อย่าปล่อยให้ใจเราเป็นเหมือนหมาขี้เรื้อน

Pattapong J.
NoteWise
Published in
Mar 19, 2021

“ … ทุกวันพยายามฝึกให้จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว
ให้จิตใจได้สงบพักผ่อนบ้าง
ไม่อย่างนั้นใจดิ้นเร่าๆ วิ่งพล่านไปเรื่อยๆ เหมือนหมาขี้เรื้อน
วิ่งไปเรื่อยๆ วิ่งแล้วก็เกาๆๆ แล้วก็วิ่งต่อไปอีก
ใจของคนซึ่งไม่ได้ภาวนาเหมือนหมาขี้เรื้อน
คันทั้งวัน มันคันด้วยอะไร ด้วยตัณหา มันอยาก ใจมันคัน
อยากโน่นอยากนี่ไปเรื่อย มันคันยุบยิบๆ ไปเรื่อย
มันก็วิ่งพล่านไปทั้งวัน สิ่งที่ได้มาก็คือความทุกข์ … “

— หลวงพ่อปราโมทย์

ฟังหลวงพ่อพูดผ่านๆ ระหว่างทำงาน
ติดใจกับประโยคนี้มากเลย ใจเหมือนหมาขี้เรื้อน
ตอนฟังก็รู้สึกว่าเข้าใจนะ ว่าจริงด้วยเหมือนเลย
พอทำงานเสร็จเลยมานั่งพิจารณาอีกรอบ
ว่าที่รู้สึกว่าเข้าใจเมื่อกี้ เราเข้าใจว่าอะไรกันแน่

กลายเป็นตอนแรกเราเข้าใจแค่แบบผิวเผิน
คือเราคิดภาพว่าหมาขี้เรื้อนมันคัน มันก็เดินหาที่ใหม่ไปเรื่อย
เผื่อนอนแล้วจะหายคัน หมายใจที่คันขึ้นมาด้วยกิเลศ
ก็ออกเร่ร่อนไปหาที่เกาะเหมือนกัน

แต่พอพิจารณาเพิ่มเติ เราเห็นว่าทำไมหมามันเดินหาที่
อันนี้ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกไหมนะ เป็นการคาดเดาเอาเอง
ว่าที่มันต้องย้ายที่ เพราะหมามันเข้าใจว่าความคันเกิดจากภายนอก
ถ้าตัวมันเองที่คัน มันก็จะเกาให้หายคัน
แต่หมาบางตัวอาจจะชอบโทษอย่างอื่น
มันคิดว่าพื้นที่มันนอน เป็นสิ่งที่ทำให้มันรู้สึกคัน
นอนไปได้ซักพัก ก็คันยิบๆขึ้นมา เกาพอให้หายคัน
แล้วก็เดินเปลี่ยนที่ รู้สึกตรงนี้มันแย่จริงๆ ทำให้เราคัน

เหมือนกับใจหรือตัวจิตของเราเลย
เราไม่เห็นว่าไอ้ตัวจิตเรานี่แหละ มันสร้างอารมณ์ขึ้นมาเอง
แล้วก็ออกไปแสวงหาข้างนอก เพื่อดับอารมณ์นั้นลง
ถ้าเรามองย้อนกลับมาเห็นที่เกิด ว่ามันเกิดจากภายใน
เราก็จะหาทางดับมันลงเองได้ ไม่ต้องส่งออกนอกให้เสียเวลาเลย

===

คันเหมือนหมาขี้เรื้อน :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 7 มีนาคม 2564

--

--