A Day with Nina

บล็อกนี้ นีน่าเขียนเพื่อเล่าว่าการทำงานที่ Refinitiv สนุกอย่างไร แล้วนีน่ามี work-life balance แบบไหน หวังว่าทุกคนที่อ่านจะเพลินไปกับหนึ่งวันที่ Refinitiv ของนีน่านะคะ

ในเช้าวันทำงาน เราตื่นนอนพร้อมเสียงเห่าเล็กๆของเจ้าโดเบอร์แมนตัวน้อยชื่อสายฟ้า หลังจากนั้นเราก็จะใช้เวลาช่วงเช้าที่มันกำลังหิวๆอยู่นี้ในการฝึกมันเพราะสายฟ้ายังเป็นหมาน้อยที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร นอกจากนี้เราก็ต้องไม่ลืมจ๊ะจ๋า เจ้าพุดเดิ้ลของเราอีกตัว ที่เป็นน้องหมาหน้าหมี หรือ dog idol ที่เราปั้นมาด้วย

อินสตาแกรมจ๊ะจ๋า

เสร็จจากการดูแลน้องหมาทั้งสอง เราก็อาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าไปทำงาน ยังดีว่าเวลาออกจากบ้านของเราเลยเวลาเร่งด่วนไปแล้ว จึงลดเวลาเดินทางไปได้มากพอสมควร เพราะที่ทำงานของเราอนุญาติให้พนักงานเลือกทำงานแบบ Flexible Hours ได้ ทำให้เราบริหารเวลาในการทำงานได้สะดวกมาก

ในที่สุดก็ถึงออฟฟิสแล้วววว นี่คือโต๊ะทำงานของเราเอง มีจอ widescreen หลายจอ ทำให้เราทำอะไรได้หลายอย่างพร้อมกัน (แอบเอารูปจ๊ะจ๋ามาเป็น Motivation ในการทำงานสักเล็กน้อย)

นอกจากจอที่เรารัก เรายังมีหมอน ตุ๊กตาให้เราเอาไว้หนุนข้อศอก มือ แขน เพราะเราต้องใช้คอม แล้วถ้าวางบนโต๊ะแข็งๆนานๆจะเจ็บ

แล้วการทำงานก็เริ่มขึ้น เราเอาอาหารเช้ามานั่งกินระหว่างทำงานที่โต๊ะ แล้วก็มีกาแฟหอมๆให้จิบ (แถวออฟฟิศเรามีร้านกาแฟดีๆให้เลือกหลายร้านเลย คอกาแฟสบายใจได้) จิบกาแฟไป ปั่นงานไป ทำให้เรา enjoy กับการทำงานมากขึ้น

ลืมแนะนำตำแหน่งเราเลย…

ตำแหน่งเราคือ Capacity Analyst ของทีม Time Series ที่ Refinitiv หลักๆก็จะวิเคราะห์ data เกี่ยวกับการใช้งานของลูกค้าและประสิทธิภาพของระบบ คำนวนการคาดการณ์ว่าระบบของเราทุกวันนี้ จะเพียงพอต่อการใช้งานของลูกค้าที่เติบโตขึ้นได้รึป่าว มีใช้ python บ้าง mySQL Oracle etc. แต่ที่ใช้บ่อยที่สุดคือ Tableau เป็นโปรแกรม data visualization ที่เราโปรดปรานที่สุด

ความ challenge ที่ต้องเจอทุกวัน คือเนื้อหาที่เกี่ยวกับ IT เพราะเราจบ Automotive Design and Manufacture Engineering กับ Logistics & Supply Chain Management มา ความรู้ IT ช่างน้อยนิด แต่เราอยากเปลี่ยนสายมาทางนี้จริงๆ แล้ว Refinitiv ก็ให้โอกาสเรา ช่วงแรกก็จะเหนื่อยหน่อย โชคดีที่ Refinitiv มี online library ของ O’Reilly ให้พนักงานทุกคน มีหนังสือดีๆเยอะแยะให้อ่าน ช่วยให้เราเรียนรู้งานสายนี้ได้ง่ายขึ้น

เราเชื่อว่า “technology is the future” เราเลยไม่ท้อในการเรียนรู้เกี่ยวกับมัน ดู Skynet สิ :P

อีกหนึ่ง challenge คือการใช้ tool ต่างๆที่เราไม่เคยใช้มาก่อน แต่เราก็ผ่านมันไปได้เพราะมีพี่ๆและเพื่อนๆคอยช่วยสอนและศึกษาเอง จนตอนนี้เราสนุกกับการใช้ tool ต่างๆมากเลย

นอกจากนี้ Refinitiv เป็นบริษัท Global ทีมที่เราทำงานด้วยก็เลยอยู่ต่างประเทศซะส่วนใหญ่ บ่อยครั้งเราก็จะมี VDO Conference เพื่อคุยงานกัน การได้รู้จักกับคนทั่วโลกนั้นเป็นประสบการณ์ที่ดี แถมยังสนุกอีกด้วย ทุกคนเฟรนลี่ และตั้งใจช่วยกันทำงาน

ตอนเที่ยงเรามีอาหารให้เลือกมากมายข้างนอก ตั้งแต่โรงอาหารของตึก หรือจะไปกินที่ตลาดใกล้เคียง มีตลาดอยู่หลายแห่งให้เลือกถ้าเรายอมทนร้อน ก็จะได้กินอาหารอร่อย แถมถูกด้วย ของหวานก็ยังมีให้เลือกอีกเพียบ

ช่วงบ่ายแก่ๆก็แวบออกไปหาซื้อขนมเติมพลัง เดินออกมาสู้ความร้อน ก็ต้องพกร่มไปด้วย

ตกเย็นเราก็สามารถเลือกเวลากลับบ้านให้ช้ากว่าคนอื่นได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติด หรือถ้าติดธุระก็ขอออกก่อน แล้วกลับไปทำต่อที่บ้าน แล้วถ้าวันไหนทำงานเสร็จเร็วก็สามารถไปลั้ลลากับเพื่อนหรือกลับมานั่งเม้ามอยกับครอบครัวและหมาๆ

เพราะชีวิตไม่ได้มีแต่การทำงาน นีน่าถึงเลือก Refinitiv