[RPi] เข้าใช้งาน Raspberry Pi ด้วยวิธี Remote Desktop (RDP) ทั้ง 5 แพลตฟอร์ม
Remote Desktop หรือการเข้าใช้งาน Raspberry Pi แบบ GUI ด้วย RDP ผ่านระบบเครือข่าย เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำได้ง่าย ๆ ครับ (นอกจากการใช้ VNC) … โดยบทความนี้จะสอนใช้งาน RDP ทั้งหมด 5 แพลตฟอร์ม ทั้งบน Windows, macOS, iOS, Linux และ Android ครับ
RDP คืออะไร ?
RDP หรือ Remote Desktop Protocol คือ โปรโตคอลที่พัฒนาโดย Microsoft ที่ไว้สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ผ่านระบบเครือข่าย ซึ่งแสดงผลแบบกราฟฟิค หรือ GUI (Graphic User Interface) ผู้ที่จะเข้าใช้งานจะต้องมีซอฟแวร์ RDP client ส่วนคอมพิวเตอร์ที่ให้เข้าใช้งานจะต้องมีซอฟร์แวร์ RDP Server ปกติจะใช้ TCP port 3389 และ UDP port 3389
มาเริ่มติดตั้ง RDP Server ที่ Raspberry Pi กันครับ
ซอฟต์แวร์ RDP Server ที่จะใช้คือ xrdp ครับ
- ต่อ Raspberry Pi เข้ากับ Network เดียวกันกับคอมพิวเตอร์
- หา IP ของ Raspberry Pi ด้วยคำสั่ง ifconfig … และจำ IP ไว้ครับ
- ที่ Terminal ของ Raspberry Pi ให้พิมพ์คำสั่ง
sudo apt-get install xrdpเข้าใช้งานบน Windows
บน Windows จะซอฟต์แวร์ RDP Client อยู่แล้วครับ สามารถเปิดใช้งานได้เลย
หมายเหตุ
*จากตัวอย่างผมใช้ Windows 10 นะครับ
- ที่ช่อง Search พิมพ์ > Remote Desktop Connection
- ที่ช่อง Computer : ให้ใส่ IP ของ Raspberry Pi ลงไป
- กดปุ่ม Connect
- กด YES เพื่อยืนยันการเข้าใช้งานไปครับ
- ก่อนเข้าใช้งานให้ล๊อคอินด้วย Username/Password ของเราไปครับ แล้วกด OK
- ถ้า Default จะเป็น pi/raspberry ครับ
- เข้ามาแล้วครับ ก็ใช้งานได้ปกติเลยครับ…เสร็จแล้วครับ ง่ายมว๊าากกก !
เข้าใช้งานบน macOS (Mac)
บน OS X ผมจะใช้ซอฟต์แวร์ RDP Client ของ MS ที่ชื่อว่า Microsoft Remote Desktop
หมายเหตุ
*จากตัวอย่างผมใช้ OS X Yosemite 10.10.5 นะครับ
- เข้าไปที่ Mac App Store แล้วดาวโหลดแอพ Microsoft Remote Desktop > https://itunes.apple.com/en/app/microsoft-remote-desktop/id715768417?mt=12
- เปิดแอพพลิเคชั่น แล้วกด New ใส่รายละเอียดไปครับ
- PC Name ใช่ IP ของ Raspberry Pi
- Username
- Password
- Start
- เราเลือกว่าจะให้ถามทุกครั้งก็กด Connect Once แต่ถ้าให้อนุญาตใช้งานตลอดก็ Connect Always
- เรียบร้อยครับ ใช้งานได้แล้ว
เข้าใช้งานบน Linux (Ubuntu)
บน Ubuntu จะซอฟต์แวร์ RDP Client อยู่แล้วครับ สามารถเปิดใช้งานได้เลย
หมายเหตุ
*จากตัวอย่างผมใช้ Ubuntu 16.04 นะครับ
- เปิดโปรแกรม Remmina Remote Desktop Client
- สามารถใส่ IP ของ Raspberry Pi แล้วกด Connect แบบเร็วๆได้เลยครับ
- เข้ามาจะติดหน้าล๊อคอิน ใส่ Username/Password ไปก็เรียบร้อยครับ
- เข้าใช้งานได้ปกติแล้วครับ
เข้าใช้งานบน iOS (iPhone, iPad)
บน iOS ผมจะใช้ซอฟต์แวร์ RDP Client ที่ชื่อว่า iRDP นะครับ
หมายเหตุ
* จากตัวอย่างผมใช้ iOS 9.3.2 นะครับ
**แอพพลิเคชั่นของ Microsoft Remote Desktop บน iOS ก็มีนะครับ แต่รู้สึกว่าจะติดบั๊กที่ Virtual Keyboard ใช้งานได้ครับ
- ที่ iPhone หรือ iPad ให้โหลดโปรแกรม iRDP > https://itunes.apple.com/us/app/irdp/id464560206?mt=8
- เปิดโปรแกรม iRDP แล้วเพิ่ม Servers เป็น IP ของ Raspberry Pi ของเรา
- เท่านี้ก็ใชงานได้แล้วครับ….ง่ายอีกแล้ว
- Virtual Keyboard ก็ใช้ได้นะครับ
เข้าใช้งานบน Android
บน Android ผมจะใช้ซอฟต์แวร์ RDP Client ที่ชื่อว่า Remote RDP Lite นะครับ
หมายเหตุ
*จากตัวอย่างผมใช้ Android 4.3.3 นะครับ
**แอพพลิเคชั่นของ Microsoft Remote Desktop บน Android ก็มีนะครับ แต่รู้สึกว่าจะติดบั๊กอยู่เยอะเหมือนกันครับ
- ดาวโหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่น Remote RDP Lite ครับ > https://play.google.com/store/apps/details?id=org.toremote.rdpdemo&hl=en
- กดปุ่ม + เพื่อเพิ่ม Connection
- ใส่รายละเอียดลงไปครับ
- Host : IP ของ Raspberry Pi
- User : (ที่เราตั้งไว้ใน Raspberry pi)
- Password : (ที่เราตั้งไว้ใน Raspberry pi)
- กดไปที่ชื่อ Connection ที่เราเพิ่งสร้างมาได้เลยครับ
- กำลังเชื่อมต่อ….
- เข้าใช้งานได้แล้วครับ
- ลองพิมพ์ด้วย Virtual Keyboard ก็ใช้งานได้ปกติครับ
- มี Options อยู่ด้านล่างขวาครับ สามารถย่อ ขยายหน้าจอได้
- ลองขยายเต็มหน้าจอ สเกลจะเพี้ยนๆครับ กลับไปแก้ที่หน้าตั้งค่าตอนแรกสุดน่าจะดีกว่าครับ
- ที่เมนูบาร์ของแอนดรอยด์ จะมี option ซ่อนอยู่อีกอันนึงครับ เลิกใช้งานก็ Disconnect ไปได้เลยครับ
สรุป
ถือว่าเป็นวิธีการ Remote Access แบบ GUI ที่ง่ายมาก ๆ วิธีหนึ่งครับ เหมาะสำหรับไว้เป็นเครื่องมือสำหรับมือใหม่ ที่ต้องการเข้าใช้งาน Raspberry Pi แบบ GUI แต่ไม่มีหน้าจอมอนิเตอร์ หรือใช้งานนอกสถานที่ด้วย มือถือหรือแทปเล็ตก็ได้ครับ
ในตัวอย่างนี้เราทำในวงเน็ตเวิร์กเดียวกัน (ที่มีคนใช้งานไม่กี่คน) จึงใช้งานได้ปกติดี ไม่หน่วงมาก จึงอาจทำให้ไม่เห็นจุดด้อยเท่าไหร่…คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะลองแบบเข้าผ่าน Internet ดูบ้างนะครับ
