ตามล่าหา TOKYO TOWER

#ไปโตเกียวเที่ยวให้คุ้ม

หลายๆคนเคยไปญี่ปุ่นกันมาหลายครั้งแล้วละ

ปุ๋ยก็ไปมา 3–4 รอบแล้วค่ะ แต่ไม่เคยไปเที่ยวโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่างเป็นจริงเป็นจังเลยซักครั้ง ส่วนใหญ่จะไปแบบผ่านๆ แบบอยู่โตเกียวไม่กี่วัน แล้วย้ายไปเมืองอื่นต่อ เช่นเกียวโต โกเบ

รอบที่ผ่านมาเป็นช่วงซากุระพอดี เลยอยากลองเที่ยวโตเกียวแบบเป็นจริงเป็นจังซักที เพราะเมืองใหญ่ๆอย่างนี้ จริงๆมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะเลยนะ

รีวิวนี้ก็เลยจะลงลึกไปอาทิตย์ละย่านค่ะ ไม่ว่าจะที่เที่ยว ที่กินห้ามพลาด และมุมถ่ายรูปที่ต้องไปถ่าย เตรียมพร้อมสุดๆ คือไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เที่ยวนะ ให้กลัวว่าจะเที่ยวไม่ทันดีกว่า (ฮ่าาาา) เดินจนขาลากทุกวัน (นี่ยังไม่นับช๊อปปิ้งนะ)

สำหรับรีวิววันนี้เป็นไปตามล่าหามุมถ่าย Tokyo Tower กินหม้อไฟเมนไทโกะ ตามรอยเดินตามได้ใน 1 วันเลย

.

.

.

ในทริป ปุ๋ยใช้กล้อง Sony A7iii เลนส์ 90mm f2.8 ทุกรูปแต่งด้วย Lightroom อีกทีค่ะ

— — — — — — — — — — — — — — — —

รอบนี้เราไปโตเกียวทั้งหมด 15 วัน มีแวะไปภูเขาไฟฟูจิกับคามาคุระ 3 วัน นอกนั้นคืออยู่โตเกียวทั้งหมดเลย

แพลนวันนี้เหมือนที่บอกตอนแรกว่าจะหาจุดถ่ายรูป Tokyo Tower ค่ะ วันนี้เราจะไป 2 ที่หลักๆ คือ World trade center เลยกับ Mori Arts Center แต่ก็อยากหาของอร่อยๆกินด้วย งั้นจะไปตั้งหลักที่ Tokyo station ก่อนค่า

Tokyo Station เป็นสถานีที่สวยมว๊ากกก
เสียดายตอนนั้นเลนส์ที่มี มีแต่ 90 mm เลยไม่สามารถเก็บภาพ wide ได้ แล้วก็ลืมงะ มือถือก็ถ่ายได้มะ

แต่จริงๆนะ ประเด็นที่มาที่นี่คือ ของกิน!!

ที่สถานีโตเกียวมีของกินเยอะมวากกกก แค่เดินที่นี่จะให้ทั่วๆนี่ก็เผื่อเวลาไว้ครึ่งวันได้เลยค่ะ ใครเป็นสาวกมังงะ อาจจะถูกใจที่นี่กันหลายคน มีทั้ง

• DONGURI REPUBLIC ร้านขายของจิบลิ
• JUMP SHOP สินค้าจากการ์ตูนชื่อดังของ Jump
• Glicoya Kitchen ร้านขายขนมกูลิโกะ
• Kantarou ร้านซูชิชื่อดังจากฮอกไกโด
• Tokyo Ramen Street ถนนที่รวบรวมร้านราเมนหลายสิบร้านไว้ในที่เดียวกัน

• Press Butter Sand

จริงๆเราไม่รู้จักร้านนี้เลยค่ะ แต่เห็นคนต่อแถวเยอะมากกกตอนไปถึงเช้าๆ พอตอนเย็นแถวสั้นลงเลยไปต่อมั่ง 555+ จนมารู้ทีหลังว่าเห้ยยย เค้าดังนะ ซื้อมากล่องนึง กรอบอร่อยหอมๆ ถ้าผ่านแล้วคนไม่เยอะมากก็ไปต่อก็ดีค่ะ ร้านตรงข้างอีกร้านนึงก็เหมือนว่าจะดัง จำชื่อไม่ได้ ของดีจนขายหมดก่อนปิดร้านเลยน่ะ

• Calbee+

เค้ามีทำมันฝรั่งทอดแบบสดๆ ซึ่งของสดอร่อยกว่าแบบแพ็คกล่องเยอะเลย มีหลายเมนูมากๆ ปุ๋ยกินมันฝรั่งทอดราดช็อคโกแลตกับไอศกรีมค่ะ รสชาติจะเค็มๆมันๆกินแล้วหยุดไม่ได้อ่ะ มือเลอะด้วย ฮ่าา จริงๆอยากกินมากกว่านี้นะ แต่พุงไปแตกที่ร้านถัดไป

• Fukutake
  ร้านนี้เราตามรอยเพจ Travel Kanuman มาค่ะ หาอยู่นานมากกก เราแวะกลับมากินตอนขากลับตอนกลางคืน ตอนไปถึง คนยังไม่ต่อแถวเลย นึกในใจจะอร่อยหรอ(วะ) พอแป๊บนึงคนต่อยาวมาก ขนาดเราไปตอน 2–3 ทุ่มนะ และนี่คือการตัดสินใจที่ดีสุดของทริปนี้ค่ะ

เมนูหลักคือหม้อไฟไข่ปลาคอด หรือเมนไทโกะ (ซึ่งเราอ่ะชอบไข่ปลาคอดอยู่แล้ว) และที่นี่เค้าเลือกความเผ็ดได้ จำได้ว่าเราเลือกเผ็ดสุด และมันก็เผ็ดจริงๆนะ อร่อยมว๊ากกกกกก ซี้ดซ้าด ตอนแรกกินเหมือนชาบูไปก่อน แล้วน้ำซุปจะข้นเรื่อยๆจากไข่ปลาคอดค่ะ พอใกล้ๆหมดหม้อ พนักงานแนะนำให้เอาข้าวใส่โปะลงไปทำเป็นข้าวต้ม ตอนแรกน้องสาวบอกอิ่มๆ ไม่ๆๆ ตอนหลังนี่ก็ไม่ ไม่วางช้อน!!!

ปลาดิบก็สด ข้าวหน้าปลาคอดก็อร่อย นี่คือ Recommend มากๆ ใครไปต้องมาร้านนี้นะคะ ห้ามพลาด โคตรอร่อยยยยย ถ้าไปโตเกียวอีกนะ นี่คือร้านที่เราจะเก็บลิสต์พุ่งตัวไปอันดับแรกเลย

ความปลาบปลื้มปริ่มเปรมใจให้ 500 ดาวพอๆกับ Houto Labo ที่คาวากูชิโกะ

ออกมาด้านนอกมีขายขนมปังใส่ไส้แพนด้า รสชาติเฉยๆ แต่อยากอวด น่ารัก 5555+

จากสถานี Tokyo Station เราจะเดินไปที่พระราชวังโตเกียวอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace) ได้ค่ะ เหมือนที่นี่เค้าจะมีทางเข้าออก 2 ทางนะคะ จากทางเข้า เราเดินหาอาคารพระราชวังอยู่นานมากกกก มันใหญ่มากจริงๆนะ

หน้าทางเข้ามีผู้พิการทางสายตามาฝึกวิ่งมาราธอนด้วย เยี่ยมมากๆ

ทีเด็ดของที่นี่คือ สวนตะวันออก
ใครชอบความเขียวนะ ที่นี่สวยพอๆกับที่โยโยงิเลย (Yoyogi Park)

ช่วงปลายมีนาเป็นช่วงซากุระพอดี อากาศเย็นๆ ดอกไม้ที่นี่ก็สวยนะคะ

สำหรับคนที่ต้องการมาชมสะพานและรูปปั้นซามูไรเท่านั้น สถานี Nijubashi-Mae จะใกล้ที่สุดให้ออกที่ทางออก 2

ถ้ามาจาก Tokyo Station เหมือนเรา คือต้องเดินจากประตูนึงมาโผล่อีกประตูนึงค่ะ

ที่นี่จะเปิดตั้งแต่เวลา 9:00–16:30 ควรเข้าชมก่อนเวลาปิด 30 นาที และปิดทำการ: ทุกวันจันทร์ และวันศุกร์ ค่ะ แต่ถ้าอยากได้แค่รูปสะพานก็ไม่ต้องเข้าไปก็ได้ค่ะ รูปนี้ถ่ายหลังจากออกมาจากพระราชวังแล้วค่ะ

ไปเดินเล่นในโตเกียว มองไปตรงไหนก็เห็นอาคารเท่ๆไปหมด ในสถานะของเด็กที่จบถาปัตย์มา ก็อดที่จะมองหาตึกสวยๆไม่ได้ แต่หลายๆที อาคารที่สะดุดตาเรา กลายเป็นตึกสี่เหลี่ยมๆ ธรรมดา ที่ไม่ใช่ทรงอาคารหวือหวา เป็นทรงอาคารที่ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด และเป็นทรงออกแบบที่ง่ายที่สุด บางทีแค่เราเปลี่ยนสี ปรับวัสดุ มันก็เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยได้นะ ของสวยไม่จำเป็นต้องเรียบง่าย แต่ของเรียบง่ายมักจะสวยอ่ะเนอะ

นั่งรถไฟไปที่ World Trade Center ต่อ

จริงๆที่นี่อยู่ใกล้กับตลาดปลาสึคิจินะคะ (Tsukiji Market) แต่รอบที่แล้วเคยไปแล้วก็เลยไม่ได้ไป แต่ใกล้ๆกับที่นี่ ถ้ามาวันเสาร์อาทิตย์ จะมีถนนคนเดิน เวลา 12.00–17.00 น. ด้วยนะคะ

วิธีเดินทางคือ ลงที่สถานี Daimon Station เดินไปนิดนึงก็ถึง World Trade Center แล้วค่ะ ขึ้นไปถ่ายรูปที่ตึกนี้มีค่าขึ้นด้วยนะ

วะฮ่าๆๆ เป็นไงล่า มุมเดียวกับเหล่าช่างภาพใน IG มะ (รู้สึกประสบความสำเร็จ) แต่ถ่ายให้สวยๆแอบมีความยากนิดนึง ผิดที่มือเรานี่แหละค่ะ กล้องมันหนัก มือสั่น ต้องกลั้นหายใจเวลากดชัตเตอร์นะ เห็นหลังคาศาลเจ้ามั้ยคะ เดี๋ยวเราเดินไปที่นู่นกันค่ะ

นอกจากโตเกียวทาวเวอร์ ยังมีวิวอื่นๆให้ถ่ายเจาะเล่นๆด้วยนะ

จาก World Trade Center เราจะเดินไปที่วัด Zojoji กันค่ะ (Zojoji Temple) ปุ๋ยเคยมารอบนึง แล้วถ่ายโตเกียวทาวเวอร์ผ่านมือถือ รอบนี้เลยว่าจะแก้มือด้วยกล้อง

ที่วัดนี้จะมีรูปปั้นพระเด็กค่ะ น่ารักดีนะ ชอบตรงเค้ามีถักหมวกโครเชต์ให้

เดินไปข้างๆวัดจะมีถนน ตรงนี้แหละ เคยถ่ายจากมือถือแล้วสวยนักแล

ปรากฎด้วยความตอนนั้นยังมือใหม่ ใช้กล้องไม่เป็นนะคะ พกเลนส์ 90 mm ไป ระยะมันโคลสอัพมากๆ เลยหามุมทะลุพุ่มไม้แล้วเห็นโตเกียวทาวเวอร์เต็มตัวไม่ได้เล้ย แห้วไปตามระเบียบ แต่ไฟล์ภาพก็ละเอียดกว่ากล้องมือถือเยอะ ไว้คราวหน้าจะมาแก้มือใหม่

ทำดีที่สุดแล้ว สู้ต่อไปนะทาเคชิ!! // ตบบ่า

มิชชั่นต่อไปคือไปเก็บภาพจากรูปถ่ายใน IG (อีกละ)

National Art Center

ถ้าใครชอบสถาปัตยกรรม อยากให้ลองมาเดินเล่นที่นี่ดู ตึกเค้าสวยมากๆ กระจกทำให้มีแสงจากข้างนอกเข้ามาข้างใน และโครงเหล็กก็ทำให้เกิดเงามิติกับพื้นที่ภายใน ตอนมาถึงคือใกล้จะหมดเวลาแล้ว เดินได้แป๊บนึงจริงๆ เห็นว่ามีคาเฟ่ตรงกลมๆที่อยู่ตรงกลางด้วย — ถ้าใครมีเลนส์ wide นี่รับรองถ่ายรูปสนุก ตอนนั้นเรามีแค่เลนส์ 90 mm ตัวเดียวเอง เลยใช้โหมด wide จากมือถือ Samsung Galaxy จ้า

ประเด็นที่แท้จริงคือ อยากมากินข้าวหน้าไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลมอนหม้อดินแถวๆนี้ ชื่อร้าน Uoteru แต่เหมือนตอนที่ไปคือร้านปิด เอ้ออออ

และตามรอย Tokyo Tower ที่สุดท้ายกับ Mori Arts Center (มีค่าขึ้นนะคะ)

ในหลายๆที่ของตึกสูงพวกนี้ เค้าจะห้ามไม่ให้ใช้ขาตั้งกล้องนะคะ และบางที่ก็ไม่ให้ใช้ผ้าดำด้วย (อาจจะงงว่าเอาผ้าดำไปทำไม ตอนแรกปุ๋ยก็ง๊งง ไปถ่ายแล้วถีงบางอ้อ — เวลาถ่ายรูป เราต้องถ่ายผ่านกระจกค่ะ ทำให้เกิดเงาบนรูปภาพค่ะ สงสัยใช่มะ ว่าทำไมของปุ๋ยไม่เห็นมีเงาเลย โอ๊ยยย แต่งรูปจาก LR สิคะ ถมดำตรงท้องฟ้าเกือบหมด ไม่งั้นจะเห็นเงาหัวคนลอยไปมา)

ส่วนเรื่องขาตั้งกล้อง ยังไงก็ให้พกไว้ก่อน บางที่ถ้าเค้าไม่ห้ามจะทำให้การถ่ายรูปกลางคืนสบายและสวยมากขึ้นอีกเยอะ แต่ตอนนั้นปุ๋ยไม่มีงบขาตั้งกล้องค่ะ มือล้วนๆ แก้โดยการหาที่ตั้งกล้อง และกลั้นหายใจถ่าย 5555+

แต่ถ้าอยากได้ไฟเป็นเส้นๆ ก็หาที่วางค่ะ แล้วกดถ่ายควบคุมชัตเตอร์จากมือถือเอา มีขาตั้งกล้องก็สะดวกกว่าแหละ แต่ถ้าไม่มีก็ใช่ว่าจะไม่ได้รูปสวยๆนะ

จากตรงนี้มองไปเห็นชิงช้าสวรรค์ที่โอไดบะเลย

ใครอ่านจบถึงตรงนี้ยกมือขึ้น!! แล้วเจอกันใหม่อาทิตย์หน้านะคะ จะมารีวิวที่เที่ยวและร้านอร่อยเด็ดในแต่ละย่านของญี่ปุ่น เอาให้เดินไปแต่ละที่ เดินกันให้คุ้มไปเล้ย!