[Alexa] น้อง Alexa พาเพลิน — มาลองเล่น Echo Dot กัน

Sathittham (Phoo) Sangthong
SS Blog
Published in
5 min readNov 20, 2016

หลังจากที่ก่อนหน้าผมได้เคยลองทำ Alexa ด้วย Raspberry Pi(AlexaPi) ก่อนหน้านี้แล้ว ก็เพิ่งจะได้มีโอกาสได้ใช้เจ้า Amazon Echo หรือน้อง Alexa ตัวจริงครับ ซึ่งเป็นรุ่น Amazon Echo Dot (2nd Generation) ซึ่งวันนี้เราจะมาลองเล่นกันดูครับ ว่าความสามารถนั้นสมราคาไหม

Amazon Echo, Amazon Tab, Echo Dot คือชื่อรุ่นอุปกรณ์ของ Amazon นะครับ ส่วน “Alexa” คือชื่อ Voice Service (AI)ที่ทำงานในอุปกรณ์เหล่าน ี้(คล้าย ๆ Siri ของ Apple นั้นหล่ะ)

Echo Dot (2nd Generation)

Echo Dot (2nd Gen)
  • Echo Dot (2nd Generation) เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานแบบ voice-controlled ด้วย Alexa สั่งให้เล่นเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หาข้อมูล อ่านข่าว ตั้งเวลา และอื่น ๆ ได้
  • มีช่องต่อกับลำโพงหรือหูฟังขนาด 3.5 มม. แบบสาย Stereo เล่นเพลงได้ทั้งจาก Amazon Music, Spotify, Pandora, iHeartRadio, TuneIn
  • ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ได้ทั้ง WeMo, Philips Hue, Samsung SmartThings, Nest, ecobee และอื่น ๆ
  • ระบบได้ยินเสียงระยะไกล 7 จุด (far-field microphone) ใช้ได้แม้ขณะมีเสียงรบกวนหรือฟังเพลงอยู่
  • มีลำโพงขนาดเล็กมาด้วย
  • ขนาด 32 มม. x 84 มม. x 84 มม.
  • WiFi แบบ Dual-band 802.11 a/b/g/n (2.4 และ 5 GHz) (ไม่สามารถทำงานแบบ ad-hoc หรือ peer-to-peer ได้)
  • Bluetooth สนับสนุการ Streaming เสียง แบบ Advanced Audio Distribution Profile (A2DP) จากมือถือมายัง Echo Dot หรือจาก Echo Dot ไปยัง ลำโพงแบบบลูธูล ส่วนลำโพงบลูธูลแบบที่ต้องในรหัส PIN จะไม่สามารถใช้งานได้นะครับ
  • ในกล่องประกอบไปด้วย Echo Dot, power adapter (9W), Micro-USB cable, และคู่มือ Quick Start Guide Echo

ญาติพี่น้องของ Alexa

Amazon Echo รุ่นต่างๆ
  • Amazon Echo
    พี่ใหญ่ รุ่นแรกที่ออกมาครับ ออกแบบมาเป็นแบบสเตชั่น เสียบปลั๊กไฟ คล้าย ๆ กับ Echo Dot ครับ ต่างกันที่รุ่นนี้ไม่มีช่อง Audio Out ทั้งแบบ AUX และ Bluetooth เสียงเป็นแบบ Mono ไม่มีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ขนาดใหญ่ ราคา $179.99 ครับ
  • Amazon Tab
    พี่กลาง เป็นแบบ Portable หรือ เคลื่อนย้ายได้ครับ มีแบตเตอร์รี่ในตัว WiFi มีแค่ช่วงความถี่ 2.4 GHz (รุ่นอื่นมี 5 GHz ด้วย) มีช่อง Audio In (ไม่มี Audio Out) ต้องใช้ปุ่มกด เพื่อเริ่มคุยกับน้อง Alexa (รุ่นอื่นใช้เสียงเรียกน้อง Alexa ได้) ขนาดกลางๆ ราคา $129.99 ครับ
  • Echo Dot (2nd Generation)
    น้องเล็ก ล่าสุด ออกแบบมาเป็นแบบสเตชั่น เสียบปลั๊กไฟ คล้าย ๆ กับ Amazon Echo พี่ใหญ่ ต่างกันที่รุ่นนี้มี Audio Out ทั้ง AUX และ Bluetooth เสียงเป็นแบบ Stereo มีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ขนาดเล็ก ราคา $49.99 ครับ

Accessories (ไม่รวมมาด้วยนะครับ)

อันนี้เอามาให้ดูเฉย ๆ ครับ เค้าก็พยายามจะขายอุปกรณ์เสริมอยู่เหมือนกัน

Voice Remote for Amazon Echo และ Echo Dot

Official remote สำหรับ Amazon Echo และ Echo Dot (ใช้ไม่ได้กับ Amazon Tap) เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ซึ่งช่วยให้สั่งงานน้อง Alexa ได้ในที่ไกล ๆ หรือที่ที่มีเสียงรบกวนมาก ๆ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทีละเครื่องครับ ค่าตัวอยู่ที่ $29.99 ครับ

Amazon Echo Dot Case (6 แบบ)
Saddle Tan Leather

เคสที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับใส่ Echo Dot (2nd Gen) มี 6 แบบ เพื่อให้เหมาะกับห้องแต่ละน้องนั้นเอง วัสดุมีทั้งแบบหนังและผ้า ราคาตั้งแต่ $14.49–$19.99

มาเริ่มใช้งาน Echo Dot กันเลย

ในที่นี้ผมจะใช้วิธีการตั้งค่า Echo Dot ผ่านคอมพิวเตอร์ และเว็บ Browser ครับ เพื่อไม่ต้องไปวุ่นวายกับการดาวโหลด App บนมือถือ (ทั้ง iOS และ Android) ซึ่งวิธีการก็จะเหมือนกันครับ

ตั้งค่า WiFi ให้กับ Echo Dot

  • เปิด Web Browser และเข้าไปที่ http://alexa.amazon.com/
  • ใครยังไม่มี Account ของ Amazon ให้สมัครก่อนนะครับ ใครมีแล้วให้ Login เข้าไปได้เลยครับ
Login to your Amazon Account
  • เมื่อเข้ามาที่หน้าของ Amazon Alexa แล้ว ให้เลือก เมนู Settings แล้วเลือก Set up a new Device เพื่อเพิ่ม Echo Dot ของเราไปใหม่ครับ (ของผมมีอยู่แล้วครับ)
Setting > Set up a new device
  • เลือก Echo Dot (ใครใช้รุ่นอื่นก็เลือกรุ่นอื่นได้ครับ)
Select Echo Dot
  • ระบบจะถามให้เราทำการ Login อีกรอบ ก็กด Continue ไปครับ แล้วทำการ Login เข้ามาใหม่
Continue to sing in again
  • แล้วจะเข้ามาที่หน้า Echo Dot Setup ครับ ให้ทำการเลือกภาษา ในที่นี้คือ English (US) แล้วกด Continue
Select your language
  • เริ่มการตั้งค่า WiFi โดยกดปุ่ม Connect to Wi-Fi
Setup Echo Dot to Connect to Wi-Fi
  • กดปุ่ม Action ค้างไว้ 5 วินาที จนกระทั้งเห็นไฟสีส้มวิ่งรอบ Echo Dot แล้วกดปุ่ม Continue
Hold the action button for 5 seconds
  • ย้ายคอมพิวเตอร์ไปเชื่อมต่อ WiFi SSID ของ Echo Dot ที่สร้างขึ้นมาครับ โดยชื่อจะประมาณ Amazon-XXX ครับ
connect to Echo dot SSID
  • เมื่อย้ายคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกับ Echo Dot แล้ว ให้กด Continue ต่อไปได้ครับ
Connected to Echo Dot
  • จากนั้นเลือก WiFi SSID ที่เราอยากจะให้ Echo Dot ไปเกาะเพื่อเชื่อมต่อกับ Internet ครับ (ระบบจะสแกน WiFi SSID ที่เห็นทั้งหมดมาให้)
Select your Wi-Fi network
  • เมื่อเลือกได้แล้ว ก็ใส่ Password ไปครับ กด Connect ได้เลย
Fill in you password for your selected Wi-Fi
  • รอสักครู่ จนกว่า Echo Dot จะเชื่อมต่อได้ครับ
Wait
  • เสร็จแล้ว ให้เรากลับเข้ามาที่หน้า Dash board ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ
Done

มาคุยกับน้อง Alexa กัน !

หลังจากตั้งค่า WiFi ให้ Echo Dot ก็ถึงเวลาอันรอคอย คือการที่จะได้คุยกับน้อง Alexa ครับ … โดยปัจจุบันที่ผมเขียนบทความนี้อยู่ เราจะคุยกับน้อง Alexa ได้เฉพาะภาษาอังกฤษ US, อังกฤษ UK และ เยอรมันเท่านั้นครับ ซึ่งคำถามก็เป็นภาษาพูดปกติได้เลยครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปแบบเจาะจงครับ (คล้ายๆ คุยกับ Siri ครับ)

ทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มคุยต้องเริ่มต้นประโยคด้วยชื่อ “Alexa” ครับ
เช่น “Alexa, Who are you?”, “Alexa, What time is it ?”

ถามคำถามทั่วๆไป

  • “Alexa, Who are you ?”— คุณคือใคร ?
  • “Alexa, What time is it ?”— กี่โมง ? (เป็นเวลาตามสถานที่ ๆ เราตั้งค่าไว้ ซึ่งได้เฉพาะต่างประเทศ คำตอบของเวลาที่ถามนี้จึงไม่ตรงกับบ้านเราครับ)
  • “Alexa, What time is it in Bangkok ?” — ที่กรุงเทพเวลากี่โมง ? (ต้องเพิ่มเมืองที่เราอยากรู้เวลาไปด้วยครับ)
  • “Alexa, What is the weather like in Bangkok ?”— ที่กรุงเทพอากาศเป็นอย่างไร (เช่นกันกับเวลาครับ ต้องเพิ่มสถานที่ไปด้วย)

คำสั่งเกี่ยวกับเพลง

บ้านเราสามารถใช้บริการฟังวิทยุออนไลน์ TuneIn ได้ครับ แต่เราต้องเป็นสมาชิกของ TuneIn และตั้งค่า TuneIn ให้กับ Echo Dot ก่อนนะครับ ซึ่งเราจะลองมาเล่นดูกัน (เดี๋ยวผมจะเขียนบทความแยกอีกทีนะครับ)

  • “Alexa, play FM ONE on TuneIN ”— เปิดวิทยุช่อง FM ONE (103.5) ใน TuneIn
  • “Alexa, Volume up”— เพิ่มเสียง(หรือจะลดเสียง ก็สั่ง Volume down ครับ)
  • “Alexa, Set volume to 7”— ปรับเสียงไปที่ระดับ 7 (ได้ระดับ1–10)
  • “Alexa, Stop” — หยุด!
  • “Alexa, Turn on TuneIn” — เปิดเพลงจาก TuneIn (เล่นเพลงต่อจากสถานีเก่า)
Music Services

คำสั่งเกี่ยวกับอุปกรณ์ Smart Home

คำสั่งเหล่านี้ต้องมีอุปกรณ์ Smart Home ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Echo ด้วยนะครับ ซึ่งก็ต้องตั้งค่าของอุปกรณ์และที่ Echo ก่อนเช่นกันครับ (เดี๋ยวผมจะเขียนบทความแยกอีกทีนะครับ)

  • “Alexa, Tune on the Light” — เปิดไฟ
  • “Alexa, Tune off the Light” — ปิดไฟ
Smarthome devices

คลิปตัวอย่างการทดสอบสกิลของน้อง Alexa ครับ

สิ่งที่ผมใช้ในการทดสอบ ประกอบด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ครับ

  • 1 x Echo Dot
  • 1 x TP-Link Smart Plug (HS110)
  • 1 x Fake WeMo Smart Plug (ทำเองจาก Espressolite V.2.0 + Relay Module)
  • 2 x Lamp
  • 1 x Speaker
  • 1 x Internet Connection
Test Amazon Echo Dot Basic Skills

สรุป

จากที่ได้ทดลองใช้งานอยู่ 2 สัปดาห์ ความเห็นของผมสรุปข้อดีข้อเสียไว้ดังนี้ครับ

ข้อดี

  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Recognition) ทำงานได้ดีครับ แม้ภาษาอังกฤษสำเนียงไทยก็พอที่จะสั่งงานได้ครับ
  • ขนาดเล็กดีครับ
  • ทำงานร่วมกับ Application และอุปกรณ์ Smart ต่าง ๆ ได้เยอะมากครับ และมีใหม่ๆ อัพเดทเรื่อย ๆ
  • ราคาสมเหตุสมผล กับประสิทธิภาพ และสิ่งที่ได้รับครับ
  • รองรับการเชื่อมต่อ Audio Out ทั้งแบบ AUX และ Bluetooth

ข้อเสีย

  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Recognition) รองรับเพียงภาษาอังกฤษแบบ US/UK และ เยอรมันเท่านั้น ภาษาอื่น ๆ เช่นภาษาไทย คงต้องรอต่อไป(อีกนาน)ครับ
  • การตั้งค่าต่างๆ เช่น สถานที่ เวลา ยังทำได้เพียงในสถานที่ๆ Echo Dot ขายอย่างเป็นทางการเท่านั้น (US, UK, Germany)
  • ระบบ Far Field Communication ยังใช้งานในที่เสียงดัง ๆ ไม่ค่อยดี (อย่างที่โฆษณาเท่าไหร่)
  • Echo dot พกพาไม่ได้ เนื่องจากไม่มีแบตเตอร์รี่ในตัว
  • AI ของ Alexa อาจจะยังไม่ค่อย Powerful เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ Google Home (อันนี้ผมดูจาก Review ที่เขามาเทียบกันนะครับ)
  • ยังใช้งานกับมือถือได้ไม่มากนัก เช่น ส่ง/อ่านข้อความจาก Message (SMS) (ล่าสุดทำได้แค่ AT&T)

อ้างอิง

--

--

Sathittham (Phoo) Sangthong
SS Blog

Hi! It's me Phoo! I’m a Software Developer 👨‍💻 , a Startup Entrepreneur 📱 and a Runner 🏃 . Currently, I’m a Co-Founder and CTO of a Startup name “Urbanice”.