รีวิว Olympus PEN Lite E-PL7
“กล้องMirrorlessเซลฟี่ที่จอพลิกลงไปข้างล่าง”
สวัสดี! เรา @torcnn
บอกก่อนว่ากล้อง Olympus PEN Lite E-PL7 เนี่ยเป็นกล้องที่ออกมาสักพักใหญ่ๆแล้ว ตั้งแต่ปลายปี 2014 โน่น แต่ก็ยังมีน้องๆรีเควสกันมาไม่ขาดสายว่าหนูจะเอารีวิวรุ่นนี้ๆๆๆ โอเคข่าาาาา เดี๋ยวพี่รีวิวให้ข่าาาาา
PEN คืออะไร
ชื่อ PEN เนี่ยเป็นชื่อของซีรีส์กล้องที่มีมาตั้งแต่สมัยกล้องฟิล์ม คือนานมากสมัยคุณพ่อคุณแม่หลายๆคนยังไม่เกิด ลักษณะของตัวกล้อง PEN จะออกแนวแบนๆ เน้นการพกพา (โอลิมปัสเค้าจะสื่อว่าพกง่ายเหมือนปากกา) ดีไซน์จะไม่มีกระโหลกอยู่ข้างบนเหมือนกล้องตระกูล O-MD การตั้งชื่อของกล้อง PEN สมัยดิจิตัล จะตามด้วย E-PL+ตัวเลข ซึ่งยิ่งรุ่นใหม่ออกมา ตัวเลขก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ
เข้าเรื่องนะครับ
Sensor
เซนเซอร์ของ E-PL7 เป็นเซนเซอร์ชนิด CMOS ขนาด Micro Four Thirds คือจับเลนส์อะไรมาใส่ให้คูณด้วย2ถึงจะได้ระยะเทียบเท่าฟูลเฟรมอะ (สมมติเราติดเลนส์ 14–42mm กับกล้องตัวนี้ ก็จะได้ระยะเทียบเท่า 28–84mm) มีความละเอียดอยู่ที่16ล้านพิกเซล เหลือเฟือกับการใช้งานทั่วๆไป แต่เซนเซอร์ไซส์นี้ไม่เหมาะกับมนุษย์ที่บ้าการเบลอหลังนะครับ มันทำได้ แต่ยังไม่สู้เรื่องนี้หากจะไปเทียบกับเซนเซอร์ขนาดอื่นๆในตลาด ไฟล์ภาพจะด้อยกว่าพวก APS-C นิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนะ
Shutter Speed
เร็วสุด 1/4000 ช้าสุด 60 วินาที ถือว่าเหลือเฟือมากๆ และมีโหมด Bulb ให้ถ่ายพลุถ่ายดาวได้สนุกๆ
ISO
สามารถปรับได้ที่ 200–25,600 ที่ISOสูงๆดีเทลหายพอสมควร แต่กับการใช้งานทั่วๆไปก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจนักครับ อีกอย่างคือตัวนี้มีกันสั่น ทำให้ไม่ต้องทนกับISOสูงๆนักหรอก
ครอปมาให้ดูพอเป็นพิธีครับ อย่าไปซีเรียสกับมันมาก
กันสั่น
ใครที่ไม่เคยเล่นกล้องเลยแล้วมาอ่านตรงนี้อาจจะงง เอาเป็นว่า ปกติการถ่ายรูปด้วยความเร็วชัตเตอร์ช้ามากๆบนกล้องทั่วๆไป จะทำให้ภาพสั่นไหวได้และเบลอได้ แต่ Olympus EPL7 เค้ามีสิ่งที่เรียกว่ากันสั่นมาช่วยไม่ให้ภาพเบลอ
โอลิมปัสเค้าเด่นจริงๆนะเรื่องกันสั่น EPL7ตัวนี้มีกันสั่น3แกนมาให้ ถึงจะไม่ได้มา5แกนเหมือนบางรุ่น แต่3แกนก็ถือว่าเหลือเฟือ ช่วยในการถ่ายที่แสงน้อยได้ดี
รูปนี้เราใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/3 วินาที กลั้นหายใจสุดชีวิตแล้วถ่าย เออ ได้ภาพอยู่เหมือนกันนะ กันสั่นดีจริง ยอมใจ ถ้าเป็นกล้องตัวอื่นนี่เบลอแหลกไปแล้ว
สรุปว่ากันสั่นหรู ใช้งานได้ดีจริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความนิ่งของคนถ่ายด้วยส่วนนึง บอกไว้เลยว่าไม่ใช่กล้อง mirrorless เซลฟี่ทุกตัวจะมีกันสั่นนะจ๊ะ
โฟกัส
จุดโฟกัส 81 จุด แบบจับคอนทราสต์ เท่าที่ใช้งาน ตัวนี้โฟกัสได้รวดเร็ว ตอนเอากล้องตัวนี้มาเล่น เราไม่หงุดหงิดกับการโฟกัสเลย คว้ากล้องนี้ไปถ่ายสตรีทได้สบายๆ ไปเที่ยวเล่นถ่ายบ้าถ่ายบอนี่ได้ภาพแน่นอน ถ้าเอาเรื่องโฟกัสของ E-PL7 ไปเทียบกับกล้องmirrorlessเซลฟี่ทั่วไปในตลาด เจ้าหมอนี่เร็วเป็นอันดับต้นๆเลย เราสามารถเปิด Focus Peaking ได้ด้วย เพื่อความรวดเร็วในการโฟกัสหากเราใช้เลนส์ประเภทมือหมุน
หน้าจอ
ความพิเศษของหน้าจอกล้องโอลิมปัส E-PL7 คือมันพลิกเซลฟี่ลงมาข้างล่างแทนที่จะอยู่ข้างบนเหมือนชาวบ้านเขา ซึ่งประโยชน์จากความต่างนี้น่ะเหรอ? ไม่มีอะ 5555 แต่ความดีงามนอกเหนือจากการเซลฟี่จอล่างคือจอมันสามารถพลิกได้หลายองศามาก เป็นประโยชน์กับการถ่ายในสถานการณ์ต่างๆ เช่นเวลาที่เราต้องถ่ายอะไรที่อยู่ติดพื้น หรือเวลาที่เราต้องชูกล้องขึ้นไปถ่ายสูงๆ (เช่นการถ่ายโอปป้า เป็นต้น)
หน้าจอความละเอียด 1.04 ล้านจุด ทัชสกรีนได้ ชอบกล้องโอลิมปัสตรงนี้แหละ ขยันทำจอทัชสกรีนออกมา ตอบสนองเร็วใช้ได้ ใช้งานง่าย เลื่อนดูรูปก็ได้ แตะจอเลือกจุดโฟกัสก็ได้ แตะจอให้ชัตเตอร์ทำงานก็ได้ เลิฟนะ
เซลฟี่
สีภาพเซลฟี่ของ EPL7 คือจะเป็นโทนเหมือนจริง ส้มๆเหลืองๆ ปรุงแต่งน้อย
ถ้าใช้โหมด SCN e-portrait ก็จะมีความเนียนฟริ้งขึ้นมานิดนึง
ปุ่มควบคุม
มีปุ่มไม่เยอะเท่าไหร่ ด้านบนมี Dial เปลี่ยนโหมดไปมา ปุ่มชัตเตอร์ถูกหุ้มรอบๆด้วยปุ่มหมุนปรับค่าความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสง ปุ่มเปิดปิดอยู่ด้านขวา เป็นแบบกด มีไฟวิ้งๆสีฟ้าเวลาเปิด ให้ฟีลลิ่งที่ทันสมัยดี
ส่วนด้านหลังก็ง่ายๆ มีปุ่มวีดีโอ ปุ่มกดขึ้นลงซ้ายขวา ปุ่มดูรูป ปุ่มลบรูป ส่วนใหญ่ภาพบนปุ่มมันก็บอกว่าปุ่มไหนมีไว้ทำอะไร มือใหม่ใช้แป๊บเดียวเดี๋ยวก็เป็น
แฟลช
เจ้าโอลิมปัส E-PL7 นี่ไม่มีแฟลชในตัวกล้องนะ แต่เวลาเราซื้อเค้าจะแถมแฟลชแยกหน้าตาน่ารักนี่มาให้ ชื่อของแฟลชตัวนี้คือ FL-LM1
ซึ่งพอติดแล้วก็จะออกมาหน้าตาแบบนี้
ส่วนตัวรู้สึกหงุดหงิดนะถ้าจะต้องพกแฟลชแบบนี้ไปด้วย คือมันไม่ได้ใหญ่ ไม่ได้หนักแต่เข้าใจฟีลปะ มันมาแยกกันอะ ใครบนโลกจะไปอยากพกอะไรให้มันมากสิ่ง บัย
การถ่ายภาพต่อเนื่อง
ถ่ายได้เร็วสูงสุด 8 ภาพต่อวินาที แต่ต้องปิดกันสั่นก่อนนะถึงจะรัวได้ขนาดนี้ ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆในตลาด
วีดีโอ
Full HD 1920x1080 ที่ 30p ยังไม่ได้โดดเด่นมากนักครับ แต่ก็ไม่ได้แย่
ลูกเล่นต่างๆ
ไอ้ตรงวงแหวนเปลี่ยนโหมด มันจะมีโหมด SCN ซึ่งมันจะเซ็ตค่าต่างๆให้ตรงกับสิ่งที่เราจะถ่ายไว้ให้ พอจะถ่ายเราก็แค่เลือกScene ไม่ต้องปรับอะไรมาก ง่ายดี แล้วคือมีให้เลือกหลายแบบมาก 25แบบแน่ะ โหมดถ่ายแสงเทียนยังมี ขุ่นพระ
นอกจากโหมด SCN ยังมีโหมด ART ที่จะเน้นเปลี่ยนแปลงสีสันของภาพ มี15แบบให้ลองเล่น โหมดดูดสีที่มนุษย์เราฮิตๆกันสมัยก่อนก็ยัดมาให้
กว่าจะเล่นกันครบทุกฟังก์ชั่นกล้องคงพังซะก่อนอะ เยอะมากกกกกกกกกก
Wifi
สามารถส่งภาพเข้ามือถือได้ และใช้เป็นมือถือเป็นรีโมตชัตเตอร์ได้ด้วย
แบตเตอรี่
ชาร์จที ยิงได้ประมาณ 350 ภาพ ถือว่ากลางๆ ตัวกล้องจะช่วยเราเซฟแบตด้วยการเข้าโหมดSleepให้ถ้าหากเราไม่ใช้กล้องในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
บอดี้
ส่วนตัวรู้สึกว่าหน้าตาน่ารักงุ้งงิ้งดี เหมาะกับคุณผู้หญิง แต่สีนี้สำหรับผู้ชายอาจจะไม่ชอบ เพราะมันดูมีความพลาสติกนิดนึง ยังไงก็ตามมันมีบอดี้สีดำ-เงินที่ดูแข็งแรงบึกบึนขึ้นมาหน่อย
ขนาด 114.9 mm x 67 mm x 38.4 mm น้ำหนักอยู่ที่ 357 กรัม (น้ำหนักรวมแบตกับการ์ดแล้ว) การจับถือมีgripเล็กๆยื่นออกมา เหมาะกับคนมือเล็กๆ เพราะgripมันยื่นออกมาไม่เยอะ
เลนส์คิต
เลนส์คิตที่ติดมากับกล้อง Olympus E-PL7 เป็นเลนส์ 14–42mm f3.5–5.6 เป็นแบบไฟฟ้า แต่ต้องใช้มือหมุนซูมเอา ยืดหดได้ ขนาดเลยไม่เทอะทะ หากคูณ2ตามคุณสมบัติเซนเซอร์ก็จะได้ระยะเทียบเท่า 28–84mm ซึ่งถ้าไปเทียบกับเลนส์คิตของ Fuji X-A2 และ Sony A5100 ตัวนี้จะเก็บภาพได้ที่ระยะไกลกว่า แต่ถ้าถ่ายมุมกว้างจะกว้างได้ไม่เท่า ถ้าอยากรู้ว่าที่ระยะเลนส์ 14mm (เทียบเท่า28mm) ถ่ายง่ายไหม ให้ลองเอาไอโฟนไปถ่ายรูปเล่นดูอะ เออ มันระยะประมาณนั้นเลย
เลนส์แยก
เลนส์ในsystem Micro Four Thirds มีให้เลือกสรรเยอะมากกกกครับ ให้ไล่คงเหนื่อย ไม่ต้องกลัวไม่มีเลนส์ให้เล่น ข้ามค่ายไปใช้เลนส์พานาโซนิกยังได้ จะใช้เลนส์ third party ก็ได้ ส่วนเรื่องราคาก็มีให้เลือกหลายระดับ ข้อดีอีกอย่างคือเลนส์ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก(ด้วยความที่เซนเซอร์มีขนาด Micro Four Thirds) ทำให้พกพาง่าย นี่เป็นเหตุผลที่หลายๆคนใช้กล้องsystemนี้กัน
ราคา
ราคาเปิดมันประมาณ 23,990 บาท แต่ตามงานกล้องที่ลดเยอะๆก็เหลือประมาณสองหมื่นบาท
สรุป
นี่เป็นกล้อง Mirrorless ที่สนองการใช้งานทั่วๆไปได้ดีครับ เราชอบตรงที่มันโฟกัสเร็ว มีกันสั่นมาให้3แกนซึ่งทำงานได้มีประสิทธิภาพมาก หน้าจอพับได้หลายองศา เหมาะกับการใช้งานหลายสถานการณ์
อย่าลืมไปลองก่อนซื้อนะครับ จะได้รู้ว่าถูกใจมั้ย
ก่อนไป ขอบคุณน้องเมฆ @jirakitth_c สำหรับกล้องนะครับ แล้วก็ขอบคุณ บอสบอส เพื่อนผมที่มาช่วยถ่ายบางรูปในบทความนี้นะ
สุดท้าย มีคำถามอะไรก็ถามกันมาได้ฮะ ทั้งทาง FB Page, Twitter, Instagram, ask.fm จะพยายามตอบให้ทั่วถึงนะ
ไปละ บ๊ายบาย
