รักษาความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่ออนาคต | Go!

ความท้าทายสำคัญในการสร้างโปรเจกต์ร่วมกับทีมงานอาสาสมัคร คือ ‘การรักษาทีมให้อยู่ด้วยกันไปตลอดทาง’ และเป้าหมายปลายทางของโปรเจกต์ก็อาจไม่เกิดขึ้น หากไม่มีคนซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญในการขับเคลื่อนผลงานไปจนจบเช่นเดียวกัน

ทางลัดในการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่ออนาคต

🎯 ตอบโจทย์เป้าหมายส่วนตัว เพื่อเป้าหมายส่วนรวม

ก้าวแรกของการสร้างแรงจูงใจในการทำงานร่วมกันของงานอาสาสมัครคงหนีไม่พ้น ’การตอบโจทย์เป้าหมายส่วนตัว’ ดังนั้นคนที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำทีมต้องคอยสังเกต ทำความเข้าใจความคาดหวังของแต่ละคนที่มาเข้าร่วมทีม เพื่อให้การมอบหมายงานและความรับผิดชอบนั้นสามารถตอบโจทย์เป้าหมายส่วนตัว ส่งเสริมให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพจน ‘ก่อร่างขึ้นมาเป็นผลงานที่บรรลุเป้าหมายส่วนรวม’

“ต้องเข้าใจว่าเค้าต้องการอะไร ในการมาทำโปรเจกต์นี้” Taew

“แต่ละคนมี take ที่ไม่เหมือนกัน บางคนอยากที่จะเข้ามาสังเกตการเฉยๆ บางคนอยากเข้ามาเปลี่ยนแปลง ดังนั้นความหลากหลายนี้เป็นสิ่งที่ต้อง manage” Ben

“พี่แตว พี่เมย์เป็นคนเข้าใจคนว่าใครคิดอะไรอยู่ bring vibe/ มีไอเดียที่หลากหลาย” Nuknik

มาดูกันว่าเป้าหมายที่คนในทีม Saku คาดหวังจากงานอาสาสมัครมีอะไรกันบ้าง

●ค้นหาตัวเองและเรียนรู้ทักษะใหม่ (Playground for Professional)
หลายคนมองงานอาสาสมัครเป็น ‘พื้นที่แห่งการเรียนรู้’ ที่เปิดโอกาสให้คนทุกวัย ได้มาแลกเปลี่ยนมุมมองจากคนต่างสาขาอาชีพเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเอง รวมไปถึงการทดลองงานในสายอาชีพใหม่ ที่นำไปสู่โอกาสในโลกแห่งอนาคต

“เราอายุ 40 แล้ว ต้องหาประสบการณ์เร็วๆ เลือกมาทำ volunteer เพราะไปสมัครองค์กร เค้าคงไม่อยากจ่ายเงินให้คนอายุเท่านี้ได้เรียนรู้หรอก” Paul

“กำลังจะเปลี่ยนสายงานพอดี ได้ประสบการณ์ ได้ทดสอบตัวเองว่าชอบอะไร เปิดโลกใหม่ ปกติอยู่แต่ในคนแวดวงเดียวกัน” Nuknik

●สนามแห่งการปล่อยของ (Space for Social Contribution)

หลายคนมองงานอาสาสมัครเป็น ‘พื้นที่ที่จะได้ใช้ทักษะที่มีให้เกิดประโยชน์’ เป็นสนามที่คนรุ่นใหม่ไฟแรงเก่งๆ ได้มาออกไอเดีย ลงมือแสดงศักยภาพที่มีให้ออกมาเป็นผลงานที่เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม นอกจากจะได้แสดงศักยภาพแล้วยังได้ประสบการณ์จากการแลกเปลี่ยนมุมมองกับคนที่หลากหลายอีกด้วย

“โปรเจกต์นี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้จัดการทีมที่ค่อนข้างใหญ่” Ben

🤝 ต่อยอดความสัมพันธ์ไปในอนาคต

ในท้ายที่สุดถึงโปรเจกต์จะจบลง แต่สิ่งที่จะไม่มีวันจบ คือ ‘ความสัมพันธ์ของคนในทีม’ ที่จะกลายมาเป็นเพื่อน เป็นพาร์ทเนอร์ที่รู้ใจ ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่คนในทีมมองว่ามีค่าที่สุด และแน่นอนว่าความสัมพันธ์ในวันนี้อาจขยายวงกว้างกลายเป็นเครือข่ายนำไปสู่การสร้างไอเดียใหม่ โปรเจกต์ใหม่ ที่สร้างอิมแพคต่อสังคมร่วมกันอีกครั้งในอนาคต

“รู้จักไปแล้วก็เลิกรู้จักไม่ได้”​ Ben

“Relationship คือสิ่งที่ value มากที่สุด โปรเจกต์ Saku ทำให้ได้รู้จักคนใหม่ๆ คนที่รู้จักอยู่แล้วก็ได้รู้จักในมุมใหม่” May

“ทำโปรเจกต์นี้แล้วมีความสุข ได้มิตรภาพใหม่ๆ เจอคนที่กำลังสร้างอิมแพคในหลาย area” Teaw