3 วิธีวางแผน Seasonal Packaging ให้เวิร์ค
พอพูดถึงฤดูหนาว ถือเป็นช่วงเวลาที่ล้อมรอบไปด้วยวันหยุด และสำหรับคนทั่วไปแล้วนับเป็นช่วงเวลาที่น่าหลงใหล และอยากจะดื่มด่ำอยู่กับบรรยากาศของเทศกาลนั้นๆ รวมถึงช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึงอย่างคริสต์มาส
ช่วงนี้เองร้านค้าปลีกจะพยายามทุกวิถีทาง เพื่อดึงดูดผู้ซื้อให้อยู่ในจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน เสียงเพลง การแต่งตัวของพนักงานให้เข้ากับเทศกาล รวมถึงบนชั้นวางสินค้าก็ต้องมีบรรจุภัณฑ์เฉพาะเทศกาล (Seasonal Packaging) ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเพิ่มยอดขายได้ตลอดทั้งเดือนธันวาคมเลยทีเดียว
“หนึ่งในไอเดียที่น่าพูดถึง คือ Toblerone ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 400% ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีพ. ศ. 2549 จากการเปลี่ยนชื่อแบรนด์บนบรรจุภัณฑ์เป็นคำว่า “Ho Ho Ho” เลียนตามเสียงของซานต้าคลอส”
3 ข้อที่ต้องคำนึงในการวางแผน Seasonal Packaging
1. เลือกเฉพาะเทศกาลที่เหมาะสมกับแบรนด์
ไม่ใช่ทุกสินค้าที่เหมาะสมกับ Seasonal Packaging สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มอาจได้ทุกช่วงโอกาส แต่อุปกรณ์สิ้นเปลืองอื่น ๆ เช่น เครื่องใช้ในห้องน้ำ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอาจยากต่อการเข้าถึงในรูปแบบนี้
แต่ถือว่าโชคดีที่ปัจจุบันมีมหกรรม และเทศกาลเฉพาะกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างเทศกาลที่ให้ส่วนลดในการช้อปปิ้งระดับโลก เช่น Black Friday และ Singles Day ของจีน
“การนึกถึงเพียงวันหยุดและEventที่สนุกสนาน ไม่ชัดเจนว่าจะช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ ” Hetal Pandit ผู้อำนวยการฝ่าย Branding and packaging designจาก DCP กล่าว
เธอแนะนำว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ บนแพคเกจจิ้งเป็นวิธีที่ดีการสร้างแบรนด์ที่มีผลต่อจิตใจของผู้บริโภค และการเพิ่มยอดขาย
Skittles นำสีรุ้งออกจากบรรจุภัณฑ์ในงาน Pride in London งานใหญ่ที่ฉลองความภาคภูมิใจของชาว LGBTทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงสีรุ้งที่ยิ่งใหญ่มีเพียงสีเดียวคือ สีรุ้งสัญลักษณ์ของผู้ร่วมงาน ถือว่านำสัญลักษณ์ของแบรนด์มาเล่นร่วมกับเทศกาลใหญ่ได้ดีทีเดียว
2. ไม่สต๊อกของมากเกินไป
การวางแผนทำ Seasonal Packaging มีสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่างานดีไซน์ คือ การควบคุมสต๊อกไม่ให้มากจนเกินไป เพราะงานดีไซน์เฉพาะเทศกาล เมื่อสิ้นสุดช่วงเวลานั้นแล้วคุณอาจจะต้องทิ้งสต๊อกที่เหลือทั้งหมด และนั่นคือผลเสียที่คุณเองก็นึกไม่ถึง
อย่างไรก็ตามมีวิธีหลีกเลี่ยงปัญหานี้
1. เปลี่ยนแปลงดีไซน์เฉพาะจุดที่สามารถนำออกได้ เช่น Tag หรือริบบิ้น
2. การปรับเปลี่ยนดีไซน์เพียงเล็กน้อยไม่ต่างจากเดิมมากจนเกินไป และเป็นจุดที่มองข้ามได้หากต้องการใช้บรรจุภัณฑ์นั้นอยู่เมื่อเทศกาลสิ้นสุดลง
แต่ในความเป็นจริงการปรับเปลี่ยนดีไซน์ต้องคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์เพื่อป้องกันการสับสนของลูกค้า
กรณีของ Coca-Cola ในปี 2554 ได้ออกแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่ออนุรักษ์หมีขั้วโลกที่ใกล้สูญพันธุ์ หลังจากปล่อยสินค้าออกมา 1.4 พันล้านกระป๋อง โค้กสีขาวรุ่น Limited Editionนี้ ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมาก เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็น Diet Coke ต่อมาบริษัทได้ปล่อยกระป๋องสีแดงเพิ่มเพื่อให้เข้าใจถูกต้อง
บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Coca-Cola สามารถรองรับต้นทุนของความผิดพลาดดังกล่าวได้ แต่กรณีนี้อาจไม่เหมาะกับ SMEs ดังนั้นแนะนำว่าควรวางแผนอย่างละเอียดและรอบคอบที่สุด
3. สร้างสรรค์สิ่งพิเศษให้กับลูกค้า
ในช่วงเทศกาล ถือเป็นชั่วโมงแห่งการแข่งขันเพื่อแย่งความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างมาก การเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความแตกต่าง
Nutella ได้ชูความคิดสร้างสรรค์ ด้วยแนวคิดในการใช้อัลกอรึทึ่มสร้างลวดลายบนบรรจุภัณฑ์กว่า 7 ล้านแบบไม่ซ้ำกัน เสมือนเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ทำให้สามารถขายสินค้าได้หมดภายใน 1 เดือน
Coca-Cola ปล่อยแคมเปญบรรจุภัณฑ์เฉพาะบุคคล (Personalized Packaging) โดยการพิมพ์ชื่อบุคคลลงบนฉลาก เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้คน
ดูๆแล้ว Seasonal Packing ถือเป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายในการเพิ่มยอดขายตามช่วงเทศกาลได้ตลอดทั้งปี และคุณก็สามารถเปลี่ยน product ของคุณให้กลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจำนวนมากต้องการได้ในช่วงโอกาสพิเศษ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ลูกค้าจับจ่ายมากขึ้น แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างแบรนด์กับเทศกาลนั้นๆของผู้คนได้อีกด้วย