✍🏼 ตราบใดที่ไม่ต้อง …
“ตราบใดก็ตามที่ฉันไม่ต้อง …”
รูปประโยคที่ช่วยให้เรามองหาคุณค่าในตัวเองที่มีต่อคนรอบข้างต่อทีมงานและต่อสังคมได้อย่างชัดเจนขึ้น ยกตัวอย่างจากตัวผมเอง
ตราบใดที่ผมไม่ต้องเขียนโค๊ด ผมทำอย่างอื่นได้หมด ตอนนี้ผมจึงเป็นผู้นำ, โปรดักท์ โอนเนอร์, ดีไซเนอร์, ซิสเต็ม อะนาลิส, เทสเตอร์, โปรเจกต์ เมเนเจอร์, พนักงานขาย, พนักงานดูแลลูกค้า, พนักงานบัญชี, พนักงานฝ่ายการเงิน และกำลังจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด
(ไม่ ไม่ใช่ว่าผมเก่งทุกอย่างและรู้ทุกเรื่อง มันเริ่มจากความเต็มใจจะทำ และตอนนี้ผมก็เรียนรู้อะไรใหม่ๆทุกวัน ผมเชื่อว่าผมทำเรื่องพวกนี้ได้ดีขึ้นทุกวัน)
เพราะผมอาจจะไม่รู้ว่าผมชอบอะไรแต่ผมมั่นใจมากว่าผมไม่ชอบอะไร — การเขียนโค๊ด ในเมื่อผมอยู่ในบริษัทซอฟต์แวร์ถ้าไม่เขียนโค๊ดแล้วผมจะสร้างคุณค่าอะไรให้เพื่อนร่วมทีมได้อีกหละ?
ก็ตามนั้นแหละ เยอะแยะ มีเรื่องอีกมากมายที่เราทำประโยชน์ให้คนอื่นได้ มีช่องว่างอีกมากมายที่เราเติมเต็มให้ภาพมันสมบูรณ์ขึ้นได้
เราสร้างคุณค่าให้ตัวเองได้ด้วยการทำในสิ่งที่จำเป็นแต่ไม่มีใครเต็มใจจะทำ
ผมเชื่อว่านี่คือทัศนคติที่ดีเยี่ยมและคนแบบนี้จะเป็นที่ต้องการในทุกที่และทุกเวลา
ป.ล. มันไม่แปลกอะไรเลยที่เราจะไม่สามารถทำได้ทุกอย่างและมันก็ยิ่งไม่แปลกเข้าไปใหญ่ถ้าเราจะไม่เต็มใจทำอะไรบางเรื่อง แต่ทางที่ดีอย่าตั้งกำแพงความไม่เต็มใจไว้สูงเกินไปนัก
“ตราบใดที่ฉันไม่ต้องเขียนโค๊ด ไม่ต้องเขียนเอกสาร ไม่ต้องทำรีพอร์ต ไม่ต้องพบลูกค้า และไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ … ”
แบบนี้เรียกว่าเกี่ยงงานมากกว่าเรียกว่าเข้าใจความต้องการของตัวเองนะ 😐