SCB Co-operative Program 2022 @Security Advisory Team — EP.1

bankptn
SCB Engineer
Published in
2 min readMar 1, 2022

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การสมัครและฝึกงาน ในบริษัทด้านธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของไทย อย่าง SCB กันครับ ซึ่งการฝึกงานในครั้งนี้ เป็นการฝึกงานในรูปแบบสหกิจศึกษาระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือน มกราคม-เมษายน ซึ่งเป็นโอกาสในการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่ใกล้เรียนจบครับ

SCB Co-operative Program จะเป็นโครงการฝึกงานในรูปแบบสหกิจศึกษาที่รับเฉพาะนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เท่านั้น โดยจะเปิดรับสมัครในช่วงไหนนั้น ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลการรับสมัครได้ผ่านทาง careers.scb.co.th เลยครับ

การสมัคร

การฝึกงานของ SCB จะมีหัวข้อ Project ที่น่าสนใจให้เลือกหลากหลายเลยครับ เช่น Enterprise API, Cyber Security in Banking และ Project อื่น ๆ รวมแล้ว กว่า 8 Project โดยที่แต่ละ Project จะแจ้งเพียงหัวข้อและ Scope Project แบบสั้น ๆ รวมถึงสิ่งที่จะได้เรียนรู้จากการเข้ามาฝึกงานที่ Project นั้น ๆ และ Skills หรือ Tools ที่ควรรู้(Required Skill)ก่อนการเข้ามาฝึกงาน เพื่อเป็นจุดดึงดูดนักศึกษาที่สนใจสมัครเข้าฝึกงานครับ ซึ่งแต่ละ Project จะไม่มีการแจ้งชื่อหน่วยงานที่กำกับดูแล เพราะแต่ละองค์กรจะมีชื่อเรียกที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง

ขั้นตอนสมัครเราจะต้องเลือก Project ที่เราสนใจ 2 หัวข้อ และมีการสอบข้อเขียนที่เป็น Aptitude Test หรือข้อสอบความถนัดนั่นเอง ถ้าคะแนนสอบข้อเขียนของเราผ่านเกณฑ์ถึงจะมีโอกาสได้สัมภาษณ์กับพี่ ๆ จากทาง Project ที่เราเลือกไว้ครับ ซึ่งในขั้นตอนการสัมภาษณ์นี้ เราจะได้สัมภาษณ์กับพี่ ๆ จาก Project ที่เราเลือกไว้เป็นอันดับที่ 1 ก่อน ถ้าเราสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่าน เราจะมีโอกาสไปสัมภาษณ์ใน Project อันดับที่ 2 อีกครั้งหนึ่งครับ

Project ที่ผมเลือกไว้เป็นอันดับที่ 1 และอันดับที่ 2 คือ Cyber Security in Banking และ Transform the Digital Banking ครับ ซึ่งผมสัมภาษณ์ในอันดับที่ 1 ผ่าน เลยไม่ได้สัมภาษณ์กับอีกทีมครับ ต้องยอมรับว่าขั้นตอนการสัมภาษณ์และรู้ผลดำเนินการได้เร็วมาก ๆๆๆ หลังผมสัมภาษณ์เสร็จไม่เกิน 5 นาที พี่ ๆ จาก HR โทรมาแจ้งผลการสัมภาษณ์เลย ตอนนั้นตกใจมากครับ เพราะไม่เคยเจอบริษัทไหนที่รู้ผลเร็วขนาดนี้😂 ซึ่งเร็วและดีมาก ๆ ทำให้ไม่ต้องนั่งรอลุ้นผล และยิ่งรู้ผลเร็วยิ่งทำให้มีเวลาเตรียมตัวก่อนการฝึกงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ขอกระซิบไว้ก่อนว่า แต่ละ Project จะรู้ผลช้าเร็วไม่เหมือนกันนะครับ

บรรยากาศตอนสัมภาษณ์ ไม่เครียดเท่าที่คิดครับ พี่ ๆ ที่มาสัมภาษณ์ใจดีมาก ๆ ถามจากสิ่งที่มีใน Resume หรือสิ่งที่เราเคยทำมา มีถามด้าน Technical บ้างประปราย ใช้เวลาไม่นานก็สัมภาษณ์เสร็จครับ

หลังจากจบกระบวนการสัมภาษณ์ทั้งหมด และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ฝึกงานอย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะมีการนัด Meeting จากทาง HR ก่อนเริ่มฝึกงานจริงจำนวน 2 ครั้งครับ โดยที่ครั้งแรกจะเป็นการนัดเจอกันเพื่อพูดคุยรายละเอียดต่าง ๆ ของการฝึกงานเช่น สวัสดิการ ข้อกำหนด รูปแบบการทำงาน รวมถึงให้นักศึกษาจากทีมต่าง ๆ ได้มาเจอและทำความรู้จักกันครับ ส่วนครั้งที่สองจะเป็นการนัดเพื่อให้ได้พูดคุยกับพี่เลี้ยงที่จะมาคอยดูแลเราระหว่างการฝึกงาน เพื่อให้ได้ทำความรู้จักกัน รวมถึงรู้รายละเอียดของงานที่ต้องทำ สิ่งที่ต้องไปเรียนรู้ก่อนเริ่มฝึกงานครับ ซึ่งการทำแบบนี้ผมมองว่าเป็นประโยชน์มาก ๆ เพราะในการฝึกงานที่ผมเคยฝึกมาจะเสียเวลาในช่วงแรกไปกับการเทรนเนื้อหา ภาษาต่าง ๆ ทำให้เสียเวลาไปเปล่า ๆ แต่การที่เราได้รู้และไปเตรียมตัวมาก่อน ทำให้เราสามารถเริ่มทำงานจริงได้เลย(ถึงการเข้าไปทำงานจริง จะมาพร้อมเครื่องหมายคำถามจำนวนมากก็ตาม😢)

การทำงาน

ทีมที่ผมได้เข้ามาฝึกงาน คือทีม Security Advisory ครับ ทีมนี้จะมีหน้าที่หลัก ๆ คือการให้คำปรึกษาด้าน Security กับทีมอื่น ๆ ในบริษัท เช่น ทีม A จะพัฒนา Application ขึ้นมาใหม่ ก็จะต้องผ่านการปรึกษาและตรวจสอบเรื่อง Security จากทีมของเราก่อนครับ นอกจากนี้ก็ยังมีหน้าที่ในการร่าง นำเสนอ รวมถึงปรับปรุงแก้ไข Security Standard เพื่อเป็นมาตรฐานให้กับพนักงานภายในบริษัทอีกด้วย

รูปแบบการทำงานของทีมผมจะเป็น Work From Home เป็นหลักเนื่องจากสถานการณ์โควิดครับ แต่ก็มีเพื่อน ๆ บางทีมที่ต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทอยู่บ้าง รวมถึงตัวผมเองก็มีโอกาสได้เข้าไปทำงานในบริษัทบ้างเป็นครั้งคราวครับ

วันแรกของการฝึกงาน ช่วงเช้าจะเป็น Session ของทาง HR เพื่อให้เรียนรู้เรื่องข้อกำหนดและสถานที่ต่าง ๆ ของบริษัทก่อนเช่น แผนที่คร่าว ๆ ของบริษัท Security Awareness เบื้องต้น ก่อนที่ช่วงบ่ายจะได้เข้าไปคุยกับพี่ ๆ ที่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ซึ่งช่วงบ่ายจะมีเวลาคุยประมาณ 1 ชั่วโมง หลักจากนั้นผมก็โดนลากไปประชุมกับทีมอื่นแบบงง ๆ ทันที เรียกได้ว่า Start รถขับลงถนนใหญ่ตั้งแต่ยังไม่มีใบขับขี่กันเลยทีเดียว🤣 แน่นอนครับ มีเครื่องหมายคำถามเต็มหน้า รวมถึงคิ้วที่ผูกกันเป็นเงื่อนพิรอดเลยทีเดียว😭

หลังจากเริ่มการฝึกงาน ผมก็ได้รู้ว่าทีม Security Advisory จะเป็นทีมที่ยุ่งกันมากครับ พี่ ๆ แต่ละคนจะมีประชุมกับทีมอื่นเกือบทั้งวัน ซึ่งตัวผมเองก็เจอประชุมทั้งบ่ายตั้งแต่วันแรกที่เริ่มฝึกงานเลยครับ และยิ่งการฝึกงานครั้งนี้เป็นการที่ได้เข้าไปทำงานจริง ๆ ทำให้ช่วงแรก ๆ ค่อนข้างเป็นเรื่องยาก ได้เจอคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่ไม่รู้จัก ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ต้องไปทำความเข้าใจเพิ่มเติม ทำให้ต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้ยังได้การบ้านให้ไปหาข้อมูลเรื่องที่อยากรู้มานำเสนอใน Team Meeting ที่มีทุกสัปดาห์ด้วย ซึ่งเป็นการบ้านที่ผมชอบมาก ๆ เพราะเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้เรื่องที่สนใจจากผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานด้านนั้นจริง ๆ รวมถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้เป็นกระบวนการที่ใช้ในบริษัทใหญ่ ๆ ถือว่าเป็นประโยชน์กับนักศึกษาคนหนึ่งมาก ๆ เลยครับ

นอกเหนือจากการทำงานภายในทีมแล้ว ก็จะมีการอบรมต่าง ๆ จากทาง HR ด้วยครับ โดยจะมีทั้งการอบรม DISC เพื่อให้รู้จักตนเอง รวมถึงการวิเคราะห์เพื่อนร่วมงาน เพื่อให้เข้าใจวิธีการทำงานร่วมกับคนรูปแบบต่าง ๆ และการอบรม Agile เพื่อให้เข้าใจถึงการทำงานในรูปแบบ Agile ซึ่งแต่ละอย่างที่ได้อบรมระหว่างฝึกงานล้วนเป็นสิ่งที่สามารถนำมาต่อยอด และสามารถนำไปใช้ได้จริงทั้งในชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงาน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผมมากครับ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล้อมวงเล่า ที่ให้เหล่าน้อง ๆ ฝึกงานมาพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การฝึกงานของแต่ละคน ทำให้ได้เห็นรูปแบบการทำงาน ปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาที่เจอ รวมถึง Knowledge จากเพื่อน ๆ แต่ละทีม นอกจากจะได้ความรู้จากเพื่อน ๆ แล้ว ยังได้พูดคุยกัน เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเหงาเกินไป โดยเฉพาะกับทีมที่มีนักศึกษาฝึกงานคนเดียวอย่างผมจะชอบกิจกรรมนี้มาก ๆ เลย

สิ่งที่ได้เรียนรู้

ในการฝึกงานครั้งนี้ แม้จะยังไม่จบการฝึกงาน แต่ตัวผมเองได้ทดลองทำและได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างเลยครับ ซึ่งแต่ละอย่างนั้น เป็นข้อมูลภายในของทาง SCB เองซึ่งเป็นประโยชน์มาก ๆ เลย ต้องขอบคุณพี่ ๆ ทั้งในทีมและนอกทีมที่ยินดีตอบคำถาม ยินดีสอนอย่างเต็มที่กับทุก ๆ เรื่องที่ผมสงสัย ซึ่งเรื่องต่าง ๆ ที่ผมได้เรียนรู้มา เช่น

  • Security Standard — ข้อกำหนดเรื่อง Security ที่พนักงานในบริษัทต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของบริษัทถูกใช้งานอย่างถูกต้อง รวมถึงทำให้ปลอดภัยจากการโจมตีต่าง ๆ และป้องกันไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปใน Network ของบริษัทจากการเชื่อมต่อ VPN เพื่อใช้งานระบบของบริษัท
  • IT Security Requirement — ข้อกำหนดเรื่อง Security ของ Project ภายในบริษัท ทุกโปรเจคที่จะพัฒนาใหม่ จะต้องผ่านการทำ IT Security Requirement ก่อน
  • Security Awareness — การทำให้พนักงานในบริษัทตระหนักในเรื่องความปลอดภัย เช่นการนำข้อกำหนดใน Security Standard มาทำเป็น Infographic เพื่อให้เข้าใจง่าย และน่าสนใจมากขึ้น
  • Blockchain Security — ความรู้พื้นฐานของ Blockchain ความปลอดภัยของ Blockchain ในมุมมองของผู้ที่ทำงานด้าน Cyber Security รวมถึงการโจมตีรูปแบบต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเครือข่าย Blockchain
  • Network Security —Network Infrastructure พื้นฐานของบริษัท รวมถึงวิธีและแนวทางการป้องกันการโจมตี ที่มีทั้งการป้องกันด้วยตัวของระบบ หรือการป้องกันจากตัวผู้ใช้งาน เพื่อให้ Network ของระบบมีความปลอดภัย

ซึ่งหัวข้อเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้เท่านั้น ยังมีอะไรอีกหลาย ๆ อย่างที่ได้เรียนรู้ตั้งแต่ตอนนี้ไปเรื่อย ๆ ทุกคนเห็นมั้ยครับว่าได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจริง ๆ แล้วจะรออะไรกันอยู่ ถ้าเปิดรับสมัครแล้วก็รีบสมัครกันมาเล้ย!!

ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับการบอกเล่าประสบการณ์ทั้งการสมัคร และการเข้าไปทำงานในช่วงแรก ของ SCB Co-operative Program 2022 ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประสบการณ์การฝึกงานทั้งหมดของผมเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจหรืออยากรู้ว่า ตลอดระยะเวลาการฝึกงานที่ SCB ตัวผมเองได้เข้าไปทำอะไรในทีมบ้าง มีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจจากทางพี่ ๆ HR อีกมั้ย รอติดตามอ่านได้ใน EP. ต่อไปนะครับ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กด Subscribe เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน…..ไม่ใช่ Youtube! เอาเป็นว่าอย่าลืมมาติดตามอ่านต่อกันได้ใน EP. ถัดไปนะครับ สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปทำงานต่อก่อน พี่ ๆ เตรียมไม้เรียวกันแล้ว🤣 สวัสดีครับ

--

--