“Design is art applied to problem-solving” — ความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำว่า Design

“Design is art applied to problem-solving” — Dylan Field (Co-founder + CEO of Figma)‍

เมื่อวานนี้ ผมนั่งตรวจงานน้อง Designer ในทีมจนตาแทบถลน (อีกแล้ว) ซึ่งจะว่าไปทุกอย่างก็ดูปกติดี UI Pattern อะไรก็ถูกต้อง แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันยังขาดอะไรบางอย่าง รู้สึกว่ามันขาดเสน่ห์ที่จะทำให้ User อยากใช้…‍

จนกระทั่งผมไปนึกถึงคำพูดของ Dylan Field ที่ได้ฟังจากคลิปล่าสุด เขาบอกว่า “Design is art applied to problem-solving” ผมเลยลองเอาประโยคนี้ไปแชร์ให้น้องๆ ในทีมฟัง

ทันทีที่พูดจบ น้องๆ ก็ทำหน้างงๆ พร้อมกับบอกว่า “พี่ อันนี้ Deep ไปมั้ย?” เอ็นดู!

บางทีเราอาจจะคิดว่า Definition หรือคำนิยามเป็นแค่อะไรน่าเบื่อๆ ที่ไกลตัวและไม่เกี่ยวกับการทำงานจริง ต่อให้นั่งท่องคำจำกัดความของคำว่า Design ไปก็ไม่ได้ช่วยให้งานดีขึ้นมาซะหน่อยใช่ไหมหล่ะ!?

เอาจริง อาจจะไม่เสมอไป เพราะ Definition ที่ดีสามารถช่วยให้เราเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างได้ลึกซึ้งขึ้น โดยเฉพาะ:

• What we’re trying to do
• Why we do it
• และ How we’re going to approach this

นี่คือเหตุผลที่ผมชอบ Definition ที่ Dylan ให้ไว้เป็นพิเศษว่า Design = Art + Problem-solving มันทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า Design ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว‍

Solution ที่เน้นแต่ความสวยงาม อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ในขณะที่ Solution ที่แก้ปัญหาอย่างเดียว ก็อาจจะไม่มีใครอยากใช้ (โดยเฉพาะในโลกที่ Product แข่งขันกันแรงแบบทุกวันนี้)

‍

สรุปง่ายๆ คือ Design ที่ดีมันต้องทั้ง “เวิร์ค” และ “โดน” ไปพร้อมๆ กัน!

‍

ท้ายที่สุด Dylan เองก็บอกว่า Definition นี้เขาได้ยินมาจากคนอื่นอีกที ซึ่งมันก็น่าสนใจดีว่า Idea หลายๆ อย่างมันถูกส่งต่อกันไปเรื่อยๆ แบบ Organic จนกลายเป็นแนวคิดที่มีอิทธิพลในวงกว้างได้อย่างคาดไม่ถึง นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทุกวันนี้ยังเขียน Blog อยู่

แล้วเพื่อนๆ หล่ะ คิดว่า Design คืออะไร? มี Definition ไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหม? ลองแชร์มุมมองของคุณดู บางทีมันอาจจะช่วยจุดประกายความคิดใหม่ๆ ให้กับคนอื่นๆ ก็เป็นได้นะ เอ้อ