ปฏิบัติการล่า Nike React ข้ามโลก
เวลาที่เราตั้งใจจะซื้ออะไรสักอย่าง เมื่อมันมาประจวบกับช่วงเวลาเหมาะๆ มันก็ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Nike ออกรองเท้ารุ่นใหม่อย่าง React ที่โฆษณามาดีมาก ดีจนพลเกิดกิเลส
และเมื่อร้านในกรุงเทพของหมด…
และพลดันมีโอกาสไปร่วมงานของ Microsoft ที่อเมริกาพอดี…
และระหว่างเดินทางไป ก็พักเครื่องที่ญี่ปุ่น 6 ชั่วโมง…
การตามล่ารองเท้า Nike React ใน 1 ชั่วโมงก็เริ่มต้นขึ้น!
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าของพล จากที่ได้ไปญี่ปุ่นในแต่ละเที่ยว มันช่างมีอะไรมาให้ตื่นเต้นเสมอ (แต่นั่นมันก็เป็นความสนุกอย่างหนึ่งใช่มะ?) สนใจอ่านเรื่องราวต่างๆ ทั้งหมดได้ที่นี่
รองเท้า Nike React อะไรนะ?
สำหรับคนที่สนใจการวิ่ง ชื่อ Nike เป็นยี่ห้ออันดับต้นๆ ที่ต้องรู้จักแน่นอน และช่วงต้นปี 2018 Nike เปิดตัวรุ่นใหม่ชื่อ React
ขอแนะนำ Nike React ด้วยคลิปเปิดตัวของมันเอง
ซึ่งมันมาประจวบเหมาะกับรองเท้าของพล กับแฟนเริ่มหมดอายุการใช้งาน (ดอกยางหายเกลี้ยง เรียกว่าใช้จนคุ้มว่างั้น) เลยคิดว่าคู่ต่อไปก็เอาเป็นรุ่นนี้แล้วกัน
พอจะไปดูที่ร้านที่สยามวัน ติดงานสอนลูกค้า เลยไม่ได้ไป ไปอีกทีก็…
หมด!
แต่ช่วงนั้นกำหนดการที่ต้องไปประชุม Microsoft MVP ที่ซีแอทเติ้ล สหรัฐอเมริกาพอดี ดังนั้น สมมุติฐานคือ…
ที่ต่างประเทศของยังไม่หมด!
การแว้บออกจากสนามบินมาในโตเกียว ก่อนต่อเครื่องตอนเย็น
ทีนี้การจะมาตามหา Nike React ในญี่ปุ่นได้ ก็เพราะว่าเที่ยวบินไปอเมริกาของพลแวะต่อเครื่องที่สนามบินโตเกียวนาริตะนี่แหละ เลยคิดว่าถ้าแว้บออกไปได้ก็คงจะดี
แต่มันแว้บออกไปได้จริงหรือเปล่า? และจะออกไปด้วยวิธีไหน?
ก็ได้หาข้อมูลตาม pantip หลายๆ กระทู้ ซึ่งคนมาตอบก็มีทั้งได้ และไม่ได้ พลก็เลยคิดว่า เอามาเล่าให้ฟังกันหน่อยล้ะกัน ดูได้ที่นี่
เส้นทางการเดินล่า Nike React
พลออกตัวด้วย Keisei Skyliner Express แบบไป-กลับ มาลงที่สถานี Ueno
สถานที่ยอดฮิตของคนไทยมาเที่ยวโตเกียว นับว่าเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดอันหนึง รวมตั๋วรถใต้ดินของเมืองโตเกียว 1 วัน รวม 4,700 เยน
แต่พอดีเส้นทางออกล่า Nike React มันใช้รถไฟของ JR สาย Yamanote Line จะสะดวกกว่า เลยเก็บไว้ตั๋ว 1 วัน แวะใช้อีกรอบตอนขากลับจากอเมริกาแล้วกัน
เหล่าร้าน Nike ในเส้นทางการล่า
ในการออกล่าอย่างมีเวลาจำกัดเช่นนี้ พลเลือกที่จะเดินทางไปตามแหล่งร้านตามย่านผู้คนดังนี้
1. ร้าน Nike Flagship Store ย่านฮาราจูกุ Harachuku
ตอนแรกก็กะจะไปเดินในห้างใหญ่ๆ เอา แต่คิดว่าเวลาน่าจะไม่พอแน่ เลยค้นหา Nike Store แบบเจาะจงไปเลย เจอ Flagship store เข้าให้
โดยมันอยู่ที่ย่านฮาราจูกุ (Harachuku) ที่หลายๆ คนนิยมมาชอปปิ้งกัน และมันอยู่ใกล้ศาลเจ้าเมจิสุดยิ่งใหญ่อีกด้วย
ซึ่งถือว่า Flagship Store เป็นร้านขนาดใหญ่ที่สุดในโตเกียวเลยก็ว่าได้ มีทั้งหมด 2 ชั้น เดินจากสถานีบ้านไม้ฮาราจูกุมาทางขวา และตรงมาหน่อยก็จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายแล้ว
ปรากฎว่าสีดำล้วนขอบฟ้า ที่ตามหานั้น มีแต่ของผู้หญิงล่ะครับ ของผู้ชายนั้นเขาบอกว่าขายเกลี้ยงตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว (ของมันแรงจริงๆ เมืองไทยก็หมด ญี่ปุ่นก็หมด)
เอาหว่ะ ยังมีอีกที่หนึ่งที่เจอตะกี้ใน Google Map นั่นก็คือ…
2. ร้าน Nike แห่งย่าน Naka-meguro
ร้านนี้ถือเป็นทางผ่านก่อนจะไปเดิมพันกับร้าน Nike Factory Store ที่เกาะโอไดบะครับ
การมาร้านนี้ทำให้พลได้พบกับย่านชิลล์ๆ ริมคลองที่เงียบสงบอีกแห่งหนึ่ง มีถนนไม่กว้างไม่แคบที่คนมาขี่จักรยานกัน
และมีคาเฟ่ที่ลุงๆ ชาวญี่ปุ่นกำลังจิบกาแฟกันสบายๆ
เข้าร้านไปเจอ พนักงานสาวญี่ปุ่นเข้ามาถาม เลยถามทันทีว่า
“มี Nike React ไซส์นี้มั้ยครับ”
แกร้อง “อาโน…” เบาๆ พร้อมเอามือปิดปาก เหมือนตกใจเบาๆ
“เดี๋ยวจะเช็คให้นะคะ แต่อาจจะไม่มีน้า”
แกหายไปสักพัก เท่าที่ดูก็คือไปจิ้มๆ ไอแพด เช็คสต๊อคนั่นเอง แล้วก็กลับมาบอกว่า
“ไซส์นี้หมด เหลือแต่ของผู้หญิงจ้า”
กล่าวขอบคุณและถอยมาจากร้าน อย่างปราชัย
แต่ออกมาเดินหน้าร้านแล้ว พบว่าบรรยากาศแถวนี้มันชิลล์และสวยมาก
สวยจนคิดว่า มันต้องไม่ใช่สถานที่ธรรมดาแน่ๆ
เลยลองกดมือถือดู ปรากฎว่าเป็นแหล่งดูซากุระหนึ่งที่สวยมากอ่ะเฮ้ย! แต่ตอนที่ไปตอนนั้นยังไม่บาน คนเลยไม่เยอะ แต่ก็ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายมาก
เลยเดินเล่นอยู่พักหนึง ให้หายเหนื่อย แล้วพลก็ย้ายตัวเองไปยังร้าน Nike ใหญ่สุดท้ายแห่งโตเกียว…
3. ร้าน Nike Factory Store แห่งโอไดบะ (Odaiba)
Nike Factory Shop นั้นเป็นร้านขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเกาะโอไดบะ เกาะที่ตั้งกันดั้มยักษ์อันเลื่องลือนั้นเอง
การเดินทางมาที่ Nike Factory Shop นั้นสามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า 2 ต่อครับ
โดยตัวร้านนั้นอยู่ใน Venus Fort ห้างสรรพสินค้าสไตล์โรมัน ติดกับตึกแสดงเทคโนโลยีของโตโยต้า (Mega Web Toyota City Showcase) ซึ่งถึงลงจากสถานีแล้ว ก็ต้องมีการเดินอีกพอตัว ถึงจะมาถึงตึกได้
แต่พลพบว่า…
ร้านนี้มันขายรุ่นที่ลดราคา ไม่ใช่รุ่นล่าสุด!
มานึกๆ ไปก็ร้านที่เคยไปเดิน Outlet ที่สิงค์โปร์ ก็ประมาณนี้นี่นะ
มาถึงจุดนี้ ถือว่าเวลาใกล้หมดแล้ว พลต้องรีบกลับไปที่สนามบิน เพื่อรอเครื่องออกไปซีแอทเติ้ล สหรัฐอเมริกา
และการตามหายังไม่จบ เพราะดันไปค้นเจอว่าที่ซีแอทเติ้ล ก็มี Nike Flagship Store ด้วย!!
4. ร้าน Nike Seattle
พอมาถึงที่ Seattle หลังจากมึนๆ กับเวลาที่ผกผันแล้ว เช็คอินโรงแรม Hyatt Place Seattle แล้ว ตอนนี้ความคาดหวังกับเป้าหมายใหม่สูงพอสมควร เพราะคิดว่า
“นี่มันประเทศแกเลยนะเว้ย ของมันต้องสต๊อคกันสนั่นเลยสิ” (ห้ามหมดนะ)
ทีนี้ถ้าเราจะหาสายรถเมล์นั่งเข้าไปในย่านชอปปิ้งดาวน์ทาวน์ ก็เห็นจะเสียเวลา
แต่พอดีมันมีรถรางพิเศษ ชื่อ Seattle Monorail วิ่งระหว่างสถานี Space Needle มุ่งเข้าดาวน์ทาวน์โดยตรง ไม่ต้องติดไฟแดงเลย! โดยสถานีสุดท้ายคือตึก West Lake Center ครับ
โดยถ้าซื้อตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวที่ Space Needle Park ก็จะได้ตั๋วนั่งเจ้ารถรางนี่ไปกลับได้ด้วย
ทีนี้พอลงที่ West Lake Center แล้ว ก็เดินลุยไปร้าน Nike Seattle เลยครับ อยู่ห่างไม่กี่บล๊อคเท่านั้น
เข้าไปก็ไปยิ้มให้พนักงานขาย บอกว่า “มี Nike React ไหม? ไซส์นี้ๆ”
อ้อ ลืมบอกไปในตอนต้น ว่าสีที่ตามหาอยู่คือสีดำ ส้นน้ำเงินตามภาพ
แกบอก “โย่ได้เลย รอเดี๋ยว” แล้วแกก็หายไปในห้องเก็บสินค้า
นาน
นานมากกกก
ออกมาก็ทำหน้าเหมือน ทีมบอลที่ตัวเองเชียร์แพ้ แล้วบอกว่า “เสียใจด้วยจริงๆ แต่ไซส์ขนาดคุณเนี่ยหมดแล้ว”
“ไม่มีจริงๆ หรือ?”
“ใช่ แต่ไซส์ที่เล็กกว่าครึ่งหนึ่ง มีนะ ลองไหม?”
หลังจากลองก็พบว่า…
มันคับอ้ะ!
พนักงานก็กระตือรือร้นมาก พยายามหาไซส์ที่ใกล้เคียงกันมาให้ลอง แต่ก็ไม่เป็นผล
ช่วงสุดท้ายเขาก็ชวนคุยว่า “นี่มาจากไหน?”
บอก “มาจากประเทศไทย”
เขาก็ยิงมุขว่า นี่มาซื้อไกลนะ และหัวเราะ เราก็หัวเราะแห่ะๆ ด้วย (แต่มันคือความจริงโง้ย ขนาดมาถึงที่นี่ก็ยังหมด)
สรุปปฏิบัติการ
ของหมดตั้งแต่เมืองไทย ยันอเมริกาครับ
แต่การลุยครั้งนี้ทำให้ได้เดินไปในที่ๆ ไม่เคยไปของโตเกียว และซีแอทเติ้ลมากมาย แถมได้เรื่องดีๆ เทคนิคดีๆ มาแชร์ให้พวกเราด้วย
เอาล่ะ หวังว่าจะเป็นข้อมูลสำหรับหลายๆ คนที่ผ่านมาเจอเรื่องที่แชร์นี้ด้วยนะครับ
ฝากติดตามแฟนเพจด้วยนะ ถ้ามีคำถามอะไรคุยกันในเม้นได้ครับ
