ISTANBUL โอ้โหวตุรกี — เที่ยวแบบเจ้าถิ่น กินแบบเจ้าถิ่น EP.3/4

ล่องเรือชมวิวสุดอลังในราคา 120 บาท!!
บอกเลย EP นี้ห้ามพลาด!!

เพราะสถานที่ต่อไปนี้ คือที่ๆใครก็มาถ่ายรูปได้สวยสุดๆ
แถมยังไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
ยกเว้นค่านั่งเรือแค่ 120 บาท!! (และถูกกว่านั้นถ้าหาแหล่งตั๋วถูกเจอ)

แหล่งซื้อถั่วและ Turkish Delight ที่ถูกมากๆ ราคาคนท้องถิ่น
ไม่โดนฟันในราคานักท่องเที่ยว

ที่สำคัญ EP นี้ไม่เดินเยอะเท่า EP ก่อนๆ
แต่รวมรูปที่สวยที่สุดของซีรี่ยส์นี้ไว้เยอะที่สุดแล้ว!!

เจ็บคอ ไม่พูดเยอะ
มือถือไปถ่ายยังสวยเลย เอ้า ไปกันนน

แต่ละ ep เราจะรวมสถานที่ใกล้ๆไว้รวมกันนะคะ
สำหรับตอนนี้ สถานที่เราจะไปเรียงลำดับตามนี้ค่ะ

• Aqueduct van Valens
• แหล่งซื้อถั่วกับ Turkish Delight
• มัสยิด Suleymaniye
• Galata Bridge และนั่งเรือชมวิว Bosphorus Tour

ทั้งหมดเดินเร็วใช้เวลา 1 วันก็ครบ
แต่ถ้าอยากละเลียด เก็บแสงถ่ายภาพอาจใช้เวลา 2 วัน

ช่วงเวลาที่เราไป ในทริปเราใช้กล้อง Sony A7iii
เลนส์หลัก 90mm f2.8 และ 16–35 f4 เป็นบางคราว
และบางรูปจาก Huawei P30 pro
ทุกรูปแต่งด้วย Lightroom อีกทีค่ะ

ตารางเที่ยวที่เราไปทั้งหมดประมาณ 12 วัน (ไปวันที่ 7 -19 เม.ย. 62)
และแพลนไปคัปปาโดเกียทั้งหมด 3 วัน 3 คืน ( 11–14 เม.ย. 62)

ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ไปทักทายคุยกันได้ที่หน้าเพจนี้นะคะ
https://www.facebook.com/puiisjourney/

เรามาเริ่มต้นกันที่ Aqueduct van Valens ก่อนละกันนะคะ
เพราะจะได้เดินได้แบบไม่ต้องย้อนไปมา
กรณีอยากทำเวลาภายใน 1 วัน

Aqueduct van Valens
คือเขื่อนที่ไว้กักเก็บน้ำสำหรับคนในเมืองในสมัยก่อน
มีความยาว 920 เมตร สูง 30 เมตร
ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 28 ปี และถูกใช้งานนานถึง 1400 ปี

ตอนไปเห็นแล้วอดทึ่งในความใหญ่โตและความสามารถของคนสมัยก่อนไม่ได้

ตอนกลางคืนมาถ่ายตอนรถวิ่งจะได้ภาพแปลกตาไปอีกแบบ

ใกล้ๆจะมีสวนสาธารณะด้วยนะ

และอนุสรณ์สถาน Fatih Sultan Mehmet Anıtı
สุลต่านออตโตมัน ผู้กอบกู้อิสตันบูลจากไบเซนไทน์

อนุสรณ์ใหญ่มาก เด็กตัวเล็กจิ๋วไปเลย

จริงๆ มิชชั่นของเขื่อน คือมาตามหาถั่วค่ะ
หลังจากไปดูเขื่อน
จะมีแหล่งขายถั่ว Turkish Delight และชีสใกล้ๆเลย
ราคาย่อมเยาเพราะขายให้คนท้องถิ่น
ไม่ได้แพงหูฉี่เหมือน Spice Bazaar และ Taksim

มีหลายร้านมากๆ ร้านที่เราไปซื้อชื่อ Siirt Fatih Gida ตามป้ายเหลืองๆนั่น

เดินดูหลายร้าน ที่เลือกร้านนี้เพราะถั่วแบบรวมของเค้าหอมมาก
ข้างในจะมีถั่วผสมลูกเกด มะพร้าว กีวีแห้ง
แถม Turkish Delight ยังมีหลายสีหลายรส
แถมเค้ายังให้เราชิมก่อนซื้อด้วยค่ะ

สำคัญสุดคือ พนง.ขาย งานดี เฟรนด์ลี่ ขี้เล่น

เราซื้อถั่วแบ่งกับพี่อีกคน จ่ายไปทั้งหมด 250TL
ได้ Turkish Delight มากันคนละกล่องใหญ่ และถั่วคนละ 1 กก.

รสกุหลาบหอมมากกกก รสช็อคโกแลตอร่อยมากกก

อันนี้คือกล่องของร้าน ซื้อกลับมาไทย 2 อาทิตย์ยังอร่อยอยู่เลย

เดินซื้อถั่วเสร็จ เราก็เดินลงมาเรื่อยๆ
เปิด Google Maps ไป Suleymaniye Mosque กันต่อ
จริงๆ จะมาที่นี่ก่อนก็ได้ จะได้ไม่ต้องแบกถั่วหนัก
แต่กรณีไม่อยากเดินย้อนไปย้อนมา ก็ตามนี้เลยค่ะ

โดนัทซื้อกินระหว่างทาง เพราะหิวมาก

เจอมัสยิดที่ดูเหมือนร้างนี้ตอนเดินหามัสยิด Suleymaniye

ตอนไปถึงคือเข้าใจผิดคิดว่า เห้ย ตึกนี้แหละ ถึงแล้ว เพราะเจ้าถิ่นบอกเราว่ามัสยิดนี้สวยมากเลยนะยูว ยูวเดินไปถึงนะ ยูวจะรู้เลย เราก็แบบโอเครๆๆ

แล้วตึกนี้ก็สวยมากๆไง (ในสายตาเรา) เอ๊ะ แต่ทำไมร้างอ่ะ
อ๋อ ผิดตึกจ้า ต้องเดินต่อไปอีกกก 555+ หลงไปทั่ว หลงไปหมด

แต่มัสยิดที่โน่นสวยหมดจริงๆนะ คือเห็นบางอันยังเข้าใจว่า Blue Mosque เลยอ่ะ
จนเจ้าถิ่นทำหน้าเอือมระอา

มัสยิดที่เข้าใจผิดคิดว่าเป็น Suleymaniye

เลยมาหน่อยมีร้านชอคโกแลต Handmade เล็กๆอยู่ค่ะ
ตอนแรกจะเดินผ่านเลยไป
แต่เห็นสาวๆตุรกีเค้าถ่ายรูปหน้าร้านเหมือนจะเอาไปลงไอจีกัน

ข้างในมีห้องชอคโกแลตโดยเฉพาะ
ถ้าอยากซื้อ ก็เดินเข้าไปเลือกเองใส่กล่อง
แล้วเค้าจะแพ็ค คิดราคาตามน้ำหนัก

ด้วยความเผือก+ตะกละเลยพาสองเท้าเราก้าวไปในร้าน
ทำให้เจออีก 1 ร้านชอคโกแลตที่อร่อยสุด

ปุ๋ยกับพี่ที่ไปด้วยซื้อกลับมาคนละ 1 กล่องกลับไทย
แช่ตู้เย็น แม่กินหมดไปครึ่งกล่องจ้า ขนาดแม่ไม่ชอบกินชอคโกแลตนะ

ความปราณีตบรรจงในการห่อ

เห็นหอคอยไกลๆ ใกล้ถึง Suleymaniye ละ

Suleymaniye Mosque
เป็นมัสยิดที่เจ้าถิ่นและคนท้องถิ่นคนอื่นๆแนะนำเลยค่ะ
เค้าบอก Blue Mosque อ่ะ เป็น tourist มากๆ
ที่นี่สวยกว่าเยอะ ซึ่งตอนแรกเราไม่ได้แพลนเลยว่าจะมาที่นี่
เพราะหาไม่เจอในรีวิวที่อ่านมา

ทางเข้ามีหลายฝั่งอยู่
เราเข้าทางฝั่งสุสาน ซึ่งตอนแรกไม่รู้เรื่อง
เดินเข้าไปแล้วตื่นเต้น สวยจังเล้ยยยย
จนพี่ที่ไปด้วยเบรก “ปุ๋ยๆ นี่มันสุสาน!!”

ทางเข้า

นกก็สำรวม ต่อแถวกันเป็นระเบียบเชียว

ก่อนเข้าไปสักการะในมัสยิด คนที่นี่เค้าจะล้างมือล้างเท้ากันก่อนนะคะ

edit เพิ่มเติม (credit ข้อมูลจากคุณ Peng Kub Phom)
คาดว่าเป็นการอาบน้ำละหมาด
ซึ่งเป็นการชำระล้างส่วนต่างๆของร่างกายก่อนละหมาด
1 ล้างมือ
2 ล้างหน้าจรดตีนผม
3 ล้างแขนถึงข้อศอก
4 ล้างใบหู รูหูและผม
5 ล้างเท้า

ด้านในมัสยิด

กล่องนี้ไม่รู้คืออะไรนะคะ ใครรู้บอกที
เพราะมองเข้าไปข้างในก็ไม่มีอะไรอ่ะ

สถาปัตยกรรมที่นี่โอ่อ่าใหญ่โตมาก
เวลามองจากรูป อาจจะไม่เห็นภาพเท่าไหร่
แต่ถ้าเอาคนเข้าไปเทียบสเกลจะเห็นเลย

และมิชชั่นของการมาที่นี่คือ วิวนี้!!
วิว The Must ห้ามพลาด

เดินวนรอบๆ จะมีระเบียง หาให้เจอนะคะ สวยมากจริงๆ

ตอนไปถ่ายกับวิวมุมสูง

มีสาวตุรกีตะโกนใส่ “Hey, I love your jacket!!”
แหม เราว่าเราใส่ soft ละนะ

ตรงข้ามอีกฝั่งเป็น Turkish Bath
นี่อยากไปลองมาก เค้าว่าเหมือน Onsen ญี่ปุ่นในสไตล์ออตโตมัน

จากนั้นเราจะเดินยาวๆไป Galata Bridge เพื่อนั่งเรือกันค่ะ

Bosphorus Tour
ล่องเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัส

คือสิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับการมาเที่ยวอิสตันบูล
ตอนแรกเราไม่รู้หรอก เจ้าถิ่นแนะนำบอกว่าต้องไปนั่งนะ
เพราะวิว 2 ข้างทางของแม่น้ำสวยมากๆ และใช้เงินไม่เยอะ

จากบนลงล่าง Suleymaniye Mosque — Rustempasa Mosque — Galata Bridge

มองไกลๆไปเห็น Suleymaniye Mosque บนสุด และที่หลั่นลงมาคือ Rustempasa Mosque

มีตำนานอันสวยงามจากมัสยิด Rustempasa Mosque มาเล่าให้ฟังกันค่ะ

ในสมัยออตโตมัน มีสถาปนิกคนนึงชื่อ Sinan สถาปนิกคนนี้เป็นผู้ออกแบบ Rustempasa Mosque และ Mihrimah Mosque ในเขต Üsküdar

เล่ากันว่า Sinan ตกหลุมรักลูกสาวของสุลต่านในยุคนั้น
แต่เค้าไม่ได้สารภาพรักออกไป เนื่องจากเค้าอายุมากกว่าเธอ
และเหนืออื่นใด เธอคือลูกสาวของสุลต่าน

วันนึง เธอให้ Sinan ช่วยออกแบบมัสยิดให้กับเธอ
Sinan เลยออกแบบ Mihrimah Sultan Mosque
ว่ากันว่าเมื่อใดที่ครบรอบวันเกิดของเธอคนนั้น
ดวงอาทิตย์จะส่องแสงเข้าไปภายในมัสยิด
ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างส่องแสงสว่างไสวมากกว่าทุกวัน

แต่สุดท้ายเธอก็ไปแต่งงานกับขุนนางผู้สูงศักดิ์
หลังจากที่แต่งงานกัน ขุนนางคนนั้นได้ให้ Sinan ช่วยออกแบบมัสยิดให้อีกครั้ง
Sinan เลยออกแบบ Rustempasa Mosque ขึ้นมา
โดยภายในมัสยิดแห่งนี้ทั้งมืดมนและให้ความรู้สึกแสนเศร้า

นอกจากนั้นพระอาทิตย์จะขึ้นทางที่ Mihrimah Mosque ตั้งอยู่ และคล้อยตกลงที่ Rustempasa Mosque

ว่ากันว่าสิ่งนี้คือความรู้สึกภายในหัวใจของ Sinan ที่ส่งผ่านมาทางมัสยิดทั้ง 2 แห่งค่ะ
(เรื่องนี้เจ้าถิ่นตุรกีเป็นคนเล่าให้ฟังนะคะ 😉)

ถ้าเดินมาจาก Suleymaniye จะไปขึ้นเรือที่สถานี Eminonu ได้เลย และราคาถูกกว่าเดินข้ามฝั่งมา Karakoy เพราะมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่า

เจ้าถิ่นบอกว่า ห้ามจ่ายเกิน 15TL โดยเด็ดขาด!!
ยังไงๆๆๆก็ห้ามจ่ายเกินนี้ แต่เราดันเดินข้ามสะพานมาฝั่ง Karakoy

นักท่องเที่ยวเยอะมาก เลยเจอแต่ 20TL จนนั่งเรือชมวิวเสร็จ ข้ามเรือกลับมาฝั่งเดิมถึงเจอ 15TL แง้~~ 30 บาทของฉานนนน 🤦🏻‍♀️

เพื่อนเราอีกคนก็ได้ขึ้น 15TL ค่ะ เค้าบอกเจอลุงแก่ๆยืนถือป้ายราคานี้ ดังนั้นลองสอดส่ายสายตาหาดูนะ แล้วก็เดินไปตรงข้ามกับที่นักท่องเที่ยวเดินกันเยอะๆ เผื่อเจออันราคาถูกจ้า

ในรูปคือลุงที่มาพร้อมกับราคาน่ารัก 15 TL ที่เพื่อนเราถ่ายตอนไปตุรกีคนละรอบจ้า

นั่งเรือรอบนึงจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที
บนเรือจะมีขนม และน้ำขายค่ะ ราคาไม่แพง

มองเห็นพระราชวัง Dolmabahce

ปราสาทหิน Rumeli Hisar
เคยรีวิวแล้วใน EP.1 ลิงค์นี้นะคะ

ISTANBUL โอ้โหวตุรกี — เที่ยวแบบเจ้าถิ่น กินแบบเจ้าถิ่น EP.1/4

ระหว่างที่นั่งเรือ มีเด็กตุรกีมองเราแบบอยากคุยด้วย
น้องเค้าคุยไม่เป็นหรอก แต่เดินมาใกล้ๆ พยักเพยิดใส่
แล้วก็ให้เราถ่ายรูปด้วยนะ เด็กๆที่นี่น่ารัก รอยยิ้มละลายใจเลย
(พี่ที่ไปด้วยบอก ปุ๋ยมีแรงดึงดูดกับเด็กๆ 👧🏻👶🏻)

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าทำระหว่างล่องเรือ คือ ซื้อขนมปังโปรยให้นกนางนวลค่ะ

ตอนแรกเราไม่รู้นะ มัวแต่ถ่ายนก
กำลังสงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมนกบินมาเป็นฝูงตามเรือ

หันไปเห็นพ่อหนุ่มตุรกีกำลังยื่น Simit ล่อนกอยู่
เราเลยไปถ่ายใกล้ๆ พอเค้าเห็นเราไปถ่ายรูป เค้ายิ่งยื่นล่อนกมาให้ใกล้ๆเราเลย

เค้าหันมาทำทีถามเราว่า อยากลองบ้างมั้ย พร้อมยื่นขนมปังมาให้
สอนว่า ยื่นขนมปังไปแบบนี้นะ นกจะบินมากินจากมือ

นกบินมากินขนมปังใกล้มากๆ

และนี่คือโฉมหน้าพ่อหนุ่มตุรกีแสนใจดี
ที่ยื่นขนมปังให้เรามาล่อนกค่ะ

ฟอลโล่วไอจีกันเรียบร้อย

Maiden Tower
หอคอยนี้จะมีรีวิวต่อในตอนสุดท้ายอาทิตย์หน้าค่ะ

ส่วนมัสยิดตรงนี้คือ Yani Camii หรือ New Mosque นั่นเอง

พอขึ้นจากเรือมา จะเจอขายแซนด์วิชปลานะคะ
สดอร่อย เพราะปลาก็มาจากที่เค้าจับได้กันข้างหน้านี่แหละค่ะ
ไม่ได้กินหรอก ได้ยินเค้าว่ามางั้น
กินไม่ไหวแล้ว ตะกี้หนุ่มตุรกีเลี้ยงน้ำชาไปเยอะมาก

Galata Bridge

ควรมาช่วงเวลาเย็นๆ เพื่อเก็บแสงตอนพระอาทิตย์ตกค่ะ
แล้วชาวบ้านเค้าจะมาตกปลากันเวลานี้ด้วย

ที่สำคัญ ณ จุดนี้ ถ่าย Galata Tower ได้สวยสุดไปเลย

ถ้าเดินผ่านสะพาน Galata จะมองเห็นชาวบ้านตกปลากันตลอด 2 ข้างทางยาวๆเลย แถมเรายังสามารถซื้อปลาสดๆจากบางเจ้าที่ตกเก่งๆได้อีกด้วย

แต่อาจต้องระวังนิดนึง เพราะบางทีเวลาเค้าเหวี่ยงเบ็ด แทนที่จะไปโดนปลา
ก็โดนคนเดินถนนอย่างเรานี่แหละ เห็นบางคนโดนเกี่ยวเสื้อ เกี่ยวหมวกมาแล้

เดินแถบสะพานอยู่ดีๆ ก็มีเรื่องระทึกขึ้น
จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากไหนไม่รู้ และเห็นเด็กๆขอทานวิ่งไล่กันมา
ตอนนั้นอยากเผือกมากค่ะ แต่ฟังไม่ออก
เดาจากท่าทีได้ว่า เด็กขอทานคนแรกมาจองที่ไว้เพื่อจะขอทานตรงนี้
แต่อีกคนมาแย่งที่ เค้าเลยไม่ยอม เลยไล่ตีกัน
จนตำรวจต้องมาห้าม

ประเด็นสำคัญคือ ตำรวจงานดีมากเลย ผู้ชายหล่อๆในเครื่องแบบอ่ะ โห อย่างฟิต

ใต้สะพานมีร้านอาหารเรียงราย

บรรยากาศรอบๆสะพาน
มาตอนเย็นๆ จะได้แสงสวยๆเลยนะ

ข้าวโพดปิ้ง ได้ยินว่าอร่อย
แต่เราไม่ได้ซื้อ เราไปซื้อขนมที่อยู่ข้างๆแทน

ที่เราซื้อเป็นขนมโดนัทค่ะ

ตอนไปซื้อ มีเด็กขอทานมาขอเรา 1 ชิ้น
เหมือนน้องเค้าหิวมาก คนขายก็เลยพูดกับเด็กว่าไม่ควรทำแบบนี้นะ
พอตักเตือนเสร็จก็ให้น้องขอทานไป 1 ถ้วยแบ่งกับเพื่อน
เห้ยยย นี่คือความใจดีของคนตุรกีอ่ะ

โดนัททั้งหวานและมันเยิ้มเลย แต่น่ารัก

ตรงใกล้ๆสะพาน จะมีม้านั่งบันไดสูงๆ ไว้ให้ชมวิว
แล้วจะเห็นประตูอุโมงค์อะไรซักอย่าง
นั่นคือทางเข้า Spice Bazaar

ร้านขายดอกไม้และคนขายสายไหม :)

มองย้อนม้านั่งไปเป็นจุดรวมรถประจำทาง
คล้ายๆ อนุสาวรีย์บ้านเรา

นอกจากล่องเรือชมวิว Bosphorus
อีกอย่างนึงที่น่าลองทำคือ นั่งเรือข้ามฟาก ค่ะ

อย่างที่บอกตอนแรก เราเดินข้ามสะพาน Galata มาฝั่ง Karakoy ก่อน
แล้วย้อนกลับไป Eminonu ทำให้ต้องนั่งเรือข้ามฟากกลับไปอีกรอบ
แล้วปรากฎว่าเรือโดยสารข้างใน แสงสวยมากๆเลย ไปตอนเย็นๆแล้วนะ

ค่าโดยสารใช้ istanbulkart รูดเองได้เลย ไม่กี่บาท

ที่ฝั่ง Karakoy ถ้าเดินวนๆหน่อยจะเจอบันไดสีรุ้งด้วยนะคะ
แล้วก็มีภาพ Graffiti เพียบ ลองไปหาดูค่ะ คนถ่ายสตรีทไม่ควรพลาด

ใกล้ๆแถบนั้นมีร้าน Simit เจ้าดังของอิสตันบูลด้วย
แต่เราหาไม่เจอ ชื่อ Tarihi Galata Simitçisi

จบเท่านี้ แล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้ากับ Puii’s journey (ปุ๋ยเจอนี่) ค่า ❤