด้วย ทนจำหน่อยแล้วกันเนอะ

เลนส์ในsystemของ Nikon 1 นั้นมีให้เลือกสรรหลายตัวครับ จับคูณ 2.7 หาระยะกันเองได้ มีแทบทุกช่วงตั้งแต่

  • 10–30mm f3.5–5.6 (เลนส์คิต)
  • 10mm f2.8
  • 11–27.5mm f3.5–5.6
  • 10–100mm f4.0–5.6
  • 30–110mm f3.8–5.6
  • 6.7–13mm f3.5–5.6
  • 18.5mm f1.8

และยังมีอื่นๆอีก นี่จัดช่วงมาให้แค่คร่าวๆ เท่าที่เห็นบางช่วงก็มีหลายรุ่นแยกย่อยไปอีกนะ ซับซ้อนเฟร่อ

ราคา

ราคาเปิดตัวมัน 21,990 บาทอะ แต่ผ่านมาสักพักตอนนี้ชุดกล้องพร้อมเลนส์คิตมันราคาไม่เกินสองหมื่นหรอก อาจจะอยู่แถวๆหมื่นแปด

สรุป

นี่คือกล้องMirrorlessที่เราหนักใจกับการจะเรียกมันว่าMirrorlessมากๆ มันเป็นกล้องที่มีความสะดวกสบายยิ่งกว่ากล้องCompactเองหลายๆตัวซะจนเราอยากเรียกมันว่า “กล้องCompactที่เปลี่ยนเลนส์ได้”มากกว่า เรื่องความสะดวกสบายในการพกพาเป็นไฮไลต์ที่ทำให้กล้องตัวนี้เป็นหนึ่งในกล้องที่เราชอบที่สุดไปแล้ว

กล้องตัวนี้เหมาะกับใคร?

เราว่าเหมาะกับคนที่มีความอินกับการถ่ายรูปในระดับปานกลางถึงต่ำ แต่ยังต้องการกล้องที่คุณภาพดี ใช้งานสากกะเบือยันเรือรบ ให้คุณภาพไฟล์ในระดับโอเค ไม่ต้องการพกกล้องตัวใหญ่ๆ อยากได้กล้องที่พกแล้วไม่รู้สึกเป็นภาระชีวิต หรืออาจจะอยากพกเลนส์เยอะๆสัก3–4ตัวเพื่อมุมมองหลายๆแบบแต่อยากแบกน้ำหนักแค่เท่ากับเลนส์กล้องใหญ่ๆเพียงตัวเดียว

ถึงกล้องตัวนี้จะยังดูมีความขาดๆเกินๆอยู่หลายอย่าง แต่เราว่าสิ่งที่Nikonเลือกที่จะทำออกมามันต้องไปตรงใจผู้ใช้งานกล้องบางกลุ่ม เราเชื่อว่ามันมีความต้องการแบบนี้อยู่ในตลาด และคงไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆหรอกครับ

ขอบคุณทาง Nikon ที่ให้เรายืมเอากล้องมาเล่นครับ ขอบคุณการท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทยด้วยสำหรับการพาไปโลเคชั่นสวยๆไว้เก็บตัวอย่างภาพ แล้วก็ขอบคุณนางแบบทุกคนที่สละเวลามาถ่ายรูปเล่นกันนะ ทั้ง @bonusnps , @poonpun.k และ @pakvipa เลย

ใครที่สนใจ สามารถติดตามบทความอื่นๆได้ทาง medium.com/@torcnn นะ ย้อนอ่านอันเก่าๆอาจจะเจอเนื้อหาที่อยากรู้ จะกดฟอลไว้ก็ได้ครับเผื่อมีบทความใหม่ๆ หรือจะติดตามบนเพจ Chanon หรือจะทาง Twitter ก็ได้ มีอัปเดตเรื่อยๆ

ส่วนคำถามและข้อสงสัยต่างๆที่ถามกันเข้ามาทั้งทาง เพจ ทวิตเตอร์ ask.fm หรือทาง Direct Message ของอินสตาแกรม จะพยายามไล่ตอบนะครับ เยอะมากจีจี ขออภัย

ก่อนไป เรามีภาพจาก Nikon 1 J5 มาฝากให้ชมกัน

ไปละ บัย

เลนส์ 10–30mm f3.5–5.6
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 6.7–13mm f3.5–5,6
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 10–30mm f3.5–5.6
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 6.7–13mm f3.5–5,6
เลนส์ 6.7–13mm f3.5–5,6
เลนส์ 6.7–13mm f3.5–5,6
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8
เลนส์ 18.5mm f1.8

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn