Chasing Sheep: 02

Chawit Rochanakit
5 min readJul 24, 2015

Stories from the South Island of New Zealand
เรื่องเล่าจากเกาะใต้: ถาม ตอบ คำแนะนำที่อยากบอกก่อนออกเดินทาง

By: Chawit and Chawin Rochanakit

ทุกวันนี้มีผู้คนเยอะแยะที่แนะนำเรื่องการออกเดินทางว่าอย่าไปเตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาก ไปให้ถึงที่แล้วก็รอดูว่าบุญกรรมจะพาเราไปพบกับประสบการณ์อะไร

ผมเชื่อเรื่องนี้ครึ่งเดียวครับ คือถ้าเรามีเวลาออกเดินทางเป็นแรมเดือนแรมปี หรือมีเงิน มีเวลาให้ออกไปเที่ยวอีกทีเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ เราก็คงลองผิดลองถูกได้เยอะ ไม่จำเป็นต้องวางแผนอะไรให้วุ่นวาย แต่สำหรับการเดินทางไปนิวซีแลนด์เกาะใต้ที่ผ่านมา ผมเลือกหาข้อมูลตามสมควร กำหนดงบประมาณ วางแผนแบบกว้าง ๆ ไว้บ้าง ช่วยให้อุ่นใจเพราะรอบนี้เดินทางกันแค่สองคนพี่น้อง และเราอยากให้ทริปน่าประทับใจภายใต้เวลาและงบประมาณที่จำกัด

ใน Chasing sheep ตอนนี้ผมจะตอบคำถามเบื้องต้น
ทั้งที่ผมสงสัยก่อนไปเที่ยว

แล้วหาคำตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง รวมทั้งคำถามที่ได้รับจากใครหลายคนหลังกลับมาจากทริป เอาเป็นว่าจะเล่าเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ถ้าอยากได้ละเอียดกว่านี้ แต่ละคนคงต้องไปทำการบ้านเพิ่มเติมนิดหน่อยตามแต่ความสนใจครับ

ช่วงรวมคำถามจากทางบ้าน

พี่ควรไปเที่ยวช่วงไหนดีอะ — พี่ที่ทำงานท่านหนึ่ง

ตอนก่อนไป นี่คือคำถามที่คาใจผมแบบสุด ๆ แม้ปีนี้เหมือนจะมีช่วงเดียวที่ผมไปได้แบบปลอดกังวลคือช่วงสงกรานต์ แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าฉันไปแล้วจะเจออะไร พอค้นข้อมูลก็จะเจอว่า เมษายน ฤดูใบไม้ร่วงพอดี จะมีใบไม้เปลี่ยนสีและร่วงโรยสวยงามมาก คือโอเคอะ ไปฤดูใบไม้ร่วงกูคงจะเห็นดอกไม้ใบผลิชูช่อไสว
มั้งมึง สรุปว่าไม่ค่อยได้คำตอบเท่าไหร่ แต่วันนี้ผมจะรวบรวมให้ละเอียดขึ้นเพื่อการตัดสินใจของคุณ
ข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องรู้ก่อนคือฤดูในนิวซีแลนด์จะกลับช่วงเวลากับซีกโลกเหนือ เช่น ในขณะที่ซีกยุโรป อเมริกาเหนือกำลังมีหิมะช่วงคริสต์มาส ฝั่งนิวซีแลนด์ซึ่งอยู่ในซีกโลกใต้จะเป็นหน้าร้อน ทีนี้ลองดูข้อมูลในตารางข้างล่างประกอบว่าอยากดู อยากทำ อยากกินอะไร นับคะแนนแต่ละเดือนไว้ก็น่าจะได้เดือนที่เหมาะสำหรับการไปเที่ยวของคุณ
หมายเหตุ: D = December, J = January,…

นอกจากกิจกรรมที่กิน ดู ทำได้ต่างกันในแต่ละเดือนแล้ว แต่ละฤดูจะมีปัจจัยอื่น ที่น่าคำนึงถึงก่อนเลือกเดินทางดังนี้

หน้าร้อน โดยเฉพาะเดือนธันวาคม มกราคม ที่พักจะแน่นจนอาจต้องจองล่วงหน้าเพราะเป็นช่วงที่คนนิวซีแลนด์เองนิยมออกมาเที่ยวกัน ราคาที่พักส่วนใหญ่ปรับเป็นเรทไฮซีซั่นและอาจไม่ค่อยได้เห็นหิมะบนยอดเขาส่วนใหญ่ (ซึ่งผมไม่โอเคเท่าไหร่ วิวบางที่ผมว่ามันจะสวยก็ต่อเมื่อมีหิมะสักหน่อย) แต่จุดเด่นคืออากาศเอื้ออำนวยให้ทำกิจกรรมได้หลายอย่าง และช่วงกลางวันยาวนาน สามทุ่มพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ทำให้ได้ชั่วโมงเที่ยวแต่ละวันเพิ่มขึ้น

หน้าหนาว สวยไปอีกแบบเพราะหิมะกระจาย แต่ไม่ค่อยเห็นทุ่งหญ้าเขียว ๆ ข้อดีคือที่พักราคาถูก ไม่ค่อยวุ่นวาย แต่การขับรถเที่ยวต้องระวังพื้นถนนลื่น ลื่นเพราะหิมะยังไม่เท่าไหร่ ที่น่ากลัวกว่าคือน้ำค้างแข็งที่ฉาบบนถนนโดยเฉพาะตอนเช้า ๆ ที่แสงอาทิตย์ยังไม่ละลายฟิล์มน้ำแข็งบาง ๆ นั้น ถนนจะลื่นจนรถแหกโค้งมานักต่อนัก ก็อาจเป็นอันตรายได้หากไม่มีประสบการณ์ขับรถในเมืองหนาวมาก่อน และตามกฎหมายต้องมีโซ่พันล้อติดรถไว้เผื่อต้องใช้ขับฝ่าหิมะ ต้องฝึกใส่ด้วยครับ นอกจากนี้บางเมืองจะเงียบมาก ที่พัก ร้านอาหารบางทีก็ปิดไปเลยในช่วงฤดูหนาว ทำให้ไปเที่ยวไม่ได้ในทุกเมือง โดยเฉพาะทางตอนใต้ ๆ ของเกาะ

หน้าที่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ที่สุดคือพฤษภาคมกับกันยายน เป็นช่วงที่อากาศแปรปรวนได้มากที่สุดเนื่องจากกำลังเปลี่ยนฤดู ถ้าไปช่วงนี้ก็ต้องทำใจฝนตก หิมะตก อาจมีดินหรือหิมะถล่มทำให้การเดินทางขลุกขลักได้

Wanaka สวยที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง คหสต (Day 5)

ถ้าถามว่าช่วงใบไม้ร่วงที่ผมไปเป็นยังไง ผมว่าดีนะครับ อากาศมีตั้งแต่ 0–17 องศา แต่ส่วนใหญ่ใส่ลองจอห์น เสื้อ แล้วก็แจ็คเก็ตอีกตัวก็พอแล้ว ยังไม่หนาวขนาดที่ต้องมีผ้าปิดคอปิดหู ใบไม้สีสวย บางวันก็แดดจ้า บางทีพระอาทิตย์ก็หายไปสามวันติดกัน ฝนปรอย ๆ มีได้เรื่อย ๆ แต่ยังไปเที่ยวได้ทุกที่บนเกาะครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมว่าทุกฤดูมีเสน่ห์ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ไม่สู้ฤดูสะดวกแน่ ๆ ว่างตอนไหนก็ไปตอนนั้นเลยครับ

คือไปสั้นกว่านี้ได้มะ มึงไป 17 วัน กูไม่มีปัญญาลา — เพื่อนต่างที่ทำงาน

ได้ครับ ไม่ต้องถึง 17 วันก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอยากเห็นมากน้อยแค่ไหน อยากไปแบบรีบขับรถเช้ายันเย็น หรืออยากไปแบบเรื่อย ๆ สำหรับผม 17 วันถือว่ากำลังดีกับการไป 3 ใน 4 ของเกาะ (ผมยังไปไม่รอบเกาะเลยครับ ถ้าอยากไปรอบเกาะใต้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 วัน) ตามจริงแล้วเกาะมันไม่ได้ใหญ่มากมาย แต่ถนนมันไม่ได้ตัดผ่านทุกพื้นที่ บางครั้งต้องขับอ้อมยืดยาว

อย่ารีบ เชื่อสิ — Cadrona Valley Road from Wanaka to Queenstown (Day 6)

ส่วนตัวผมไม่อยากให้บีบเวลาขับรถมากไป เพราะแต่ละวันจะเหนื่อยและไม่มีโอกาสทอดอารมณ์ชื่นชมแต่ละเมืองหรือสถานที่แต่ละแห่ง เอาเป็นว่าอย่าง
น้อยขอสัก 7 วันก็ได้ แต่จะต้องเลือกเส้นทางแค่ 1 รอบเล็กในเกาะ ซึ่งถ้าเป็นแบบ 7 วัน จะลอกเมืองสุดฮิตตามที่ทัวร์ชอบพาไปก็ไม่เสียหายนะครับ แต่อยากบอกว่าสิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในทริปนี้ แทบไม่ได้เกิดขึ้นในเมืองยอดฮิตเลย เรื่องทางเลือกเส้นทางโปรแกรมอื่น ๆ เอาไว้คุยกันอีกทีในครั้งต่อ ๆ ไปครับ

“หมดไปกี่บาทอะ” — แทบทุกคนตั้งแต่ญาติยันเพื่อนที่ทำงาน รวมถึงแม่ตอนถามงบประมาณการ

ผมสรุปว่าการไปเที่ยวนิวซีแลนด์มันไม่ได้แพงมาก แต่ไม่เรียกว่าราคาถูกแน่ ๆ พูดง่าย ๆ คือจะไปแบบไม่เหนียมมากก็ได้ หรือถ้าอยากไปจริง ๆ แต่งบจำกัดก็หาทางประหยัดได้ แต่ถ้าอยากมีประสบการณ์ที่ดีแบบไม่อดอยากปากแห้ง อยากทำอะไรก็ได้ทำก็รับรองว่าต้องเสียงเงินไม่น้อย จากประสบการณ์ส่วนตัวตอนทำประมาณการค่าใช้จ่าย ผมแบ่งค่าใช้จ่ายหลัก ๆ เป็น 6 ส่วน คือ
(1) ค่าตั๋วเครื่องบินและวีซ่า (2) ค่ารถเช่าและค่าน้ำมัน (3) ค่าที่พัก
(4) ค่าอาหารการกิน (5) ค่ากิจกรรมเวลาท่องเที่ยว (6) เงินติดกระเป๋าเล็กน้อย ซึ่งค่าชอปปิ้งเราไม่เน้น ก็จะรวมในส่วนที่ 6 ด้วย

ผมประมาณไว้แม่นทีเดียว กลับมาดูยอดรายจ่ายอีกทีจะแบ่งสัดส่วนต่อคนได้แบบด้านล่างนี้

ค่าตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้แพงมาก และเกาะใต้แทบจะผูกขาดโดย Emirates ราคาประมาณ 30,000 ปลาย ๆ เป็นค่าใช้จ่ายส่วนที่ใหญ่ที่สุด แต่หากนับเฉพาะช่วงที่เที่ยวอยู่ ค่าเล่นกิจกรรมหรือทัวร์จะเป็นสัดส่วนอันดับหนึ่ง

ถ้าต้องวางแผนแบบละเอียด (จริง ๆ ผมก็ทำแบบนี้ เพราะต้องการคุมงบไม่ให้บานปลาย) อันนี้เป็นไอเดียคร่าว ๆ ว่าอะไรราคาเท่าไหร่บ้าง

1 เหรียญนิวซีแลนด์ = 25 บาทโดยประมาณ

ถ้าข้างบนนั้นดูวุ่นวายไป อยากได้เลขกลม ๆ ผมคิดว่าเลขที่ Lonely Planet ให้เอาไว้ในหนังสือก็ใช้ได้ ถ้าหากตัดค่าตั๋วเครื่องบินและวีซ่าออกไปแล้ว งบวันละประมาณวันละ NZD 180 ต่อคน จะเพียงพอสำหรับการขับรถเที่ยวเอง นอนใน Hostel ห้องเตียงคู่ กินอาหารส่วนใหญ่ตามร้านง่าย ๆ และกินร้านดี ๆ
ที่เสิร์ฟเป็นสามคอร์ส (starter, main, dessert, เบียร์/ไวน์แก้วนึง) สักสองสามครั้งต่อสัปดาห์ และได้เล่นกิจกรรมหลัก ๆ เช่น บันจี้จั๊มพ์ skydive ล่องเรือดูปลาวาฬ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปบนธารน้ำแข็ง ประมาณ 2 อย่างจากตัวเลือกนี้ ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่พวกเราทำกัน

แต่ถ้าอยากนอนที่พักที่ดีขึ้น เช่นนอน Motel ในทุก ๆ คืน ให้บวกงบนี้ไปอีกประมาณ 35% หรือถ้าจะกัดฟันประหยัดสุดด้วยการนอนใน Hostel แบบห้องรวมทุกคืน ทำอาหารกินเองทุกมื้อ และทำกิจกรรมราคาแพงสักอย่างเดียว ให้หักลบไปได้ประมาณ 20% ครับ

ถ้าคิดคร่าว ๆ ที่สุดสำหรับทริป 17 วันนี้ ผมหมดไปประมาณคนละแสนนึง อาจจะดูเยอะ แต่อยากให้ลองเทียบกับทัวร์ที่ขายทั่วไป ซึ่งไปประมาณ 6–7 วัน นั่งรถแทบทั้งวันและครอบคลุมแค่ไม่กี่เมืองในราคาแสนกว่าบาท มองอย่างนี้แล้วแม้กระเป๋าตังค์ผมจะฉีกอยู่แต่ก็รู้สึกคุ้มสุด ๆ แล้วครับ

คำแนะนำ 7 ข้อจากพวกเรา

1. นำสิ่งของเหล่านี้ไปด้วย ชีวิตจะดี

(1) แว่นกันแดด นอกจากจะเป็น prop ถ่ายรูปแล้วมันยังจำเป็นเวลาขับรถ

(2) หมวกและครีมกันแดด ที่นั่นอากาศเย็นก็จริง แต่นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่รับรังสียูวีมากที่สุดในโลกนะครับ ถ้าไปช่วงที่แดดจ้า ๆ กลับมามีหน้าดำชัวร์

(3) เพลง เอาไว้ฟังแก้ง่วงในรถ อย่าลืมเช็คกับบริษัทรถเช่าว่าวิทยุมีเครื่องเล่น CD มั้ย มีช่อง aux ให้เสียบสายต่อ iPod มั้ย ถ้าเป็นรถเช่าแบบถูกมาก ๆ อาจได้มาแต่วิทยุ FM ครับ

ที่มาของภาพ http://www.fam-oud.nl/~plugsocket/NZ/NZ_10A_socket.jpg

(4) หัวแปลงปลั๊ก เพราะปลั๊กนิวซีแลนด์หน้าตาประหลาดตามภาพ เอาปลั๊กพ่วงไปด้วยก็สะดวกดีเวลาจะชาร์จอุปกรณ์หลาย ๆ อย่าง

(5) อาหารแห้ง ถ้าวางแผนจะทำอาหารเองอย่างจริงจังแล้วก็เอาไปให้ครบเลยครับ ที่นั่นแพง น้ำตาล เกลือ น้ำมัน ซีอิ๊ว โจ๊ก เครื่องปรุงรสสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถ้าหีบห่อแน่นหนามีตรายี่ห้อก็อาจได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าประเทศ แต่ย้ำว่าต้อง Declare ที่ด่านศุลกากรเข้าเมือง ถ้าไม่แจ้งจะโดนปรับแรงครับ

(6) แผนที่ในเมืองและทางไปที่พักสำหรับวันแรก (ซึ่งถ้าไปเกาะใต้ก็คงเป็นเมือง Christchurch) มีไว้อุ่นใจ ไม่ต้องรีบร้อนในวันที่ทุกอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง

(7) เสื้อกันหนาว เลือกแบบที่กันฝนได้นะครับ เพราะเอะอะฝนก็ตกลงมาได้ทุกเมื่อ และเราคงไม่อยากกลัวฝนจนไม่ออกไปไหนเลย ถ้าไม่อยากดูเหมือนกลุ่มทัวร์จีน แนะนำให้ใส่สีเรียบ ๆ แบบสีดำ กรมท่า น้ำเงิน หรือถ้าจะเลือกสีสดก็เลือกแบบมีสไตล์หน่อย เช่น เหลือง แล้วจัดรองเท้า กระเป๋าให้มันดูเข้าชุดกัน ส่วนใหญ่กลุ่มทัวร์เอเชียมักจะใส่สีสดมาก ๆ เช่น ชมพู บานเย็น ความเห็นส่วนตัวผมว่ามันแรงตัดกับธรรมชาติรอบบริเวณไปนิดนึง สุดท้ายอันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมแล้วกัน

(8) รองเท้าที่ใส่สบาย อันนี้สำคัญจริง ๆ เลือกที่พื้นหนา ๆ และกันน้ำได้บ้างจะดีมาก โดยเฉพาะหากจะไป hiking ไม่ว่าจะเส้นทางสั้นหรือยาวยิ่งจำเป็น ถ้ารองเท้าที่ใส่ไม่กระชับ พื้นบางไป เดินบนหินบนกรวดนาน ๆ ก็ปวดเท้าได้ ก่อนไปผมลงทุนซื้อ Boots ยี่ห้อ Palladium ไปคู่หนึ่ง นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

(9) กล้อง GoPro หรือกล้องวิบากยี่ห้ออื่น ๆ บังเอิญผมไม่มีเลยต้องเสียดายบางจังหวะที่ถ่ายรูปขณะทำอะไรโลดโผนเบา ๆ กลับมาไม่ได้ ถ้ามีก็เอาไปเถอะครับ ต่อให้ไม่ได้เล่นโลดโผน แค่เอาไปติดหน้ารถถ่ายถนนบางช่วงที่ขับผ่านไปก็รับรองความสวยเด็ด

สังเกตว่าใน List ไม่มี GPS ส่วนตัวผมคิดว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่เพราะมันขับง่ายมาก ไม่ซับซ้อน อาศัยแผนที่กระดาษแจกฟรีแต่ละเมืองก็พอแล้วครับ แต่ถ้ามีไว้ก็ย่อมสะดวกกว่า จะพกติดไปด้วยก็ได้ครับ

บางทีอากาศก็ขมุกขมัวทั้งวัน ขอให้คิดบวกว่ามันสวยตามแบบของมัน — Cadrona Valley (Day 4)

2. อากาศที่นี่เปลี่ยนแปลงบ่อย

เดือนที่โอกาสฝนตกน้อยที่สุดคือช่วงกุมภา มีนา (แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ตกเลย) ถ้าเดือนอื่นนอกเหนือจากนั้นก็ทำใจได้เลยว่าต้องเจอฝนบ้างอย่างน้อย 1 ใน 3 ของทริป (ผมประมาณเอง) ฝนมีสิทธิ์ตกปรอย ๆ จนหนักถึงขั้นทำกิจกรรมบางอย่างไม่ได้ หรือตกจนมองทางไม่เห็นทั้งที่ Highway ที่กำลังขับผ่านนั้นเป็นเส้นทางที่สวยที่สุด ไปเที่ยวที่นี่จะได้ฝึกทำใจรับกับความผิดหวังเป็นผลพลอยได้ อย่าไปคาดหวังมากมายจะเที่ยวไม่สนุกเสียเปล่า

3. พูดถึงเรื่องงบอีกที กับวิธีประหยัด

ก่อนจะไปผมเข้าใจมาตลอดว่าการทำอาหารกินเองคือหนทางสู่ความประหยัด แต่ไปถึงแล้วพบว่ามันไม่จริงเสียทีเดียว คือถ้าไปสัก 4–5 คน ทำอาหารทีนึงได้เยอะ ๆ ก็อาจจะคุ้มเพราะได้ Economies of scale แต่หากไปกันแค่สองคน ถ้าต้องลงทุนซื้อน้ำมัน ซอส เครื่องปรุงตามที่อยากกินผมว่าจนถึงวันสุดท้ายก็ยังกินแทบไม่หมด แพงอีกต่างหาก สุดท้ายผมเลยกินข้างนอกซะเป็นส่วนใหญ่

วิธีอื่น ๆ ในการประหยัดงบคือ เลือกเล่นแค่กิจกรรมที่อยากทำจริง ๆ ตัดใจบ้าง
ใช้อินเทอร์เน็ตเท่าที่จำเป็น โดยมากตามแมคโดนัลด์ เบอร์เกอร์คิงจะมี Free WiFi และลองหาคูปองตามโบรชัวร์ เว็บดีลต่าง ๆ บางทีการจองกิจกรรมผ่านพวก Hostel เช่นตอนเล่นเรือเจ๊ทที่ Queenstown จองผ่าน Hostel ที่เป็นนายหน้าก็จะได้คูปองรับรูปถ่ายฟรี หรือมีส่วนลดนิดหน่อยครับ

4. เลือกที่พักให้เป็นสีสันของการเดินทาง

เรื่องที่พัก ถ้าเลือกหลากหลายแบบจะได้เฉลี่ยทั้งงบประมาณ และประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไปด้วย 17 คืนนี้ผมลองมาหมดเลย ทั้ง Hostel แบบห้องส่วนตัว, Hostel ห้อง Dorm (แบบมี 6 เตียง), Motel, Bed and Breakfast และที่พักจาก Airbnb ส่วนตัวประทับใจ B&B และ Airbnb มาก ๆ เจ้าของเป็นกันเองและให้คำแนะนำที่หาเองจากหนังสือไม่ได้เยอะแยะ กลับมาทุกวันนี้ยังคุยกันกับ
เจ้าบ้านอยู่เลยครับ

5. ไม่ต้องวางแผนเป๊ะมากก็ได้

ถามว่าก่อนไปต้องวางแผนเป๊ะขนาดไหนกัน ต้องจองที่พักมั้ย ผมเคยเห็นแผนเที่ยวของคนใน Pantip ทำละเอียดระดับชั่วโมง นาที ตรงนี้แวะถ่ายรูปอันนั้น อ่าน ๆ ไปคือนึกว่าพี่แข่ง Rally ส่วนตัวผมว่ามันไม่เป็นธรรมชาติ ก็เลยวางแผนแค่คร่าว ๆ แค่ให้ระยะทางขับรถไม่เกินประมาณ 300 กิโลเมตรต่อวัน และจองโรงแรมเป็นบางคืนเฉพาะที่ที่อยากนอนเป็นพิเศษเพราะกลัวไปถึงแล้วเต็ม ในบางเมืองที่กำลังฮิต ๆ เช่น Wanaka หรือบางที่ที่มีที่พักแห่งเดียวอย่าง Milford Sound ขอแนะนำให้จองไว้ก่อนครับ จากที่ได้คุยกับเจ้าของที่พัก เขาบอกว่าหลัง ๆ มานี้นักท่องเที่ยวเยอะขึ้น จะเดินห้าว Walk-in บางทีจะไม่ได้ห้องพักเอาแม้จะไม่ใช่ช่วง High season อย่าลืมศึกษารายละเอียดของที่พักแต่ละแห่งว่าต้องบอกยกเลิกอย่างไรหากเปลี่ยนแผนนะครับ (โดยมากจะต้องโทรแจ้งก่อนประมาณ 1–2 วัน)

6. ที่นี่ขับรถเที่ยวง่ายมาก แล้วคุณจะรัก

ถ้ามาเช่ารถยนต์ขับไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่สากล ใบขับขี่แบบแข็งที่มีชื่อเราเป็นภาษาอังกฤษนี่แหละใช้ได้เลยครับ บริษัทรถเช่าจะมีสองพวกใหญ่ ๆ พวกหนึ่งคือบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ตระกูล Avis, Hertz, Budget เป็นต้น พวกนี้จะแพงหน่อยและมีรถรุ่นใหม่ ๆ กว่า นักท่องเที่ยวกระเป๋าเบาแบบเราเลยเลือกใช้บริการกลุ่มที่เป็นบริษัท Local แต่ก็บริการดีไม่มีที่ติ ถูกกว่าอีกต่างหาก แค่รถอาจจะไม่ได้ใหม่เอี่ยมกิ๊ก ลอง Google บริษัทเหล่านี้ดูแล้วเลือกได้ตามอัธยาศัย: Jucy, Omega Car Rental, Ace Rental Cars และ Apex Car Rental 

รถเราเช่ามาราคาไม่แพง — State Highway 73 (Day 2)

ทักษะการขับรถแทบจะไม่ใช่ปัญหาเลยครับ เราต้องคุ้นเคยแน่ ๆ เพราะขับชิดซ้ายพวงมาลัยอยู่ทางขวาเหมือนบ้านเรา แต่ต้องระวังเรื่องความเร็วให้ดีเพราะมีตำรวจซุ่มอยู่ บน Highway ห้ามขับเกิน 100 km/h เมื่อเข้าเมืองต้องลดความเร็ว ให้สังเกตป้าย
นอกจากนั้นเมื่อเห็นป้าย Give way ต้องเป็นฝั่งรอจนแน่ใจว่าไม่มีรถแล้วจึงไปได้ ป้าย Stop ต้องหยุดรถจนนิ่งสนิทก่อนไปต่อ และที่นี่วงเวียนเยอะ ต้องฝึกมารยาทการขับรถในวงเวียนให้ชิน คือรถในวงเวียนไปก่อนเสมอครับ

ในช่วงทางที่ชัน ๆ ถ้ามีประสบการณ์หน่อยก็ดี ถนนบางช่วงถ้าขับไม่เก่งก็อันตรายได้บ้าง แต่หลัก ๆ คือต้องฝึกจังหวะการแตะเบรกเวลาลงเนินยาว ๆ
บางคนทำไม่เป็น เลี้ยงเบรกจนเบรกไหม้เพราะทางลงเนินมันยาวมาก ๆ อย่าลืมใช้เกียร์ต่ำเวลาขึ้นหรือลงเนิน หรือถนนลื่นครับ

7. ทางเลือกอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การขับรถเอง

ทางเลือกอื่น ๆ ก็มีกลุ่มรถที่นอนได้ในตัว ไม่ว่าจะเป็นรถบ้าน Campervan ที่นอนได้มากถึง 4 คน พอค่ำ ๆ ก็ไปเช่าพื้นที่ Campsite จอด บางที่ก็จอดฟรี ข้อดีคือค่ำไหนก็นอนนั่น (แต่จอดสุ่มสี่สุ่มห้าในจุดที่ห้ามตั้งแคมป์ไม่ได้นะครับ โดนปรับ) แถมมีครัวทำอะไรอุ่น ๆ กินได้ตลอด และไม่ต้องแบกของเข้าออกที่พักทุกวัน ข้อเสียก็มีอยู่บ้าง คืออาจขับยากในถนนบางช่วงที่ชัน ๆ และเวลา
เข้าเมืองรถก็มีขนาดเทอะทะ
ถ้ารถบ้านใหญ่ไป ลองไซส์รถตู้มั้ยครับ เหมือนรถตู้ปกติแต่ข้างหลังทำเป็นที่นอน อันนี้ผมคิดเองว่าบรรยากาศเหมาะสำหรับคู่รักฮันนีมูนมาก เจอวิวงาม ๆ พระอาทิตย์กำลังตกก็จอดรถแล้วปีนไปนอนกกกันได้ทันที
แต่ถ้าจะไม่ขับรถเองเลย รถบัสก็พอมีทางเลือกนะครับ แต่ข้อเสียคือความยืดหยุ่นน้อย อยากจอดถ่ายรูปก็ทำไม่ได้ตามใจ รอบเวลารถมีค่อนข้างจำกัด ในบางเมืองอาจมีแค่รอบเดียวต่อวัน และบางพื้นที่รถบัสก็ไปไม่ถึง สรุปแล้วผมคิดว่าขับรถเที่ยวเองนี่แหละมันที่สุดแล้ว วิธีอื่น ๆ ที่พูดมานี้ผมไม่สันทัดกรณีเลย ลองค้นข้อมูลกันเพิ่มเติมนะครับถ้าสนใจ

ผมจะ Spoil แค่นี้แหละ ที่เหลือรอให้คุณไปเจอกันเองดีกว่าเพื่อความเร้าใจ

9 แหล่งข้อมูลที่แนะนำ

แหล่งที่ผมคิดว่ามีประโยชน์กับตอนวางแผนเที่ยวค่อนข้างมาก มีดังนี้ครับ

(1) Tripadvisor ของ South Island, New Zealand: http://www.tripadvisor.com/Tourism-g255116-South_Island-Vacations.html

ในนี้จะมีทั้งรวมฮิตที่เที่ยวที่กิน รีวิว และ Forum ถามตอบแบบพันทิป ข้อดีคือมีที่เที่ยวแบบที่มักจะไม่ค่อยเห็นในเว็บ Pantip ที่เที่ยวหลายที่ตอนแรกผมก็มองข้ามเพราะ Lonely Planet ก็ไม่ได้เน้นมากนัก มาตัดสินใจว่าจะไปจาก Tripadvisor นี่แหละ พลาดไปคงเสียดายมาก

(2) Pantip ห้อง Blueplanet ไป Search รีวิวเก่า ๆ ได้ตามสะดวกเลย ข้อดีคือมีความละเอียดสูงและสไตล์เที่ยวน่าจะถูกจริตคนไทยด้วยกัน แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าอ่านแล้วบางครั้งเหมือนถูกสปอยล์ ยังไม่ทันไปก็เกิดนิมิตหมดแล้ว

(3) Website ของการท่องเที่ยวนิวซีแลนด์
http://www.newzealand.com/
เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก มีข้อมูลทุกอย่าง ย้ำว่าทุกอย่างที่คุณจะอยากรู้ ตั้งแต่การขอวีซ่าจนถึงที่กิน ที่เที่ยว กฎระเบียบที่จำเป็น มีตัวอย่างแผนเที่ยวสำหรับระยะเวลาสั้นยาว มีรูปตัวอย่าง เหมาะจะใช้เป็นไอเดียคร่าว ๆ เวลาวางแผนว่าอยากไปตรงไหนบ้าง

(4) Blog ของนักเดินทางหลาย ๆ คนที่เขียนเกี่ยวกับ New Zealand อันที่ผมคิดว่าเนื้อหาดีมีรายละเอียดคือ
ของ Nomadic Matt
http://www.nomadicmatt.com/travel-guides/new-zealand-travel-tips/
ของ Amanda
http://www.dangerous-business.com/destinations/new-zealand/

Blog พวกนั้นยังมีเนื้อหาดี ๆ เรื่องเตรียมตัวเที่ยวที่ไม่เกี่ยวกับนิวซีแลนด์อีกเยอะแยะเลยด้วย ส่วนอันนี้ต่อไปนี้เรียกว่างานแน่น ข้อมูลครบมาก
http://www.newzealandtravelinsider.com/

(5) เว็บดีล คล้าย ๆ Ensogo นั่นแหละ ช่วยให้ประหยัดค่ากินค่าเที่ยว ค่าที่พักได้บ้าง แต่ข้อเสียคือมัน Fix วัน ลองดูตามนี้ครับ
http://www.bookme.co.nz/ และ
http://www.aatravel.co.nz/travel-deals-packages/

(6) กระทู้พันทิปที่มีข้อมูลดี ๆ สำหรับคนที่สนใจเช่ารถบ้าน http://pantip.com/topic/30400511
และสำหรับการเที่ยวด้วยรถบัส
http://pantip.com/topic/13079970

(7) เว็บแผนที่และคำนวณระยะทาง เอาไว้วางแผนว่าแต่ละวันจะต้องขับรถไกลแค่ไหน และใช้ประมาณค่าน้ำมันได้ครับ แค่ต้องรู้ว่ารถที่เช่าใช้น้ำมันอะไร อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเท่าไหร่
http://maps.aa.co.nz/
หลักการเหมือน Google Map แต่เขาว่ากันว่าอันนี้แม่นกว่าในด้านการประมาณระยะเวลาขับรถจริง

(8) พยากรณ์อากาศ อันนี้สำคัญสำหรับช่างภาพที่อยากรู้แน่ ๆ ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นจะตกตอนไหน หรือแหล่งท่องเที่ยวริมทะเลบางแห่งที่เปิดตามน้ำขึ้นน้ำลง ลองดูที่นี่ได้
http://metservice.com/national/home

(9) ที่พักแบบ Hostel จะมี 2 เครือหลัก ๆ คือ
YHA https://www.yha.co.nz/ และ
BBH https://www.bbh.co.nz/
แต่ละเครือก็สมัครบัตรสมาชิกได้เพื่อรับส่วนลดทั้งค่าที่พัก และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน ดังนั้นถ้าวางแผนว่าจะนอนเครือเดียวกันหลาย ๆ คืน หลาย ๆ เมืองก็คุ้มดี ส่วนที่พักอื่น ๆ เริ่มดูจาก Tripadvisor แต่ละเมืองก็สะดวกดีนะครับ มีให้เลือกเยอะและได้อ่านรีวิวไปในเวลาเดียวกัน

ยืดยาวมาก นี่นึกว่าทำ Thesis อยู่ ตอนนี้บอกทุกอย่างที่คิดว่าต้องรู้ไปหมดแล้ว
ตอนหน้ามาเกาะขอบล้อไปเที่ยวกันซักทีนะครับ.

--

--

Chawit Rochanakit

Chawit is trying hard to get an 'A' for the course 'How to live happily'...