ชิราคาวาโกะท่ามกลางหิมะขาวปุย
การเดินทางไปนาโงย่าครั้งนี้ (ไม่แน่ใจว่า 4 หรือ 5) เป็นการไปแบบท่องเที่ยวจริงๆ เมื่อสามปีก่อนได้มาแวะที่เมืองนี้เพื่อผ่านไปทาคายาม่าและชิราคาวาโกะ ในตอนนั้นเป็นช่วงใบไม้ผลิ ได้เห็น full bloom ที่ทาคายาม่า และบานเป็นย่อมๆที่หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ มาครั้งนี้ บรรยากาศจะต่างกันขนาดไหน ตามไปดูกันครับ
ก่อนเดินทางผมเองจะคอยเช็คสภาพอากาศของสถานที่นั้นๆเป็นประจำ จะได้รู้ว่าต้องเตรียมตัว เตรียมเสื้อผ้ายังไง ครั้งนี้ก็เหมือนกันครับ เช็คแล้วและเห็นว่าจะมีหิมะตก ก็เตรียมเสื้อนอกและรองเท้าที่กันนํ้ากันลมไว้เฉพาะ เพราะคงไม่สนุกแน่ๆครับหากเดินทางแล้วเราเปียกเราหนาว
จากนาโงย่าเราจองที่นั่งกับ Meitetsu ที่ JR Nagoya Station เพื่อเดินทางมาทาคายาม่าครับ แค่ไปกลับนี่ก็คุ้มค่า pass แล้วครับ เราสามารถเอา Shoryudo Pass ของเราไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ของ Meitetsu ได้เลยว่าเราอยากไปรอบไหน หากมีที่นั่ง เค้าก็จะออกตั๋วให้เลย ของเราเนื่องจากไปกันหลายคน เราเลยแวะไปจองก่อนวันเดินทางหนึ่งวันครับ
บัตร Shoryudo Pass ที่เราซื้อออนไลน์ก่อนออกเดินทางจากประเทศไทยนั้นสามารถใช้แสดงเป็นบัตรขึ้นรถที่ Nohi Bus Terminal เพื่อเดินทางไปหมู่บ้านได้เลยจากที่ทาคายาม่าครับ เพียงแต่เราต้องเช็คว่ารอบรถรอบไหนเป็นรอบ reserved รอบไหนเป็นแบบ non-reserved หากเป็นแบบหลังก็ไปก่อนเวลาสัก 20 นาทีครับเพื่อแน่ใจว่าเราได้ที่นั่ง เดินทางไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงสถานีรถที่ชิราคาวาโกะครับ เข้าใจว่าทำสำนักงานใหม่ ซึ่งที่จอดก็อยู่คนละที่กับเมื่อสามปีก่อนที่เคยมา ครั้งนี้ไม่ต้องเดินข้ามสะพาน … ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองก่อนเข้าหมู่บ้านครับ คือจอดปุ๊บถึงตัวหมู่บ้านเลย
ช่วงที่ไปถึงประมาณ 11 โมงกว่า อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้ากำลังสวย หิมะขาวโพลนปกคลุมหมู่บ้าน มีหลายจุดที่หิมะสูงหนา เราเดินเข้าไปเดินเล่น เล่นหิมะได้ แต่ขณะเดียวกันผมก็สังเกตเห็นว่ามีหิมะกำลังจะตกครับ เพราะด้านหลังเขาเริ่มครึ้มๆ รู้ว่าคงเจอแน่ก็แต่งตัวเตรียมรับมือเลยครับ หิมะเวลาตกใหม่ๆก็จะนุ่มสวย แต่เจอตอนลมแรง กำลังตกเลยนี่ก็ไม่ค่อยสนุกนักครับ
แต่ถึงจะตก เราก็ต้องขึ้นไปดูจุดชมวิว ไหนๆก็มาแล้ว ครั้งนี้เราเลือกเดินขึ้นครับ เพราะคราวก่อนเคยมาเส้นทางนี้แล้ว เดินเรื่อยๆดูวิว ลุยหิมะตกก็ adventure หน่อยๆดีครับ
ผมว่าหมู่บ้านตอนมีหิมะก็สวยไปอีกแบบครับ
ครั้งนี้จริงๆอยากเดินให้มากกว่านี้แต่เสียดายว่าหิมะเริ่มตกหนักขึ้น เราเลยต้องยุติการเดินเล่นในหมู่บ้าน ก็ยังมีไปไม่ครบจุด ยังไม่หนำใจคนชอบถ่ายรูปอย่างผมครับ แต่พอหนาวๆก็นึกถึงออนเซนที่โรงแรมเราเลย
การไปเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกครั้งที่สองของผมกับฤดูที่แตกต่าง หวังว่าเพื่อนๆจะชอบครับ หากมีคำถามเรื่องการเดินทาง สอบถามมาได้ครับ ยินดีแชร์ประสบการณ์ให้ฟังครับ.
