Market Research เพื่อหาความเป็นไปได้ของ Application
เคยมั้ยครับ ว่าเรามี Application ที่ดีมากๆ และมันใช้ง่ายสุดๆ
แต่เราก็สามารถดึงดูด ให้ผู้ใช้มาใช้งานได้
.
แน่นอนครับว่า ทำ Application ให้เสถียรก็ว่ายากแล้ว
และทำ Application ให้ง่ายต่อการใช้งาน นั้นยากยิ่งกว่า
แต่หาเหตุผลและแรงจูงใจในการใช้งาน (ที่ทำเงินได้) นั้นยากที่สุด
.
พอเริ่มทำ Application ไปเรื่อยๆ แล้ว ประสบการณ์เลยสอนเป็นภาพดังนี้
ซึ่งแต่ละเรื่อง ที่จะแทคเกิลปัญหาแต่ละอย่างนั้น ต่างกัน
.
เรามาดูกันที่ Pain & Cost ก่อน
ส่วนนี้เป็นส่วนหลักที่ว่าจะทำให้เค้าอยู่กับเราได้นานขนาดไหน
เพราะถ้ามันคุ้ม ถึงมันห่วย เราก็ยังยอมจ่ายให้มันอยู่
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น รถไฟฟ้าในกรุงเทพ ช่วงที่เสียตลอด และแสนแพง และเบียด
แต่มันการันตีความสะดวกสบายในการเดินทางของเราได้
ทำให้เราไม่อยากเปลี่ยนสิ่งนั้นๆ
.
ดังนั้นธุรกิจที่เราจะสร้าง จึงต้องมีความคุ้มค่า ที่ตอบโจทย์ในจุดนี้
แล้วเราจะทำอย่างไรหล่ะ ถึงจะรู้ได้ว่าธุรกิจเรานั้นคุ้มค่าตอบโจทย์
.
เราใช้วิธีการที่ชื่อการทำวิจัยตลาดครับ
โดยการทำวิจัยตลาด มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ครับ
.
- สัมภาษณ์ผู้ใช้งาน เพื่อหา pattern ของปัญหาที่เกิดขึ้น
ในขั้นตอนนี้ เราเริ่มสัมภาษณ์ผู้ใช้งาน (ในปริมาณนึง เช่นประมาณ 20คน)
เพื่อเริ่มหา pain point ของปัญหาที่เค้าเผชิญ และดู pattern การซ้ำกันของปัญหา
.
เมื่อผ่านขั้นตอนที่ 1 มาแล้ว จะพบว่า เรามี pattern ของปัญหา ที่ซ้ำๆกัน ของผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม
โดยเราต้องจด pattern ของปัญหา และลักษณะของกลุ่มผู้ใช้งาน ที่เข้าข่าย pattern นั้นๆ
แล้วเราจึงเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2
.
2. ลองแก้ปัญหา ที่มี pattern ซ้ำๆกัน ซึ่งเจอจากกลุ่มผู้ใช้นั้นๆ แล้วนำไปทดลองกับกลุ่มผู้ใช้งานว่า ปัญหานั้นแก้ได้จริงหรือไม่
เมื่อเราลองแก้ปัญหาให้กับกลุ่มผู้ใช้แล้ว เราจะได้รู้ว่าปัญหานั้นแก้ได้ด้วยวิธีของเราจริงๆหรือไม่
ซึ่งในขั้นตอนนี้ เราอาจจะยังไม่ต้อง automate ทุกอย่างก็ได้ เพราะมันเป็นการทดลองไม่กี่รายการ ซึ่งเรายัง manual ได้อยู่
และเมื่อรู้แล้วว่า วิธีไหน ที่เราจะแก้ปัญหาให้เค้าได้ เราจึเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3
.
3. ทำ Questionnaire เพื่อสำรวจเชิงปริมาณของกลุ่มตัวอย่าง
หลังจากเราทำ Questionnaire เพื่อดูปริมาณผู้ใช้งาน ที่เจอปัญหา pattern เดียวกัน (ซึ่งเรา solve ปัญหานั้นได้แล้วในข้อ 2)
เราจึงนำ จำนวนเชิงปริมาณของผู้ใช้งาน มาคำณวนความีคุ้มค่า และความเป็นไปได้ทางธุรกิจ หรือที่เราเรียกว่า Feasibility Study นั่นเอง
.