Go Inter | เมื่อผมไปเยือนญี่ปุ่นครั้งแรก

Pongpith Simmanee
podtalk
Published in
5 min readJan 26, 2016

เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ไปเยือนแดนปลาดิบหรือ **”ญี่ปุ่น”** เป็นครั้งแรกของชีวิตเลยก็ว่าได้ ว่าแต่ ผมไปทำไมอ่ะหรอ การไปครั้งนี้ถือเป็นการให้ประสบการณ์ทางด้านการเรียน เที่ยว และงาน เลยก็ว่าได้ จากโครงการ Japan-Asia Youth Exchange Program in Science” (SAKURA Exchange Program in Science) โดยผู้สนับสนุนหลักตลอดทั้งทริปของผมคือ Japan Science and Technology Agency ภายใน 7 วันครับ

เริ่มต้นเมื่อได้รับคัดเลือกโครงการ ผมค่อนข้างซีเรียสพอสมควร ในชีวิตเรียนภาษาอังกฤษมา 11 ปี (ป.4- ปี 2) แบบปูๆปลาๆ ไม่ได้ตั้งใจเท่าที่ควร เรียนเพื่อนการสอบ พอเวลาใช้จริง แอบกลัวเหมือนกันแฮะ เรื่อง Tense Adverb Adjective บลาๆ ตอนมัธยมฯ เคยคุยกับฝรั่ง มังค่า ผิดๆถูก โดนหัวเราะเรื่อยมา บอกเลยว่า อายมากๆ พีคสุดก็คือ ตอนที่เรียนบางมดเวลาสอบ Role play อาจารย์นี่กลับกลั้นหัวเราะไม่ได้เลยทีเดียว แต่พอมาถึงจุดนี้มีเวลาเตรียมตัว 2 สัปดาห์ ก็คงอาศัยบุญเก่า (พื้นฐานภาษาอังกฤษ) บวกกับทบทวนในระยะสั้นกันล่ะครับ (สอบไฟนอลด้วยย T^T) แล้วคำว่า “ช่างแม่ง” ก็ต้องนำมาใช้

## วันแรก | 13 ธันวาคม
วันแรกที่ญี่ปุ่นนั้นคือวันเดินทางครับ โดยเวลาเครื่องออกจากสุวรรณภูมิคือ 07.05 น. ผมก็ต้องตื่นออกจากบางมด ตี 3 เพื่อไปให้ถึงสนามบินสุวรรณภูมิครับ เผื่อเวลาแลกตังค์ด้วย

12321104_10204816830332102_4834505966611003137_n

และแล้วก็ได้ขึ้นเครื่องเป็นที่เรียบร้อยครับ ใช้เวลา 5 ชั่วโมงในการเดินทางกับสายการบิน All Nippon Airline (ANA)

12376727_10201104477811137_5829413125786343314_n

ในที่สุดก็เดินทางถึงสนามบิน นาริตะ โตเกียวครับ แล้วต้องนั่งรถบัสอีก 2 ชม. เพื่อเข้าพักโรงแรมครับ

มาดูโรงแรมที่ผมเข้าพักกันครับ ขนาดกำลังดีเลยทีเดียว ที่นี่ไม่มีแอร์ครับ เพราะมันหนาว เปิดหน้าต่าง มีแต่ฮิตเตอร์เปิดอุ่นๆ ในทุกวัน

IMG_3877

## วันที่สอง | 14 ธันวาคม 2558
วันนี้ต้องเดินทางออกจากโรงแรมมุ่งหน้าสู่ Tokyo City University Setagaya Campus ครับ โดยต้องนั่งรถไฟในโตเกียวเพื่อให้ไปถึงจุดหมาย โดยวันแรกเขาจะพาขึ้นรถไฟครับ ส่วนวันที่สอง วันที่สาม ตัวใครตัวมันล่ะครับ อิอิ

IMG_4072

สำหรับภารกิจวันนี้ครับ คือช่วงเช้า ปฐมนิเทศโครงการก่อน หลักๆเล่าถึงความเป็นของโครงการ แนะนำมหาวิทยาลัย และแนะนำเจ้าหน้าที่ต่างๆประจำห้องปฏิบัติการที่พวกผมจะต้องไปเรียนรู้ที่โน้นครับ

IMG_3882

พอตกมาช่วงเกือบเที่ยงนั้นทางมหาวิทยาลัยได้นำทีมพวกผม เข้าชม สถานที่ต่างๆในมหาวิทยาลัยครับ นั้นคือ หอสมุด แต่ผมพยายามให้ถ่ายถูกคนญี่ปุ่นให้น้อยที่สุดครับ เนื่องจากที่นี่ การถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาตคือการละเมิดสิทธิ์เลยล่ะครับ

IMG_4069

บริเวณอาคารเรียน

IMG_3893

หน้าโรงอาหารและหอสมุด ผมคาดว่าน่าจะเป็นดอกซากุระ เมื่อย้อนดูรูปในอดีต

IMG_3963

ทางเดินภายในมหาวิทยาลัย

IMG_3961

บริเวณอาคารเรียน ใต้ตึกมีโต๊ะให้นั่งชื่นชมบรรยากาศเย็นๆด้วย

IMG_3923

ภายในหอสมุด

IMG_3938

มี One Piece ให้อ่านด้วย (ภาษาญี่ปุ่นนะ)

หลังจากช่วงเช้าได้ผ่านการปฐมนิเทศ และเข้าชมสถานที่ต่างๆในมหาวิทยาลัยแล้ว หลังจากนั้นช่วงบ่าย เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนจากประเทศไทย จะต้องเข้่าห้องปฏิบัติการต่างๆที่เขาเตรียมไว้ให้ในแต่ละคน นั่นคือ Program Based Learning ครับ ส่วนตัวผมเองนั้นได้เข้าศึกษาใน Automatic Control Laboratory ซึ่งเป็นหัวข้อที่ผมสนใจที่จะศึกษาพอดี

หลังจากนั้นผมก็ได้ Staff ทั้งหมดสามคนครับ มาช่วยผมในการเรียนรู้ในครั้งนี้ คือ Tasunari เป็นผู้ดูแลผมในทุกๆด้านที่ห้องปฏิบัติการแห่งนี้ (จริงๆเขาพาผมเที่ยวด้วย ฮ่าๆ) เขาบอกว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ผมบอกเลยว่า เขาพูดได้ดีเลยเชียวล่ะ คนที่สองนั้นคือ Tony เขาเป็นผู้ที่สอนผมในการเขียนโปรแกรมสำหรับภารกิจ ชี้แจง และคอยช่วยผมแก้ปัญหาต่างๆ คนนี้เป็นบัดดี้ที่คอยช่วยเหลือผมในกาเรียนเลยล่ะ คนที่สามคือ Mr.Bryan เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีน ที่มาเรียนในญี่ปุ่น คนนี้พูดได้ทั้งภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ภาษาอังกฤษของ Bryan นั้นยอดเยี่ยมมากเลยล่ะครับ เขาเลยที่คนกลางเวลาผู้ช่วยผมสองคนพูดไม่เข้าใจ Bryan จะอาสามาแปลภาษาญี่ปุ่น มาเป็น ภาษาอังกฤษ ทำให้่ผมเริ่มมีคนคุยด้วย ฮ่าๆ

>> นอกเรื่อง !!! ผมมาถึงจุดคำว่า “ช่างแม่ง” เป็นคติประจำใจผมในการใช้ภาษาอังกฤษที่นี่ครับ ถ้าเราพูดไม่ถูกอยู่ต่างแดนคงไม่มีใครมานั่งหัวเราะ พอเอาเข้าจริงๆ การสื่อสารนั้น ควรพยายามพูดให้ง่ายที่สุด บอกว่าอะไร ที่ไหน เวลาเท่าไหร่ จำนวนเท่าไหร่ ทำอย่างไร(ใช้ Verb ง่ายๆ) แค่นี้ก็คุยกับเขาได้ครับ ถ้าผิดถูกอย่างไร เขาก็แนะนำเรา พอเราพูดให้เขารู้เรื่องมันจะสนุกมาก วันต่อไปผมต้องหาเรื่องราวต่างๆมาคุยกัน รูปประโยคใหม่ๆ หรือสำนวนใหม่ๆ นั้นก็จะเริ่มใช้มากขึ้นครับ

10553883_10206962042442043_121555517816926043_o

คนแรกคือรุ่นพี่ผมถ่ายร่วมถ่ายด้วยครับ คนที่สองคือตัวผมเอง คนที่สามคือ Tasunari คนที่สี่คือ Tony และคนสุดท้ายคือ Bryan นั่นเอง

เอ้า! มาถึงช่วงทำภารกิจที่ห้องปฏิบัติการกันบ้างครับทุกคน มีอะไรให้ผมทำบ้างมาดูกันครับ

Screen-Shot-2559-01-26-at-10-54-45

ภารกิจแรก มันคือการศึกษาเจ้าตัว Robot ที่ผมต้องให้มันทำภารกิจต่างๆ แวบแรกบอกเลยหมูๆ พอความเป็นจริง เกือบตายเลยทีเดียว
ภารกิจที่สอง คือการให้ตัวเซ็นเซอรที่มีอยู่มันติดตามมือของเรา ถ้าเราเอามือไปวางขวางมัน มันจะหลบเราครับ แล้วจะเดินอย่างอิสระ หรือเจอสิ่งกีดขวางก็ให้เลี้ยวหนีครับ
ภารกิจที่สาม คือการเดินตามเส้นในสนาม ให้มันวิ่งวนอยู่อย่างนั้น เหมือนสนามแข่งหุ่นยนต์เลย

เอ้าวันนี้พอแล้วครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาลุยกันครับ :D

##วันที่สาม | 15 ธันวาคม 2558
วันแรกครับกับภารกิจแรกคือจะต้องเรียนรู้เจ้า K Junior ก่อน โดยโครงสร้างหลักจะใช้ภาษา C++ มีฟังก์ชั่นให้เราใช้ มีเซนเซอร์ให้เราใช้ครับทั้งหมด 10 ตัวครับ บน 5 ตัว ล่าง 5 ตัว สนุกเลยทีเดียว เหมาะสำหรับการเรียน C++ เริ่มต้นมากๆ

Screen-Shot-2559-01-26-at-10-54-54

หลังจากเลิกงานเวลา 17.00 น. ถึงเวลากลับโรงแรมครับ พร้อมกับโจทย์ในการแก้ไขปัญหาของภารกิจในวันพรุ่งนี้ แต่ตอนนี้ขอเที่ยวก่อนล่ะกันครับ สำหรับวันนี้ไปย่านช๊อปแหลก ชิบูย่ากันดีกว่า

IMG_4014
IMG_4017

##วันที่สี่ | 16 ธันวาคม 2558
วันที่สองของการเข้าห้องปฏิบัติการ ครับกับภารกิจที่สอง คือการทำให้เจ้าหุ่นยนต์นั้น Track มือของเราหรือหลีกสิ่งกีดขวางครับ โดยเริ่มจากตอนเช้า ผมต้องนั่งรถไฟไปที่มหาวิทยาลัย แต่โชคดีหน่อยเช้านนี้ผมเกาะแกะไปกับรุ่นพี่ กลัวหลงเอามาก การเดินทางนั้นเริ่มจาก ผมขึ้นที่สถานี
Takatsu ไปเปลี่ยนขบวนรถไฟที่สถานี Futako-Tamagawa แล้วแต่รถไฟไปถึงสถานี Oyamadai เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นเดินอีก 1 กม. ไปยังมหาวิทยาลัยครับ อากาศดีมาก ไม่เหนื่อยเลยครับ

ต่อไปเรามาต่อเรื่องภารกิจวันนี้ของเราเลยดีกว่า

IMG_4072
Screen-Shot-2559-01-26-at-10-55-02
Screen-Shot-2559-01-26-at-10-55-09
Screen-Shot-2559-01-26-at-10-55-19

ภารกิจวันนี้คือการ ทำให้เจ้าหุ่นยนต์นั้น Track มือของเราหรือหลีกสิ่งกีดขวางครับ ดูจากเงื่อนไขที่ผมเขียน flow chart อย่างง่ายนั้นคงไม่ยาก แต่ความยากของมันอยู่ที่เซนเซอร์ของมันไม่ได้ทำงานอย่างที่เราคิดเลยครับ ต้องหาช่วงของช่องว่างระหว่างแสงว่าให้มันหลบเราในระยะ 10 ซม.นั้นค่าแสงประมาณเท่าไหร่ สนุกดีครับ ได้แก้ปัญหา Hardware ด้วย แต่ก็มีปัญหาที่ตามมาด้วยเช่นกัน

ถึงเวลา 17.00 น. ก็กลับเช่นเดิมครับ ที่นี่ค่ำเร็วมากสำหรับบ้านเรา 5 โมงก็มืดแล้ว ที่นี่ตรงเวลาพอสมควร ผมเลยเก็บภาพบรรยากาศตอนเดินกลับมาฝากครับ

IMG_3953

##วันที่ห้า | 17 ธันวาคม 2558
วันนี้รีบแต่เช้าครับ แต่ก็พบปัญหาคือ ขึ้นรถไฟผิดครับ 5555+ ไม่น่าให้อภัยเลย โดยรถไฟที่นี่จะมีสองขบวนหลักๆครับคือ Express และ Local แบบแรกคือจะจอดบางสถานีที่มีคนขึ้นเยอะๆ ส่วนแบบที่สองนั้นคือ Local คือจอดทุกสถานี คำแนะนำคือ เราควรดูตารางเดินรถ ที่เราจะไปครับว่า Express จอดไหม แล้วหลังจากนั้น ดูตาราง Status Board ดีๆ แล้วพกความมั่นใจขึ้นไปเลยครับ

สำหรับภารกิจวันนี้คือการทำให้หุ่นยนต์ ติดตามเส้นบนสนามครับ เป็นการใช้ความรู้ทั้งสองภารกิจมาเขียนเจ้านี้ ปัญหาเหมือนเดิมครับ เซนเซอร์จะมีข้อจำกัดของมันในช่วงแสง ในแต่ละตัวความแม่นยำต่างกันมากๆ ฉะนั้นเราต้องหาค่าหรือออกแบบการเขียนโปรแกรมเซนเซอร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อหาวิธีการควบคุม อีกทั้ง มอเตอร์สองตัวในทางทฤษฎีสั่งเดินหน้า 10 เท่ากัน แต่ในทางปฏิบัติมันไม่เท่ากันครับ และค่าการหมุนให้มันเดินตรงมันเลื่อนไปตลอดด้วยแหะ แบตเตอรี่ก็มีผลด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเราก็ต้องไปไล่ดูถึงความต่อเนื่องของมันครับ ระยะห่างมอเตอร์ ไหนจะแรงเสียดทานอันน้อยนิดของสถามอีก งานนี้ใช้หมองมากๆเลยครับ สุดท้ายก็ได้ฟังก์ชั่น 1 ตัวขึ้นมา (ผมลืมบันทึกตัว Code มาให้ชมวิธีการคิดขออภัยด้วยนะครับ)

Screen-Shot-2559-01-26-at-10-55-28
Screen-Shot-2559-01-26-at-10-55-34
Screen-Shot-2559-01-26-at-10-55-34
Screen-Shot-2559-01-26-at-10-55-44

หลังจากเหนื่อยกับภารกิจต่างๆ วันนี้ Tasunari และ Bryan ชวนผมมากินอาหารอันเลื่องชื่อลือชา นั่นก็คือ โอโคโนมิยากิ Okonomiyaki อร่อยมากๆครับ

IMG_4113

##วันที่หก | 18 ธันวาคม 2558
วันนี้คือวันสุดท้ายที่อยู่มหาวิทยาลัยครับ คือการนำเสนอผลงาน แล้วพามาเที่ยวที่ National Museum of Emerging Science and Innovation (Miraikan) ทีเด็ดที่นี่คือ อาซิโม นั่นเอง ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กและเยาวชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นไปที่ Diver City Tokyo เป็นสถานที่สำหรับจับจ่ายซื้อของข้างหน้านั่นก็คือ กันดัม อันเลื่องลือ สัญลักษณ์โดดเด่นประจำที่นี่นั่นเองครับ

unspecified-5

อาซิโม ได้เจอตัวจริงแล้วว

unspecified-4

มาเยือน Diver City Tokyo แล้วคร้าบบ

unspecified-11

นำเสนอผลงานอย่างเป็นทางการ กับภาษาอังกฤษครั้งแรก

unspecified-12

ปาร์ตี้จากมหาวิทยาลัยครับ สนุกมากๆๆ

unspecified-13

เกมโบลิ่งเป็นอะไรที่สนุกมากและผมโง่มากเลยทีเดียว 5555+

วันที่ 7 วันสุดท้าย | 19 ธันวาคม 2558

10004023_10204848080193329_2181135185067562539_n

ไม่มีงานเลี้ยงใด ไม่มีวันเลิกราครับ ออกจากโรงแรมเวลา 9.00 น. เพื่อต่อรถไปสนามบินนาริตะ อากาศวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส่ อุณหภูมิประมาณ 11 องศา กำลังดีครับ

## สรุปเมื่อผมไปเยือนญี่ปุ่นครั้งแรก

เรื่องภาษา

ในการสนทนาภาษาอังกฤษในต่างแดน ถือคติว่า “ช่างแม่ง” ก็ดีครับ พูดไปเถอะครับ พูดให้ฟังง่ายๆ เราจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร บอกเวลา บอกปัจจัยพื้นฐานต่างๆได้ ก็รอดแล้วครับ เมื่อคุยไปบ่อยๆ ผิดถูกเขาจะแนะนำเราเอง ถ้าไม่อาย “ช่างแม่ง” เข้าไว้ครับ ชีวิตจะสนุกมาก พอหลายวันเขาผมเชื่อว่า เราต้องหาเรื่องมาเล่าสู่เขาฟัง ได้ใช้ประโยคใหม่ๆ สำนวณใหม่ๆ ถือว่าไม่เลวครับ

การทำงานของคนญี่ปุ่น

คนญี่ปุ่นจากที่ผมเคยร่วมงานด้วย เขามีความอดทนสูงมาก ตรงต่อเวลา งานที่เขาทำถือว่ามีประสิทธิภาพมากๆเลยครับ

การศึกษาที่ Tokyo City University

ภายในเวลาไม่ถึง 7 วัน ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีบรรยากาศและอำนวยความสะดวกต่อการเรียนมากๆ ภายในห้องปฏิบัติการมีการเรียนรู้เชิง Project Base on Learning ด้วยน่าสนใจมากๆครับ งานวิจัยหลายๆอย่างที่ผมเห็น บางคนต่อยอดจากความฝันของตัวเองมาใช้ได้จริงก็มี หลายอย่างไม่ใช่งานขึ้นหิ้ง เราเข้าถึงได้ครับ ส่วนตัวผมอยากรู้จักเพื่อนชาวญี่ปุ่น ในอนาคตข้างหน้าอาจจะได้ร่วมงานหรือร่วมมือกัน ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เรายังไม่เคยเรียนรู้ ทำสิ่งประดิษฐ์ หรือทำอะไรสนุกๆกันครับ

รถไฟในโตเกียว

รถไฟที่นี่จะมีหลายสายมากๆครับ ควรอ่านตารางการเดินรถดีๆ และสังเกตุป้ายบอกสถานะรถไฟที่จะเข้าให้ดีครับ โดยรถไฟที่ผมเจอจะมีสองแบบคือ Express และ Local แบบแรกจะจอดบางสถานีครับ ส่วนอีกตัว จะจอดทุกสถานี อยากรู้ว่าสถานีไหนจอดไม่จอด ดูตารางเดินรถประจำสถานทีเลยครับ หากยัง งง สงสัยอยู่ก็สามารถถามนายสถานีได้ครับ เขาพูดภาษาอังกฤษได้

โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบโตเกียว ญี่ปุ่น มากๆครับ เคยคิดอยากจะเรียนที่นี่เหมือนกัน บรรยากาศดีมาก ประชากรส่วนใหญ่ของเขาที่ผมได้สัมผัสไม่มาก ทัศนคติดีมากครับ สงสัยถ้ามีโอกาสมารอบหน้า คงต้องเตรียมเงินในกระเป๋าหนักๆ และใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ดี ชีวิตในโตเกียวผมคง แฮบปี้ไม่น้อย ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากอย่างหนึ่งที่โตเกียวที่ในชีวิตนี้ผมไม่มีวันลืม สวัสดีครับ

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

* โครงการ Japan-Asia Youth Exchange Program in Science” (SAKURA Exchange Program in Science)

* ผู้สนับสนุนโครงการและค่าใช้จ่าย Japan Science and Technology Agency

* ผู้สนับสนุนทางการศึกษาและดูแลผมตลอดทริป Tokyo City University

* ผู้ดูแลตลอดทริปและให้โอกาสที่ดีแก่ผม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พินิจ คำหอม ภาควิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

* รูปถ่ายจากพี่ตรีโรจน์ และ พี่ฟิวส์

* พี่ๆทั้ง 8 คนในทริป (พี่เฟิร์ส พี่ฟิวส์ พี่ดรีม พี่กัส พี่นัท พี่ปูเป้ พี่หนึ่ง พี่นุ๊กกี้)

--

--