ทำไงจะมีสมาธิ ? พลังแห่ง Deep Work ในโลกที่ Distraction มันเยอะไปหมด

Kamin Phakdurong
Product Mixtape
Published in
2 min readOct 28, 2022

ปัจจุบันพอแก่ขึ้น ภาระหน้าที่เยอะขึ้น หลายทีจะพบว่าตัวเองทำงานจำพวก Deep Work ได้ยากขึ้น‍

ปล. สำหรับใครที่ไม่คุ้นกับคำนี้ ถ้าเอาตาม Definition ของหนังสือ Deep Work โดย Cal Newport มันคืองานที่ “Cognitively Demanding” คือใช้สมอง ใช้โฟกัสเยอะ และแอบต้องอาศัยการเข้าถึง State ที่ No distraction (Ideally) ถึงจะทำได้ดี ซึ่งจะตรงกันข้ามกับ Shallow Work อันได้แก่พวก Logistical Tasks หรือ Busy Works ที่ไม่อาศัย Brainpower มากเช่น ตอบ Message อีเมล บลา ๆๆ

ซึ่งจริง ๆ ตัวเองเป็นคนที่อินเรื่องนี้มาก และพยายามจะจัดตารางตัวเอง (เท่าที่ควบคุมได้) ให้เอื้อต่อการมีเวลาสำหรับ Deep Work ให้มากที่สุด ซึ่งมันยากมากในโลกแห่งความจริง

อันนี้ไม่แน่ใจนะ แต่รู้สึกว่าส่วนใหญ่พวกกูรูที่แนะนำพวก Productivity Hack ฟีลแบบ จง Allocate เวลา Deep Works 4–6 ชม. ต่อวัน + Business Maintenance Works/Shallow Works 1–2 ชม.ต่อวัน นี่ผมนับถือมากเลยนะว่าทำได้ไง แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า เอ้อ+ ก็เอ็งเป็นนักเขียน เป็น Full-time Content Creators ซึ่งสามารถควบคุมเวลาตัวเองได้ 100% เลยพูดได้ไง (ซึ่งก็คงไม่จริงหรอก แต่อ้างไว้ก่อน)

ถึงอย่างนั้นก็มีความฝันว่าอยากจะทำให้ได้นะ การจัดตารางตัวเองเพื่อ Eliminate Interruption + Distraction ทั้งปวง เพื่อจะได้มีเวลาสำหรับ Deep Work

แต่ทุกวันนี้คือ ประชุมน้อยกว่า 3 ชม. ต่อวันก็เก่งแล้วจ้า บางวันประชุม Back-to-back ทั้งวัน เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนก็น่าจะเคยเจอ

เอ้า มาร้องคำว่า “แม่เจ้า” ไปพร้อม ๆ กัน

ทีนี้ ต่อให้เราจะมี Session สร้างงาน Deep Work น้อยขนาดไหน ไม่สม่ำเสมอขนาดไหน วันนี้ก็จะมาพูดถึง Trick ที่อาจจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ เพื่อดูสิว่า เอ๊ะ จะใช้เวลาเหล่านั้นให้มัน Impactful ที่สุดได้ยังไง

1. Brain Dump ก่อนเริ่ม Session

ข้อนี้รู้สึกว่าสำคัญ เพราะเมื่อไรที่เรากังวลมาก ๆ จะโฟกัสกับงานยาก ๆ ที่ต้องใช้สมาธิ Willpower และ Brainpower มันก็จะยากขึ้นเป็นทวีคูณ ส่วนใหญ่ผมจะเขียนทุกอย่างในกระดาษ, Notes ใน iPad, กระดาน, หรือ Post-its คือจะเป็นอะไรก็ได้แหละ ขอให้ได้เขียนออกมาก่อน จะเป็น To-dos/Might-dos เป็น Event ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ จะเป็น Information ที่ได้จากการประชุมที่เพิ่งเสร็จไป หรือจะเป็น Actionable Items ที่นึกออกว่าควรไปทางไหนต่อ คือขอให้เขียนมันออกมาให้หมด

บางทีเขียนออกมาเสร็จก็ยังไม่สาแก่ใจ ไม่หายกังวล ผมก็จะจัด Group ต่ออีกนิดนึง (ถ้าเป็น Post-its ตรงนี้ก็จะง่าย) โดยอาจจะจัดเร็ว ๆ ว่า Items ไหนคืออันที่เราต้อง Concern ในวันนี้จริง ๆ หลังจากที่เราทำ Deep Work Session เสร็จ (ซึ่งของอะไรพวกนี้แหละ ที่มันจะคอยสะกิดกวนใจเราตลอด) อาจจะแพลนเพิ่ม แตกงานเพิ่มอีกหน่อย คร่าว ๆ แล้วลองใส่ Calendar ดูเพื่อให้รู้สึกว่า เห้ย มันได้รับการ Handled เรียบร้อยแล้วนะ อย่างน้อยมันก็ถูก Timebox ไว้ ส่วน Item อื่น ๆ ที่ยังไม่จำเป็นต้อง Concern ในวันนี้ เดี๋ยวเราวางไว้ก่อน แหม่ ก็มันยังไม่ต้อง Concern ในวันนี้อย่างที่บอกนี่นา

2. หา Way ในการ Transition เข้าสู่ภาวะ Deep Work

ส่วนใหญ่ผมจะ “เดิน” ผมว่าการเดินนี่คือมันคือ The Lost Art ของโลก Modern เลยนะ โดยเฉพาะบางทีที่เรา Work From Home ส่วนตัวพอยิ่งงานเยอะ และเรากังวลว่า เห้ย เวลายิ่งน้อย ๆ อยู่ การจะเดินออกไปข้างนอกซัก 5 นาที 10 นาทีนี่มัน Feel Like Eternity ซึ่งพอมาคิดจริง ๆ ก็แบบ เว่อไป๊! เอาจริง ๆ ถ้าการไปเดินเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อพาให้ตัวเองเข้าสู่ Flow ในอีก 1 ชม. ข้างหน้าได้ แค่นี้ก็คุ้มแล้วเพื่อน!

Key สำคัญอย่างนึงคือ เราต้องออกไปเดินโดยที่ไม่เล่นมือถือ หรือ Consume อะไรเข้าหัว ซึ่ง Condition เนี้ย บางทีมันยากกว่าที่คิดนะ (หรือมันยากกับฉันคนเดียวนะ) จริง ๆ อาจจะไม่ต้องเป็นการเดินก็ได้นะ เพื่อน ๆ อาจจะลองหาดูว่ามันมี Ritual อะไรที่มัน Work กับตัวเอง ถ้ามีอะไรแนะนำก็อย่าลืม Share กันได้นะครับ

3. Setup ให้มัน Distraction-free เท่าที่จะทำได้

เอามือถือไปเก็บ ปิดหน้า + Tabs บ้าบอที่ค้างอยู่เต็มไปหมด (จะ Save ก็ Save ไม่งั้นก็ปิดไปเลย) พวก Messaging Apps ปิดให้หมด ถ้าใครอยู่ใน Office ที่มีคนเต็มไปหมด บางคนเขาแนะนำให้ทำป้ายบอกเลยว่ากำลังโฟกัสอยู่ ไม่งั้นก็ใส่หูฟัง Noise-cancelling เพื่อเป็นอันรู้กันว่าอย่าเพิ่งยุ่ง

No Interruption

No Distraction

No Multi-tasking

แล้ว… ทำงาน ทำงาน ทำงาน!

สุดท้ายคิดว่าการทำ Deep Work ได้อย่างน้อยซักช่วงหนึ่งของวัน จะยาวจะสั้น มันก็เป็น Rewarding Experience ที่เราควร Appreciate มันอยู่ดี ที่รู้สึกอีกอย่างคือ เราควรจะพักผ่อนเพื่อจบวันจริง ๆ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ Unplug ได้ขนาดนั้น หรือบางทีก็ประชุมไปถึง 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม แต่ถ้าหลังจากนั้นก็จะพยายาม Unplug อย่างจริงจัง เพราะไม่งั้นมันจะเข้าสู่ Deep Work ได้ยากขึ้น

ยังไงผมก็ว่าหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์นะครับ ถ้าเพื่อน ๆ มี Tips & Tricks อะไรก็แชร์กันได้ เพราะส่วนตัวเราก็พยายามจะหาทางจัดการชีวิต จัดการงาน จัดการ Business ต่าง ๆ ที่มีให้อยู่หมัด เพื่อที่จะสามารถ Allocate เวลาสำหรับ Deep Work ได้มากขึ้น ถ้าใครอินเหมือนกันก็… เอ้า มาลุยไปด้วยกัน!

Originally published at https://www.productmixtape.com.

--

--

Product Mixtape
Product Mixtape

Published in Product Mixtape

🤫Talk #Tech #Product and #Design . 🌟by @kaminprocess Engineer & designer from MIT. Co-found LOOK ALIVE Studio. Teach at Carnegie Mellon Thailand

Kamin Phakdurong
Kamin Phakdurong

Written by Kamin Phakdurong

Co-founder at LOOK ALIVE Studio (MIT based Startup) and a band member of The Dai Dai (Genie Records)