ISTANBUL โอ้โหวตุรกี — เที่ยวแบบเจ้าถิ่น กินแบบเจ้าถิ่น EP.1/4
ตุรกีปลูกทิวลิปเยอะอย่างกับปลูกเฟื่องฟ้า
บุกมหาวิทยาลัยติด Top 500 ของโลกในตุรกี
เดินเล่นปราสาทริมน้ำ
อิสตันบูลเป็นเมืองที่ใหญ่มาก
ถ้าอยากจะเก็บให้ครบทั้งเมือง เที่ยว 10 วันก็ไม่หมด
เราเลยแยกออกมาเป็นทั้งหมด 4 ep.
โดยรวมสถานที่ใกล้กันไว้แยกไว้ในแต่ละตอน
เวลาเที่ยวตามแพลนจะได้ง่ายๆค่ะ
เริ่มตอนแรกกันแบบชิลๆกันก่อน
ตอนนี้ ถ้าเดินกันแบบเร็วๆ วันเดียวก็เดินได้แล้วนะ
แต่ถ้าอ้อยอิ่งแบบเราก็จะได้ประมาณวันครึ่ง — 2 วันค่ะ
***สำคัญมาก***
ใครอยากถ่ายทิวลิป ให้มาช่วงกลางเมษา — ปลายเดือนเมษานะคะ
เราตั้งใจมาตุรกีช่วงเดือนนี้เพื่อทิวลิปโดยเฉพาะเลยล่ะ
เพราะช่วงนี้เป็นหน้าของทิวลิป แถมอากาศยังเย็นสบาย (ค่อนหนาว)
ในทริปเราใช้กล้อง Sony A7iii
เลนส์หลัก 90mm f2.8 และ 16–35 f4 เป็นบางคราว
รูปไหนไม่คม รูปนั้นคือ Huawei P30 pro 55555+
ทุกรูปแต่งด้วย Lightroom อีกทีค่ะ
เอ้า พร้อมแล้วก็สะพายกล้องไปกันเล้ย
ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ไปทักทายคุยกันได้ที่หน้าเพจนี้นะคะ
https://www.facebook.com/puiisjourney/
ตอนนี้มีโปรโมชั่นเที่ยวบินตุรกี ไป-กลับ อยู่ประมาณ 17,xxx บาท
รวมช่วงเดือนเมษายนไปด้วย
สวยๆ แบบนี้รีบไปจองตั๋วกันเลยนะ
ตอนเราไปนี่ เจ็บใจ จ่ายไป 22,xxx
ถือเป็นความโชคดีของเรา
เพราะเจ้าถิ่นตุรกีทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัย Boğaziçi
ที่ติดอันดับ 25 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในตุรกี
เลยได้เดินเล่นข้างใน และดูกิจกรรมของนักศีกษาที่นี่ด้วย
1 ในนั้นคือ ดูละครเพลงนี่แหละ
สายการบินไปกลับ เราขึ้น Air Astana ค่ะ
มีแวะพักคาซัคสถานตอนขากลับ 1 วันด้วย
เคยมีรีวิวทริปทรานสิทแล้วนะ ตามลิงค์นี้เลยจ้า
ตอนไป เรานั่งเครื่องฝั่งขวามือนะคะ
จะเห็นเทือกเขาตอนบินผ่านแถวๆประเทศจีน
สวยมากๆ จริงๆฝั่งซ้ายน่าจะดีกว่านะ
เพราะตอนดูในแผนที่บนเครื่อง จะเป็นเทือกเขาและทะเลสาปที่ยาวกว่า
วันก่อนหน้าที่เราไปอิสตันบูลประมาณ 2 วัน
อยู่ๆก็มีประกาศว่าปิดสนามบินเก่า และให้เราไปลงที่สนามบินใหม่แทน
เราช็อคมากเลยค่ะ โชคดีที่เจ้าถิ่นก็ตามข่าวเหมือนกัน
เค้าเลยเตือนเราก่อน ตอนเราไปถึง มีคนไทยหลายคนเลยที่งงว่าตัวเองมาลงในสนามบินใหม่ เพราะไม่ได้รับแจ้ง
ตอนไปถึง เราเดินออกนอก ตม มาแบบงงมากๆ
เพราะต้องหารถเข้าเมือง
แล้วอยู่ๆก็มีหนุ่มตุรกีหน้าตาดี เดินเข้ามาหาเราเลย
ยื่นนิตยสารให้ แล้วถามแบบเฟรนด์ลี่มากว่า เพิ่งมาอิสตันบูลหรอ
ชวนเราคุยนั่นนี่ บอกว่าที่นี่คือสนามบินใหม่นะ
ไม่มีรถเข้าไปในเมืองหรอก เค้ามีรถพาเข้าอยู่นะ
แล้วแบบหน้าตาดีไง เกือบเคลิ้มละ จนเค้ามาจับกระเป๋าลากของเรา
เราชะงักแล้วพูดเลยว่า NO! แล้วเดินหนีค่ะ
เดินไปหาเจ้าหน้าที่ที่ใส่ยูนิฟอร์มเลยว่า จะหารถเข้าเมืองได้จากไหน
เจ้าหน้าที่จะช่วยเราบอกด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นว่า
ให้ลงไปข้างล่างนะ เจอประตูเลี้ยวขวา จะเจอตู้สำหรับขาย Istanbulkart และรถบัส
**สำคัญมากๆ เวลาเจอคนแปลกหน้า
ถ้ารู้สึกไม่ปกติ ให้บอกปฎิเสธและเดินหนีไปเลยนะ
ต่อให้หน้าตาหล่อเหลาดูเป็นนายแบบขนาดไหนก็เถอะ**
บัตร Istanbulkart ราคา 10 TL เป็นค่าบัตร 6 TL เหลือเงินในบัตร 4 TL
สามารถซื้อได้จากสนามบินเลย ตอนนั้นเราจ่าย 50 TL แชร์กับพี่อีกคน
บัตรใบนีงสามารถใช้ร่วมกันได้ 5 คน ตอนแรกเราทำแบบนั้นนะ
แล้วเจ้าถิ่นมาบอกทีหลังว่า ให้แยกกันใช้คนละใบ เพราะถ้าเกิดเราต่อหลายสายใน 30 นาทีหลังรูดบัตร ค่าโดยสารมันจะลดราคาไปเรื่อยๆจ้า
ตัวบัตร ครอบคลุมหมด รถต่อเรือ เรือต่อรถไฟ ดีจริมๆ สบาย รูดปรื้ดๆ
บุกมหาวิทยาลัยเจ้าถิ่นตุรกี Boğaziçi University
เนื่องจากเราพักที่บ้านเพื่อนของเจ้าถิ่นตุรกี
แล้วทั้งคู่ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัย Boğaziçi University
เราเลยมีโอกาสเข้าไปเดินเล่นดูชีวิตของเด็กมหาวิทยาลัยในนั้น
ก่อนเข้าไป ก็เดินเล่นรอบๆ ก่อนนะ
แถวนี้มีหอพักเยอะ และด้วยความที่ภูมิประเทศเค้าเป็นเนินเขา
ไม่ใช่พื้นเรียบ เวลาเดินนี่ฝึกกล้ามขากันหนักมากอ่ะ
ตรงนี้คือทางลาดเรียบ เดินวันแรกๆนี่ไม่ถนัด กลัวไถลมาก หลังๆชิน
ถึงสามารถไปเดินเขาที่คัปปาโดเกียได้นาน 5 ชั่วโมงไง
ใครยังไม่อ่านรีวิวคัปปาโดเกีย ตามได้ที่ลิงค์นี้เลยนะ
https://bit.ly/2KvYX9w
เค้าบอกตุรกีเป็นถิ่นของแมว แมวเยอะจริงๆ และน่ารักมากด้วย
คือไม่ให้เยอะได้ไง คนตุรกีเป็นมิตรกับสัตว์และสิ่งมีชีวิตมาก
ถึงขนาดเอาอาหารแมวใส่ไว้ในถาดตรงป้ายรถเมลล์
แล้วแมวที่นี่ก็คุ้นเคยกับคนมาก
เราไปนั่งรอตรงป้ายรถเมลล์ น้องแมวก็จะเอาตัวมาชนๆ
นอกจากเป็นแหล่งรวมน้องแมวน่ารัก ยังเป็นแหล่งรวมคนหน้าตาดีย์อีกโด้ยยยย
กรี๊ดดดด รถเมลล์ที่นี่ช่างดี
ดึงสติกลับมาเดินถนนต่อ
เดินๆผ่าน ได้ยินเสียงคนเคาะกระจก
มองไปเห็นผู้หญิงคนนึงเคาะอยู่ เราก็ตกใจเค้าเป็นอะไร
อ๋อ เค้าแค่อยากให้เราถ่ายรูปเค้าอ่ะ
เราว่าคนตุรกีชอบให้คนอื่นถ่ายรูปตัวเองนะ
ประมาณ ช่วยเอาเลนส์มาจ่อชั้นที~
ร้านขายของชำ มีตู้ขายโยเกิร์ตใหญ่ขนาดนี้!!
เครื่องดื่มโยเกิร์ต หรือ Ayran (อัยราน)
คนที่นี่กินกันแทนน้ำเปล่าเลยอ่ะ เราเป็นคนชอบโยเกิร์ตมากนะ ก็เลยลองชิม
หน้าเบ้เลยจ้า คือมันเค็มอ่ะ ไม่ชิน ส่วนใหญ่โยเกิร์ตบ้านเราจะติดหวานใช่มะ
แล้วก็เห็นเจ้าถิ่นดูดเอาๆ เราเซย์บายไป 2–3 รอบ
ต่อมาไปกินที่ร้านเคบับร้านนึงตรง Besiktas (ย่านนี้เดี๋ยวจะมีรีวิวใน ep ถัดไปนะคะ) เหมือนเค้าทำโฮมเมด ดูน่ากิน
ข่มใจกินอีกรอบ เออ ไปๆมาๆก็อร่อยแฮะ
สุดท้ายไม่รู้มันอร่อยจริง หรือหลอกตัวเอง 5555+
แวบมาให้ดูซุปเปอร์มาร์เก็ต เราเดินหาซื้อผักจะเอาไปทำผัดมาม่าให้เจ้าถิ่นและผองเพื่อนกิน เจอผักกาดขาวใหญ่เบิ้มขนาดนี้ อู้หูว
มีเวลาอย่าลืมไปเดินซุปเปอร์ของสด มีของแปลกๆเพียบ
เราตื่นกันสายๆ แล้วเดินหาของกินมื้อเช้าก่อนเข้าไปข้างในค่ะ
จริงๆมีหลายร้านมากนะ เพราะเราทยอยกันเก็บให้ครบทุกร้าน
เราว่าแถบๆมหาวิทยาลัยเป็นแหล่งของกินที่ถูกและอร่อยอย่างดี
สำหรับใครอยากลองร้านอาหารที่คนท้องถิ่นกินกัน
เราจะรีวิวของแต่ละย่านๆให้เลยจ้า
เจ้าถิ่นบอก เวลาออกจากหอพักมา
เดินหน่อย จะมีร้านอร่อยอยู่
แต่พอเราเดินมา มันมีหลายร้านเลยอ่ะ เลือกไม่ถูก เลยสุ่มไปทีละร้าน
ร้านแรก เหมือนร้านขายข้าวแกง
ต่อไปคือร้านสเต็กแบบ local ซึ่งเราว่าอร่อยดีเลยแหละ
ราคาแรงนิดนึง เพราะปกติเราจะกินกันร้านอาหารธรรมดา
แต่ร้านที่เจ้าถิ่นแนะนำคือร้านนี้ 5555+
เค้าจะถามทุกวันว่าวันนี้ไปกินร้านไหนมา
และคงเห็นว่าเดินไม่ถึงร้านที่เค้าแนะนำซักที เลยพามาเองซะเลย
เป็นร้านขนมปังค่ะ ข้างในมีไส้ แล้วแต่เลือก
ไส้ชีสอร่อย ไส้ช็อคโกแลตก็อร่อย แต่ไม่อิ่มอ่ะ
เค้ากินน้อย หรือเรากินเยอะ
.
.
ร้านต่อมา Domino’s Pizza
ใครกลัวมาที่นี่แล้วกินอาหารเค้าไม่ได้
ร้านอาหาร Fast Food คือคำตอบ
อย่าง Domino’s Pizza ก็จะมีขนมปังแบบนี้ที่บ้านเราไม่มี อร่อยกรอบกร๊วบ
หรือจะร้านแฮมเบอร์เกอร์ท้องถิ่น
ร้านอาหารมักมีชั้นสำหรับนั่งข้างบนอีกชั้น
ถ้าเดินเข้าไปแล้วเห็นเก้าอี้น้อยๆ ลองทำท่าชี้ไปข้างบน
เค้าอาจจะมีชั้นบนให้นั่ง แล้วบรรยากาศดีกว่าข้างล่างนะคะ
.
หรือจะร้านพิซซ่าท้องถิ่นข้างมหาวิทยาลัย อร่อยถูก
คือน้ำ lemon นี่ ถ้าไม่เห็นเค้าคั้นสด อย่าไปซื้อกินนะ มันไม่อร่อยเลยอ่ะ 555+
ร้านสุดท้าย Burgur King มีทุกสิ่งให้เลือกสรร
คือว่าเนื้อบ้านเค้าก็ไม่เหมือนบ้านเรา ก็ต้องลองชิมซักหน่อย
เบอเกอร์อร่อยสมชื่อ Burgur King
จำได้ว่าพี่ที่ไปด้วยสั่ง Chocolate Frappe รสชาติแปร่งๆ
หรือถ้าวันไหนแค่อยากกินอะไรง่ายๆ
Simit จากรถเข็นก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าลอง
แบบโปะชีสแผ่น แบบทานูเทลล่า จนไปถึงใส่ผักแบบแซนด์วิช
ทุกเช้าเราจะเดินผ่านคุณลุงขายสตรอเบอร์รี่
คุณลุงขายถูกมาก สตรอเบอร์รี่ตก กก. ละ 8 ลีล่า (48 บาท) เท่านั้นเอง
เลยเอาสตรอเบอร์รี่ที่ซื้อมาตะกี้เป็นพร๊อบซักหน่อย
เราเดินเล่นอ้อมรอบมหาวิทยาลัย
เจอบ้านนึงมีแมวเยอะมากๆๆ เลยถ่ายรูปไว้
เจอคุณยายเจ้าของบ้านโผล่มาต้อนรับพอดี
ชอบตรงที่เค้าปลูกต้นไม้เยอะมากๆ
แถมมีสวนหย่อมให้ไปถ่ายรูปเก๋ๆด้วยนะ
แผงผลไม้อันนี้เยอะแยะเลย
อยากกินหลายอย่าง ไม่ได้ถามราคาค่ะ แต่น่าจะไม่แพง
มองจากข้างนอกเข้าไปเห็นห้องสมุดมหาวิทยาลัยพอดี
ถ้าเดินไปข้างใต้ จะมีรถไฟใต้ดินด้วยนะคะ
สถานี Bogacizi Metro Station
ใครอยากถ่ายรูปแนวสตรีท ที่นี่เกร๋กู้ด ได้รูปไฟเท่ๆ 1 รูป
ย้อนกลับมาที่มหาวิทยาลัย
ที่นี่มีการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดีมาก
เพราะตรงประตูก่อนที่จะเข้าไปมหาลัย จะต้องรูดบัตรเข้าไปค่ะ
กรณีเราที่เป็นนักท่องเที่ยว ก็จะไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าไม่ได้รู้จักกับคนข้างในตอนแรกเราต้องเปิดลำโพงให้เจ้าถิ่นคุยกับ รปภ. ว่าจะให้เราเข้าไป
และแลกพาสปอร์ตไว้
วันหลังๆ พอจะเข้าไป เจ้าถิ่นบอกรหัสลับไว้ให้พูดคำว่า Cinema
พอทาง รปภ. ฟังปุ๊บ ก็ให้เข้ามาเลย (เอ้า ทำไมไม่บอกแต่แรกว้า)
ดังนั้น ใครอยากลองเข้าไปดูข้างในมหาวิทยาลัย
ลองพูดคำว่า Cinema นะ แล้วมาบอกด้วยว่าได้เข้าไปมั้ย
ด้านหน้าคาเฟ่ในมหาวิทยาลัย
ที่เราอู้หูว คือ โถน้ำตาลก้อน อันนี้
ที่นี่เค้ากินน้ำตาลกันเยอะจริงๆนะ
ตอนเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต เราเห็นกระสอบใหญ่แบบกระสอบข้าวบ้านเรา
แต่ข้างในคือน้ำตาลทรายแบบนี้ล่ะ เอาไว้ใส่ลงในชาร้อน
มีร้านขายขนมจิปาถะด้วย
เจ้าของร้านเหมือนเห็นเราเป็นต่างชาติ เดินถ่ายรูปไปมา
เค้าก็เรียกแบบ เฮลโหล๋วววว ถ่ายรูปให้ไอหน่อย
แล้วก็เรียกเพื่อนมาถ่ายร่วมเฟรมด้วยอีกต่างหาก
ในมหาวิทยาลัยใหญ่มากๆ
ชอบตรงที่มันเขียวและร่มรื่นมากๆ เดินถ่ายต้นไม้ดอกไม้สนุกเลย
ใช้เลนส์ 90 f2.8 นะคะ
อันนี้เราบุกเข้าไปในตึกทำงานของเจ้าถิ่นค่ะ คนอื่นอาจจะเข้าไปไม่ได้เนอะ
ถือว่าเก็บรูปมาฝาก เพราะเจ้าถิ่นดูแลด้านสิ่งพิมพ์ในมหาวิทยาลัยค่ะ
เจ้าถิ่นลองให้ชิมกาแฟตุรกี
โดยคุณป้าแม่บ้านเป็นคนทำให้ อร่อยมากๆๆ
ไปชิมที่อื่นก็ไม่อร่อยเท่าคุณป้าทำ คงแล้วแต่มือคนจริงๆ
หลังจากกินเสร็จ มีดูดวงผ่านคราบกาแฟให้อีกนะ
วิธีการดูดวงคือ เมื่อกินกาแฟเสร็จแล้ว ให้คว่ำแก้วไว้กับจานรอง
แล้วคุณป้าก็จะพลิกแก้วมาดูรอยคราบ
ทุกคนบอกคุณป้าดูแม่นมาก
เราแบบอู้หูว มันไม่มีหลักวิทยาศาสตร์อะไรมารองรับเลยนะ 5555+
โรงอาหารมหาวิทยาลัย จะมีอาหารโชว์ในตู้
แต่ละวันก็จะเปลี่ยนไป มีตัวอย่างให้ดู
ทุกคนก็จะมาส่องหน้าตู้ว่า เอ๊ะ วันนี้มีไรกินบ้าง
มีแค่ตามที่อยู่ในตู้ ไม่มีอย่างอื่นให้เลือก
จริงๆก็เลือกได้นะ เลือกว่าจะกิน หรือจะไม่กิน
ถ้ากินก็ไปต่อแถว
เราเดินเล่นจนเจ้าถิ่นเลิกงานประมาณ 5 โมง
แล้วเค้าก็พาไปร้านคาเฟ่ใกล้ๆค่ะ เป็นร้านเพื่อนเค้าเอง
เลยมีโอกาสได้ชิมไอติมตุรกีครั้งแรก
เพื่อนเจ้าถิ่นใจดีมาก ให้ชิมทุกรสที่อยู่ในตู้
เพราะเห็นว่าเราตะกละ 5555
สีฟ้าคือรสหวานๆ Candy Gum อะไรซักอย่าง
ตักมาทุกรส กินฟรีไม่เสียเงิน บอกแล้วคนตุรกีใจดี 555+
บางทีในมหาวิทยาลัยก็จะมีกิจกรรม
อันนี้คือแข่งขันวอลเล่ย์บอลระหว่างบริษัท และใช้พื้นที่สนามของมหาวิทยาลัย
คนมาเชียร์กันตรึมๆ
บางทีก็คิด คนที่นี่ทำงานกันชิลจัง
ผู้เข้าแข่งขัน มีลูกเมียมาเชียร์กันเต็มสนามไปหม
มีวันนึงที่มีละครเพลงในมหาวิทยาลัยค่ะ
เจ้าถิ่นชวนไปดู โชคดีมากๆ
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เด็ก 2 คนที่เข้าไปในเมืองที่ห้ามมีเสียงดนตรี
มีการประท้วง มีการสะท้อนวัฒนธรรมและสังคมที่เป็นอยู่
ไฟ บท คอสตูม มาเต็ม
ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ก็เดินรอบก็ได้นะคะ
แล้วเดินยาวไปที่ปราสาท Rumerlihisari ที่อยู่ริมน้ำแทน
จะมีป้ายเป็นระยะนะ
ถ้าเห็นสะพานนี้อยู่ใกล้ๆ แสดงว่าไม่ไกลแล้ว
Bosphorus Bridge
สะพานแขวนเชื่อมทวีปเอเซียและยุโรปเข้าด้วยกัน 4 กิโลเมตร
เขตพื้นที่นี้เรียกว่า Bebek ค่ะ
ดูเหมือนถนนสายนี้เป็นย่านของผู้มีอันจะกิน
มีคาเฟ่สวยๆริมน้ำ และรถหรูจอดเพียบ
.
.
ที่อิสตันบูล นอกจากแมวเยอะแล้ว ก็มีนกนางนวลนี่แหละ เยอะจริงๆ
ร้านเก๋ๆ เรียงรายเพียบ ราคาสูงนิดนึง แต่ไม่แพงเท่าบางร้านแถว Blue Mosque
อาหารออกแนวนานาชาติหน่อยค่ะ
เพราะมีชาวต่างชาติอยู่แถวนี้เยอะเหมือนกัน
บ้านเรือนเค้าก็ดูดีเลยทีเดียว
เราชอบจานนี้ เหมือนเป็นเนื้อแกะผัดและมีโยเกิร์ตวางโปะข้างๆ
มันดูไม่น่าเข้ากันได้นะ แต่อร่อย
สลัดผัก ข้างๆโต๊ะมีน้ำสลัดให้เลือกเยอะมาก
มีทั้งน้ำส้มสายชู น้ำสลัดงา
แต่ที่ชอบสุดคือ น้ำทับทิม อร่อยมากๆ จนอยากซื้อกลับ
แต่เราบอกตัวเองไว้ว่าจะไม่แบกของหนัก
ตอนกินๆอยู่ มีคนตุรกีคนนึงเข้ามาคุยด้วย
เค้าบอกเค้าอยากมาที่ไทยนะ แล้วก็เลี้ยงน้ำเปล่าเราไป 1 ขวด
เราว่าคนที่นี่จะอยากคุยกับคนเอเชียนะ เหมือนเค้าไม่ค่อยเห็นอ่ะ
เลยอยากคุยด้วย ทำความรู้จักด้วย
เดินเลียบน้ำไปเรื่อยๆ จะเห็นปราสาท Rumerlihisari
ดูตามหอคอยนี้ไปเลย
ปราสาทตรงนี้ เข้าไปเป็นสวนกว้างๆ หามุมสวยถ่ายได้เยอะแยะเลย
เราเดินเล่นกันอยู่ 2 ชม. ได้
ทริคเวลาถ่ายรูปเล็กๆน้อยๆเนอะ
เวลาเที่ยว ลองมองหากรอบนะคะ อย่างตรงนี้เป็นต้นไม้โค้งๆอยู่ เราก็เอาตัวเราใส่เข้าไป จะได้ภาพโปรไฟล์สวยๆแล้วเด้อ
มองไปจะเห็นสะพาน Bosphorus เป็นแบคกราวด์อยู่ข้างหลัง
เก้าอี้ตัวนี้ฮอตฮิตมาก ทุกคนจะมานั่ง เราต้องงัดสกิลถ่ายหลบคนหน่อย
เอียงๆมุมกล้องไป รอบๆนี่มีคนยืนอยู่นะ แต่ถ้าเค้าเข้าเฟรมมากๆ ก็บอกไปเลย
ซอรี่ยูว เราขอถ่ายแปร๊บ
เดินเข้าไปในสุดจะป้อมใหญ่ให้ไปถ่ายรูปข้างใน
เดินขึ้นไปจะเป็นป้อม อันนี้เราถ่ายย้อนกลับมา
ภายในป้อมค่อนข้างถ่ายยาก เพราะเค้าจะกั้นบันไดไม่ได้เดินต่อ
อยากได้มุมแบบนี้ ใช้เลนส์ wide แล้ววางกล้องแนบไปกับพื้นแล้วยิงขึ้นมาค่ะ
ของเราเป็น 16–35 f4 แต่มือถือก็ถ่ายได้นะ
ขาออก เดินผ่านตรงลานกว้างๆ ที่คนมาให้อาหารแมวอีกแล้ว
ถ้ามีเวลา ลองมาเดินเล่นดูนะคะ
บางทีม้านั่งธรรมดาก็ถ่ายให้ดูสวยได้
ลองดูเงาต้นไม้จะได้ภาพสวยๆมากันเนอะ
อันนี้ขนมจากคาเฟ่ร้านใกล้ๆ เป็นพุดดิ้งนม
โรยด้วยผงช็อคโกแลต และเขียวๆเป็นผงพิตาชิโอ
อร่อยนมๆ เติมพลังแล้วไปเที่ยวต่อเลยค่ะ
Emirgan Park — ไฮไลท์ของทริปวันนี้
ลงรถเมลล์ป้าย Emirgan Park Bus stop
ตอนเราวางแผนซื้อตั๋ว
เราเลือกเลยค่ะว่าจะไปช่วงเดือนเมษายน เพราะเจ้าถิ่นบอกเป็นหน้าทิวลิปของเค้าพอดี และอากาศก็ไม่หนาวจนเกินไป
ที่อิสตันบูล เค้าจะเอาทิวลิปมาวางประดับถนน เหมือนปลูกเฟื่องฟ้าเลยจ้า
บ้านเราขายดอกละ 100 พี่เค้าก็วางกันพรึ่บๆ
แหล่งชมทิวลิปก็คือสวนสาธารณะทั่วไปนี่แหละค่ะ
ที่วางงามๆและเจ้าถิ่นแนะนำก็คือ Emirgan Park
เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่มากๆ เราว่ามันดีมากๆเลยที่เค้าเน้นพื้นที่สีเขียว
และคนก็มาเดินสูดอากาศกัน
แนะนำให้มากันตอนเย็นๆนะคะ
ซัก 4 โมงกว่ากำลังดี เพราะสวนใหญ่มากๆ
จะได้เดินได้ทั่วๆ และเดินขึ้นไปข้างบน จะมีสวนใหญ่ๆ
รอไปเก็บแสงอาทิตย์ตกกันตรงนั้นได้เลยบางรูปสวยมากๆ แสงมาดีมาก ไม่ต้อง edit อะไรเพิ่มเติมเลยค่ะ
ถือว่าเป็น Hidden Place ที่เรายังไม่เห็นใครรีวิวนะ เท่าที่อ่านรีวิวมาเยอะๆ
สถานที่นี้ เจ้าถิ่นแนะนำมาค่ะ
ตกกลางคืน เดินออกมา ตรงลานที่เราเดินกันเมื่อกี้จะเป็นสะพาน Bosphorus เปิดไฟด้วยนะ กลางวันเป็นสีขาว กลางคืนเปิดไฟแดง แปลกตาดี
การที่ใช้ไฟเปลี่ยนบรรยากาศ ทำให้ได้ landmark สวยๆเลย
ภาพนี้เราถ่ายแล้วมาครอปทีหลังค่ะ
หมดรีวิว EP แรกแต่เพียงเท่านี้
ไว้พบกันคราวหน้ากับ EP 2 กับเดินเล่นพิพิธภัณฑ์ในอิสตันบูลค่ะ
ขอบคุณมากค่า
