คิดต่าง — กระบวนการคัดสรรพนักงานใหม่

เรซูเม่เขียนอะไรก็ได้ ฝืนตัวเองเป็นคนดีต่อหน้าคนสัมภาษณ์ซักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ไม่ใช่เรื่องยาก … การคัดสรรแบบเก่าคือเรื่องหลอกลวง (รึเปล่า?)

Piyorot
People Development

--

มีเรื่องแปลกๆมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการสัมภาษณ์เข้าทำงานครับ เรื่องนี้ถูกแบ่งปันโดยอดัม แกรนท์ (Adam Grant) ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์ เรื่องนี้มีความว่า …

ผู้จัดการฝ่ายของบริษัทแห่งหนึ่งกำลังมองหาพนักงานในตำแหน่งแอดมิน เค้าเริ่มต้นด้วยการประกาศหางานโดยระบุว่าอยากได้คนที่ใจกว้างและเป็นผู้ให้ (นามธรรมมากๆ) ผ่านไปไม่กี่วันเค้าได้รับใบสมัครมา 20 กว่าใบ ถึงอยากจะจ้างไว้ทั้งหมดแต่เค้ารู้ว่าทำไม่ได้ เค้ามีตำแหน่งว่างให้กับคนแค่คนเดียวซึ่งการอ่านแค่ใบสมัครไม่สามารถบอกได้ว่าผู้สมัครคนไหนมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด เค้าเลยต้องคิดทำอะไรที่นอกกรอบ เค้าเชิญผู้สมัครทั้งหมดมาสัมภาษณ์พร้อมกันเลย

เมื่อเดินเข้ามาให้ห้องสัมภาษณ์ซึ่งมีคนเกือบสามสิบคนรออยู่ เค้าก็ประกาศว่า

“ผมอยากได้คนที่ใจกว้างและเป็นผู้ให้ แต่ผมไม่รู้ว่าคนนั้นคือใครในกลุ่มของพวกคุณ ไหนๆพวกคุณก็อยากได้งานกันทุกคน เอางี๊มั้ย ลองช่วยผู้สมัครคนอื่นหางานสิ แล้วผมจะเลือกคนที่หางานให้คนอื่นได้มากที่สุดมาเป็นแอดมินคนใหม่ของผม” ผู้สมัครทุกคนทำหน้างงๆ … มันอะไรกันวะเนี่ยะ

“พวกผมไม่มีงานทำนะ ถ้าหางานได้ผมก็ควรเก็บไว้เองสิ จะยอมส่งต่อให้คนอื่นทำไม” ผู้สมัครคนหนึ่งถามเค้ากลับไป (มั่นใจได้เลยว่าคนนี้ตกกระป๋องแน่นอน คำพูดสื่อให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัว ฮ่าๆ)

“ผมเข้าใจ แต่พวกคุณทุกคนต่างก็มีเพื่อน มีคนรู้จัก มีสังคม มีความรู้ มีทักษะที่ต่างกันนะ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะหางานที่เหมาะกับผู้สมัครรายอื่นมากกว่าตัวคุณเองก็ได้ เปิดใจกว้างหน่อยสิครับ”

ผ่านไปสองสัปดาห์ … ผู้ชนะคือคนที่หางานให้ผู้สมัครคนอื่นได้สามคน เค้าพิสูจน์ได้แล้วว่าคนนี้แหละใจกว้างและเป็นผู้ให้ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมกับงานแอดมินของเค้า เค้ารีบเสนอตำแหน่งให้ทันที

แต่ไม่ใช่ … ผู้ชนะคนนั้นปฏิเสธเพราะเธอรู้แล้วว่าจริงๆแล้วตัวเธอเองอยากทำอาชีพ Corporate Recruiter มากกว่า และนี่ก็เป็นสิ่งที่เธอทำอยู่ทุกวันนี้อย่างมีความสุข

ประเด็นที่ได้จากเรื่องจริงนี้คือ หนึ่งเป็นเรื่องยากที่เราจะเข้าใจคนหนึ่งคนด้วยการอ่านประวัติจากกระดาษไม่กี่แผ่นหรือการพูดคุยอย่างเป็นทางการแค่หนึ่งหรือสองชั่วโมง การพิสูจน์ว่าคนหนึ่งคนมีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งนี้จริงๆหรือไม่ต้องใช้เวลา กระบวนการและความพยายามมากกว่านั้น … ผมรู้สึกว่ากระบวนการคัดสรรคนเข้าทำงานที่ทำกันอยู่มันไม่ค่อยถูกต้องเท่าไรแต่ยังไม่รู้จะแก้ไขยังไง ฮ่าๆ

สอง … ผู้ให้ชนะเสมอ ☺

ผมเขียนบทความนี้เพราะอยากเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตซอฟท์แวร์ให้ดีขึ้นตามความเชื่อและประสบการณ์ของผม ถ้าเพื่อนๆเชื่อในแนวทางเดียวกัน เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือทำให้สังคมของเราดีขึ้นครับ จะแชร์บทความนี้ผ่าน Social Network หรือจะแบ่งปันเรื่องราวนี้ให้คนที่นั่งข้างๆฟังบ้างก็ได้

The Future Has Arrived — It’s Just Not Evenly Distributed Yet, William Gibson

อนาคตอยู่ตรงนี้แล้ว เรามีหน้าที่ต้องถ่ายทอดมันออกไปให้คนอื่นได้สัมผัสสิ่งดีๆร่วมกันครับ

--

--

Piyorot
People Development

A member of Mutrack and Inthentic. I lead, learn, and build with vision, love and care. https://piyorot.com