KAMAKURA — เมืองเล็กๆน่ารักใกล้ TOKYO

Puii is always on the sunny side
puiionsunnyside
Published in
5 min readSep 28, 2019

นั่งรถไฟชิดบ้านญี่ปุ่น ไปกินเครปเก๋ๆรูปพระใหญ่ไดบุตสึที่คามาคุระ

Kamakura เป็นอีกเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมาก
นั่งรถไฟแค่ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง

เหตุผลที่ปุ๋ยไปที่นี่ เหตุผลเดียวเลยคืออยากไปถ่ายรูปรถไฟที่วิ่งอยู่ตรงกลางถนนเหมือนตลาดร่มหุบบ้านเรา แต่พอไปถึง ค้นพบว่าที่นี่มีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะค่ะ แถมยังไปง่าย

ในทริป ปุ๋ยไปเช้าเย็นกลับ แต่จริงๆรู้สึกว่าถ้าได้ค้างที่นี่คืนนึงจะดีกว่า เพราะจะได้เดินทั่วๆ และยังมีอีกหลายอย่างของที่นี่ที่น่าทำ อย่างการไปขึ้นเกาะเอโนะชิมะ

.
.
.
.

ในทริป ปุ๋ยใช้กล้อง Sony A7iii เลนส์ 90mm f2.8
ทุกรูปแต่งด้วย Lightroom อีกทีค่ะ
ตารางเที่ยวที่ปุ๋ยของโตเกียว คือ 18–30 มี.ค. 62 ค่ะ
อากาศหนาวเย็นพอสั่น

ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ไปทักทายคุยกันได้ที่หน้าเพจ FB : Puiisjourney นะคะ

ที่นี่เราสามารถเช่ากิโมโนเดินเที่ยวชมเมืองได้เลย
ราคาย่อมเยากว่าที่เกียวโตมากด้วย

ตอนแรกก็กะว่าจะทำแบบนั้น แต่รู้ตัวว่าอยากไปหลายที่แล้วต้องทำเวลา
กิโมโนมันเดินไม่ถนัด เลยไม่ได้เช่นค่ะ เห็นสาวๆญี่ปุ่นใส่กันน่ารักเต็มไปหมดเลย

ถ้าใครไม่รู้จักคามาคุระ ต้องรู้จักพระยักษ์ใหญ่ไดบุตสึแน่นอน อยู่ที่เมืองเล็กๆนี้นี่แหละค่ะ

วิธีเดินทาง

(ขอบคุณข้อมูลเดินทางจาก PANTIP และ Matcha JP — ส่วนใหญ่ก็หาข้อมูลจากในนี้แล้วเซฟไว้เวลาเดินทางนี่แหละค่ะ)

เริ่มต้นที่สถานีชินจูกุ — มองหาป้ายของรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu) — เดินไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Odakyu Sightseeing Service Center — ซื้อตั๋ว Enoshima-Kamakura Freepass ราคาใบละ 1,470 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และเราจะใช้ตั๋วใบนี้ใบเดียวทั้งวันเลย -

สังเกตดีๆ รถที่วิ่งตรงไปเป้าหมายเราเลยวันนี้จะเขียนว่าไป Katase — Enoshima ออกจากชานชาลา 4 หรือ 5 — ลงกันที่สถานีฟูจิซาวะ (Fujisawa) เพื่อไปต่อรถไฟฟ้าคันเล็กน่ารักประจำเมือง — เมื่อลงที่สถานีแล้ว ให้เดินไปตามทางออก มองหาป้าย Enoden Line จะเจอบันไดขึ้นชั้นสอง — เดินไปทางตรงกันข้ามสถานีของ JR — เป็นสะพานลอยด้านนอกอาคาร แล้วคอยสังเกตหาป้าย Enoden Line — ใช้พาสที่ซื้อมาในวันนี้สอดเข้าเครื่องตรวจตั๋วได้ตามปกติ — นั่งไปสุดสายที่สถานีคามาคุระ (Kamakura) — หนึ่งในสายรถไฟที่ “วิ่งเฉียดบ้านเรือนสองข้างทาง”

  • * สาย JR จะใช้ฟรีพาสวันนี้ไม่ได้ **

ตอนไปถึงที่โน่นก็เที่ยงครึ่งแล้วค่ะ
พอดีชิลไปหน่อย ตื่นกันสาย แต่ยังไงก็เดินลากเลือดเหมือนเดิม

ที่แรกที่เราจะไปคือ ศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu)
ไปถึงแล้วไปยังไงต่อไม่ต้องกลัวหลงนะคะ
เดินตามมวลชนลอดอุโมงค์ใต้สะพานไปเลย

ลวดลายการ์ตูนในอุโมงค์

เสน่ห์ของญี่ปุ่นก็ตรงที่มีงานศิลปะทั้งการ์ตูนและกราฟิตี้ไปทั่วนี่แหละ
เราก็จะตามถ่ายเก็บทุกที่ 5555+

เห็นซุ้มทางเข้าศาลเจ้าแล้ว

ที่ชอบอีกอย่างนึงคือ มีความรู้สึกว่าร้านค้าของญี่ปุ่นที่เปิดกิจการของตัวเอง จะให้ความรู้สึกที่ทำจากใจ จะมีรายละเอียด อย่างร้านดอกไม้นี่ ตกแต่งได้อบอุ่นดีจัง

แถบที่พักที่ปุ๋ยอยู่ ก็มีร้านดอกไม้น่ารักๆแบบนี้เหมือนกัน

ระหว่างทางเดินจะมีร้านโครอกเกะเจ้าดัง
อยากรู้ว่าร้านไหนดัง ให้ดูหางแถว แถวยาวมากกกก
มีรสชาติให้เลือก ซื้อมาลอง 2 รส รสหมูบดกับมันม่วงบด
เอาจริงๆเฉยๆอ่ะ ฮ่าาาาา แต่มาแล้วต้องลองไง

อีกรูปที่ชอบมากๆ เป็นรูปคุณยายกำลังหลับอยู่ในร้านหนังสือ

เราถ่ายรูปนี้ที่ถนนโคะมาจิ — เส้นหลักที่จะเดินไปยังศาลเจ้า
ซึ่งหมายความว่ามันเป็นถนนที่ครึกครื้นมากๆ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แม้กระทั่งตรงข้ามร้านหนังสือยังเป็นร้านโครอกเกะมันเผาที่ทุกคนต้องมาต่อแถวซื้อตามรีวิวยาวเหยียด เราก็ไปต่อด้วย แล้วบังเอิญหันไปมองข้างๆ เห็นคุณยายกำลังหลับอยู่ มันเป็นความรู้สึกเหมือนอีกโลกนึงไปเลย เสียงรอบๆที่ครึกครื้นหายเงียบไปทันที เป็นความเงียบสงบจากภาพที่เรามองเห็น จนเราอดถ่ายเก็บไว้ไม่ได้

มันเป็นอีกทีเหมือนกันนะที่เราคิดว่าความสงบกับความสุขอยู่ที่เรามองจริงๆนะ

เดินกินโครอกเกะ ก็มองหาร้านเครปชื่อดังต่อ
ร้านสีเขียวๆ อยู่ทางฝั่งขวามือ
คนต่อแถวเยอะมาก ข้างในก็ไม่ค่อยมีที่นั่งกิน

มีคนบอกให้ซื้อคนละอันไปเลย อร่อย
เลยซื้อแบ่งกับพี่กับน้อง กินไปแล้วก็เฉยๆอ่ะจ้ะ
คิดว่าไม่ต่างอะไรกับเครปในตลาดบ้านเรา
น้องสาวยังบ่นว่าแพงมากกก กลับมากินที่ไทยดีกว่า
โดยส่วนตัวเราว่าถ้ากินเครปที่ญี่ปุ่น กินแค่เครปเย็นอ่ะอร่อยสุด
เครปร้อนบ้านเค้าขายแพง

ระหว่างทางไปศาลเจ้า มีของขายเยอะแยะไปหมดค่ะ
สาวๆใส่ชุดกิโมโนก็เยอะ อยากใส่บ้างจังเลยยยย

เค้าบอกว่าสินค้า OTOP ประจำเมืองคามาคุระ คือ สบู่นุ่มนิ่มไข่มุกทองคำ (แต่ปุ๋ยหาไม่เจอค่ะ อยากซื้อมาลองเหมือนกัน ฮ่าาาา)

ศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu)

ขากลับเดินจากศาลเจ้าเห็นหนุ่มหน้าหวานกำลังขายแอปเปิ้ลเชื่อมอยู่

เห็นแอปเปิ้ลน่ากิน เลยไปซื้อ 1 ลูก
พี่เค้าก็พยักหน้าและเริ่มทำแบบความเร็วเครปป้าเฉื่อย

เช็ดแอปเปิ้ลลูกใหญ่ — ชุบน้ำเชื่อม — เรียงแถว — เช็ดแอปเปิ้ลลูกเล็ก — ชุบน้ำเชื่อม — เรียงแถว — วนลูป ยืนรอไปเลยจ้า พี่เค้าสโลว์ไลฟ์ไม่มีความเร่งใดๆทั้งสิ้น แม้อิฉันจะยืนรอไป 20 นาทีแล้วก็ตาม

ไม่เป็นไร มองหน้าหล่อๆคือผลพลอยได้

ส่วนแอปเปิ้ล กัดไม่เข้าเลยจ้า แข็งแป้ก
มิน่าคนอื่นๆซื้อลูกเล็กกัน จริงๆลูกเล็กน่าจะกัดเข้ากว่า แต่รสชาติของน้ำตาลเชื่อมนั่นหวานมาก ตอนแรกก็เก็บห่อไว้อ่ะ เอากลับมากินต่อที่พัก แช่ตู้เย็น สุดท้ายก็ยังกัดไม่เข้าอยู่ดี ทิ้งลงถัง หรือใครมีวิธีกิน ช่วยบอกทีค่า

ซากุระเนอะ

จากนั้นเราไปหาร้านข้าวต่อค่ะ

ก่อนไปอ่ะ เราหาร้านจากใน IG ไว้เรียบร้อยละ โดยการกด Kamakura และก็ดูไปเรื่อยๆว่ามีอะไรน่าสนใจมั่ง จนมาเจอร้านนี้ เป็นที่นิยมเลย

“Oxymoron Onari”

จริงๆถ้าอยากกินร้านนี้นะ และร้านอื่นๆแถวนี้นะคะ ควรจองคิวแต่เนิ่นๆเลย เค้าจะมีให้แสกน QR Code และแจ้งบอกคิวทางโทรศัพท์ค่ะ จากนั้นไปเดินเล่นศาลเจ้าก็ยังได้

ตอนแรกเราไม่รู้นะ ไปเดินศาลเจ้าก่อน ค่อยมาหาร้าน รอนานมว๊ากกกก เกินชั่วโมงได้ค่ะ หิวมากเลย จะเป็นลม แต่อร่อยนะ

ข้าวหน้าแกงกะหรี่เนื้อ กลิ่นเนื้อแรงเตะจมูกมาก แต่อร่อยค่ะ

น้ำยูซุก็อร่อย น้ำมะนาวโซดาก็อร่อย

แล้วก็ขนมหวาน ขนมที่เราอยากกินจะคล้ายๆพุดดิ้งมีสตรอเบอร์รี่อยู่ข้างบน แต่ตอนเราไปหมด เลยสั่งที่คล้ายๆมาแทน อร่อยจ้า

ส่วนตัว เราว่าร้านเค้าตกแต่งชิคๆดี แถมอาหารก็ดูน่าทาน เสียตรงคิวนี่แหละยาวมว๊ากกกกก ใครอยากไปก็ไปจองคิวก่อนน้า เราเสียเวลากับที่นี่ไปเยอะเลย เก็บที่อื่นเลยไม่ทัน

มีร้านอื่นๆแนะนำอีกค่ะ อย่างข้าวหน้าปลาชิราสุกับพุดดิ้งชาเขียวที่ もみじ茶屋 御成通り ใครอยากไปก็ลองเสิร์ช Google Map เอาเนอะ

กินเสร็จแล้วไปขึ้นรถไฟไปหาหลวงพ่อไดบุตสึ
ตอนไปถึงทำเวลามากค่ะ เหมือนเค้าจะเปิดถึง 5 โมงครึ่ง
ไปถึงก็ 5 โมงกว่าแล้ว รีบจ้ำ เพราะมีจุดอยากเช็คพอยท์ 2 ที่ค่ะ

KANNON COFFEE — KAMAKURA

ร้านกาแฟเจ้าดังที่ขายเครปเป็นพระไดบุตสึ

เครปก็ดี ครีมก็ดี สตรอเบอร์รี่ก็ดี บิสกิตตัวพระก็กรอบ
รีบกัดไป 2 คำ แล้วฝากพี่ชายกับน้องสาวไว้
เพราะต้องรีบจ้ำไปถ่ายรูปพระยักษ์ใหญ่ก่อน
ไปถ่ายรูปเสร็จ กลับมาเหลือแต่กระดาษ แง้
ใครไป อย่าลืมไปที่นี่กันนะ อร่อยๆ

Kotokuin Temple

ตอนไปถึง เค้าปิดประตูเรียบร้อยแล้วค่ะ
เห็น นทท คนอื่นๆ ที่มาถึงพร้อมๆกับเราเหี่ยวไปพอๆกัน
เสียใจมาก เข้าไปไม่ได้แล้ว แต่ไม่ยอมแพ้
เห็นประตูเป็นช่องๆ เลยไปเขย่งดูซักหน่อย
เห็นพระท่านอยู่ข้างใน โอ๊ยยยย จุดนี้เอากล้องไปถ่าย
ขอบคุณเลนส์ 90 mm ณ จุดนี้ เพราะถ่ายไปเห็นชัดมาก
นักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่เดินเหี่ยวๆกลับไป
เห็นเราถ่ายรูปตรงช่องประตูได้ เลยเอากันมั่ง

หลังจากนั้นรีบทำเวลา จะไปร้าน Cafe Yoridokoro

ร้านนี้พิเศษตรงที่ โต๊ะที่เวลากินข้าวจะเห็นรถไฟของเมืองนี้แล่นผ่าน เป็นจุดขายเลย ไปถึงเป็นร้านเล็กๆ และปิดแล้ว (แห้วอีกรอบ)
เลยถ่ายมาแต่รางรถไฟ

จากนั้นเลยไปที่สถานี Koshigoe
เพื่อถ่ายรูปรถไฟที่แล่นผ่านกลางเมืองค่ะ
ตอนไป เห็นช่างภาพญี่ปุ่นวัยรุ่นอีกคนมาถ่ายเหมือนกันด้วยแหละ

จริงๆที่คามาคุระ ยังมีเกาะ เกาะเอะโนะชิมะ(Enoshima) อีกนะ
เค้าบอกที่นี่จะสามารถมองเห็นภูเขาฟูจิจากตรงนี้ได้เลย
และยังมีหลายร้านที่ขายข้าวหน้าปลาชิราสุสดอีกด้วย
ใครไป Kamakura แนะนำให้ค้าง 1 คืนนะคะ ฟินๆเลย
ปุ๋ยคิดว่าถ้าไปโตเกียวอีกรอบ ปุ๋ยก็จะไปที่นี่อีกทีเหมือนกัน

--

--

Puii is always on the sunny side
puiionsunnyside

No matter what life brings to, I discover this world. I fall in love. 🌝💛 l Instagram @PUIIONSUNNYSIDE