ในวันที่แม้แต่พระเจ้าก็ไม่เข้าข้าง

Save Pongsiri
savepong
Published in
2 min readSep 14, 2018

หลังจากที่เจอไข้รับประทานมา 3 วันติด แต่วันนี้ดีขึ้นนะช่วงกลางวันไม่ค่อยมีอาการแล้ว เริ่มต้นวันเหมือนจะดีอยู่หรอก แต่พอหลังจากมี message นึงเข้ามาจากไลน์ที่ใช้คุยกับลูกค้า เห็นแล้วถึงกับไข้กลับมาเลยทีเดียว

“ถ้าวันนี้คุณไม่สามารถส่งไฟล์ app ให้ฉันได้ คุณหรือเพื่อนคุณใครสักคนต้องบินมาที่นี่” ข้อความที่ดูเหมือนเรียบๆ ดูไม่มีพิษภัยนี้ แต่ถ้าให้บอกถึงความหมายแอบแฝงละก็… มันค่อนข้างร้ายแรงเลยแหละ (ไม่งั้นไข้จะกลับมาสูงปิ๊ดดดหรอ)

แล้วมันร้ายแรงยังไงล่ะ?

เรื่องแรกเลย app ยังไม่เสร็จ 1 กระทง, Server ยังใช้ไม่ได้อีก 1 กระทง, อ่านแล้วไข้ขึ้น (เช็คอีกทีเป็นไข้หวัดใหญ่เลยแหละ) ไม่มีแรงทำงานอีก มันทั้งหนาว(ถึงกระดูก) ทั้งเพลียในตอนกลางวัน และถ้าต้องไปจริงในสภาพแบบนี้คงไม่รอดแน่ ยังมีเรื่องนึงคือพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์และอาทิตย์ติดเรียน ป.โท ที่ใช้สิทธิ์ขาดจนอาจารย์ไม่ให้อีกแล้วด้วย(อันนี้เรื่องใหญ่)

ต้องทำให้เสร็จอย่างเดียวสินะ…

โปรเจคนี้เป็นงานที่ยากที่สุดที่ออฟฟิศเราเคยรับมา เพราะมัน native app ตัวแรกที่เราเริ่มสร้างจากศูนย์ เรียกว่าเรียนรู้ไปพร้อมกับทำเลย ถามว่าพอรู้มาบ้างมั้ย? ก็งูๆปลาๆ แต่ยังไม่เคยทำ ตอนนั้นรับโปรเจคนี้มาด้วยความที่ต้องรับแต่ก็แอบมั่นใจว่าตัวเองทำได้ ถ้าไม่ทำงานยากเราก็ไม่พัฒนาจริงมั้ย?

ถามว่ารับงานนี้มาแล้วทำเองทั้งหมดหรอ? ตอบเลยว่าไม่หรอก ฮ่าๆๆ รับมาแล้วก็มาตั้งทีมพัฒนาโปรเจคนี้กันอีกที โชคดีที่ในออฟฟิศมีน้องเบนซ์ที่เคยเขียน app แบบนี้เล่นๆ มาบ้าง แต่ตอนนี้น้องไม่ว่างเลยมาช่วยไม่ได้ โชคดีของโชคดีคือมีน้องฝึกงานมาขึ้นโปรเจคก่อนช่วงแรก และมันก็ทำให้เราผ่าน phase แรกของการส่งงานมาได้

กลับมาที่เรื่องวันนี้ มันเป็นวันเลยกำหนดของ phase ที่สองมาได้ 2 สัปดาห์แล้วครับ ยอมรับว่าผิดเต็มๆ มาตั้งแต่เลทอยู่แล้ว และวันนี้ก็ดูเหมือนว่ายังไม่พร้อมส่งงานอีก
น้องเบนซ์ผู้ซึ่งเป็นตัวหลักในงานนี้ก็เร่งทำสุดฝีมือ แต่เพราะทีมเรายังใหม่กับงานนี้มาก (โดยเฉพาะผมนี่แหละ T_T)

ด้วยความโลกสวยมาตลอดทำให้ตอนนี้ทดสอบใช้งานกันเราใช้กันได้ใน office และนอก office ได้ปกติ มีคนหลายๆ ประเภทมาช่วยกันทดสอบให้เรา แต่ทั้งหมดนั้นอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด และลูกค้าอยู่ต่างประเทศจ้าา

หลังจากที่ส่ง Version Beta บินข้ามประเทศไปให้ลูกค้าทดสอบ (บินผ่าน Private Cloud ไปหรอก) ผลที่ตามมาคือลูกค้า Login ไม่ได้ เรื่องใหญ่มั้ยละ ยังไม่ต้องทดสอบอะไรเลย แค่โหลดแล้วเปิดแอปมาแล้ว Login ก็ไม่ได้ซะแล้วงานนี้รับผิดไปเต็มๆ แต่ก็อ้างว่าเน็ตเวิร์คที่นั่นอาจจะมีปัญหา โบ้ยไปนู้น ฮ่าๆๆๆ แต่ก็มีปัญหาจริงๆ ครับเพราะน้องอีกคนนึงคือน้องจ๊อบที่จัดการเรื่องเซิร์ฟเวอร์ให้อยู่ แจ้งว่าอีกประเทศนึงสามารถใช้งานได้ แต่ประเทศที่ลูกค้าอยู่มันไม่ได้!!! ก็ต้องย้ายเซิร์ฟเวอร์นะสิ

วันนี้เป็นวันศุกร์วันเดียวที่เหลือของสัปดาห์นี้(พูดทำไม) และเป็น Deadline ที่ต้องส่งงานลูกค้า แถมต้องย้ายเซิร์ฟเวอร์ใหม่ แถมแอปยังไม่สมบูรณ์ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีอีกอย่างนึงคือ “ป่วย”

แต่ถ้าเราไม่เริ่มลงมือมันก็ไม่เสร็จจริงมั้ย? เวลานั้นเป็นตอนใกล้ๆ เที่ยงวัน ผมก็ลุยกันทั้งป่วยๆ นี่แหละ เอาล่ะเริ่ม เริ่ม เริ่มสิ….. เริ่มจากอะไรดี….. คิดไม่ออก..… ตื้อ….… โอ้ยยยย สมองมันไม่แล่นซะเลย มันช้าาาไปซะหมดตอนป่วยเนี่ยยย แย่แล้วทางนู้นก็ไลน์มาไม่หยุดตามงานถี่หยิบ กดดันๆ คิดไม่ออกๆ ลุกจากคอมฯ ไปเซเว่นแม่งเลย ฮ่าๆ ไม่มีเหตุผลอะไรแล้ว ไปหากาแฟสักแก้วดีกว่า อย่างน้อยระหว่างทางเห็นอะไรแล้วเผื่อจะคิดออก

ผลคือ.... หนักว่าเดิมครับที่นี้… นอกจากจะมึนเพราะเมายาแก้ไข้แล้ว ยังจะดีดเพราะกาแฟอีก เดินไม่หยุด พูดไม่รู้เรื่อง เอาสิ เอาเข้าไป

เล่าสรุปเลยละกันว่าพอกาแฟหมดฤทธิ์ไข้ก็กลับมา เวลาตอนนั้นก็เย็นมากแล้วด้วย ผมไม่มีทางอื่นนอกจาก (ทำงานให้เสร็จ?)….

นอน zzzZZZz

ใช่ครับ นอนพักผ่อนนี่แหละครับ ทิ้งน้องเบนซ์แก้ทั้งแอปและย้ายเซิร์ฟเวอร์แทน (แบกทีมมาก) ไม่ไหวจริงๆ ครับ หมดแรงทั้งตัว แถมหนาวยังกะแช่น้ำแข็ง วาร์ปไปนอนแป๊ป

หายไปประมาณชั่วโมงนึง…

เชื่อครับเหมือนเปลี่ยนร่างกาย ลุกมาอีกที เห้ยยย ดีขึ้นแล้ว ใช้เวลานั่งคิดว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน ก่อนหน้านี้ทำอะไรอยู่สักพัก แล้วก็นึกได้ว่า น้องเบนซ์มันยังทำงานอยู่นี่หว่า ตายแล้วน้องบอกไม่ถนัด config linux server ด้วย ใช่สินั่นมันงานโผมมมม

รีบไปหาน้องกำลังนั่งจ่ออยู่ที่คอมส่วนตัวของผมเอง ใช่ครับน้องกำลังทำเซิร์ฟเวอร์ให้อยู่จริงๆ และที่น่าทึ่งก็คือ น้องมันทำเกือบจะเสร็จแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ว้าาาว
เรียนรู้เองได้ไวมากกก ตบมือให้เลยจริงๆ ถึงแม้ในใจก็สงสารน้องที่ต้องมาทำแทนพี่ แต่อีกใจนึงก็ต้องชื่นชมจริงๆ ในความสามารถในการเรียนรู้อย่างเร็ว และแก้ปัญหาได้ทัน เหลือนิดหน่อยที่ผมมาช่วยปรับ อันนั้นก็เพราะประสบการณ์ (ซึ่งเชื่อว่าถ้ามีเวลาน้องก็จะทำได้แน่นอน)

น้อง Benz Nuttakris

ผมรีบต่อสายหาลูกค้าทันทีเลย ทวงงานมาทั้งวัน ตาผมเอาคืนบ้างล่ะ ฮ่าๆๆ ก็ดีแล้วไงรีบสรุปรีบส่งให้ลูกค้าตรวจ มีเวลาเหลือจะได้ปรับทัน ส่งงานพร้อมน้ำตา และบทละครดราม่าสารภาพไปตรงๆว่าวันนี้ป่วยหนัก ไม่ได้ทำอะไรเลย และทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ด้วยคำพูดจากลูกค้าว่า

“Thank god. We can log in. Important step log in is done.” พระเจ้าอะไรกันฝีมือน้องผมล้วนๆ น้องผมนี่แหละพระเจ้า ฮ่าๆๆ แต่ก็ดีใจจริงๆ ที่ผ่านมาได้ ดราม่าแต่จบสวย

เดี๋ยวๆ เหมือนทุกอย่างจะ Happy Ending นะ แต่ตอนจบหักมุมนิดหน่อย คือลืมกุญแจรถไว้ในรถ และออกไปกินข้าวข้างนอกประมาณชั่วโมงครึ่ง พอจะกลับเท่านั้นแหละ หาไปเหอะ หาตาเหลือก มันหายไปไหนหว่าาา พอเจอในรถก็โล่งใจรถไม่หาย

เบลอหนักมาก พรุ่งนี้เรียนเช้าด้วย ควรนอน แต่ก็ไม่ง่วงอีก นอนมาแล้วตาใสเลย..

สิ่งที่ได้เรียนรู้คือไม่ว่าวันนี้มันจะยากสักแค่ไหน ถ้ายังไหวก็สู้ แล้วมันจะผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนถ้าไม่ไหวก็ไปนอน จบ.

ปล. ขอบคุณน้องเบนซ์ Nuttakris มากครับวันนี้ วันน้องเป็นพระเจ้าของพี่ไปซะแล้ว

--

--

Save Pongsiri
savepong

ศิลปินด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ มีเป้าหมายคือพัฒนาตัวเองให้ยืดหยุ่นที่สุด ชอบความเรียบง่าย,ดนตรี,กีฬา และแมว