บทบาทสำคัญของ eKYC ในการยืนยันตัวตนในโลกไร้การสัมผัส หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของชีวิตเราอย่างไม่ต้องสงสัย ตั้งแต่การทำงานจากระยะไกล และการประชุมเสมือนจริงไปจนถึงการช้อปปิ้งออนไลน์และความบันเทิงดิจิทัล โลกได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ซึ่งหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ และมีการเติบโตอย่างมาก ก็คือการนำโซลูชัน Electronic Know Your Customer (eKYC) มาใช้
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการเร่งนำ eKYC มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจอย่างไร ทำไมการ onboarding และการยืนยันตัวตนแบบไร้สัมผัสจึงสำคัญมากในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ จะปรับตัวให้เข้ากับสภาวะปกติใหม่นี้ได้อย่างไร
ความจำเป็นของโซลูชันที่ไร้การสัมผัส (Contactless Solutions)
การระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการดำเนินงานของธุรกิจและบุคคล การเปลี่ยนแปลงที่เร่งด่วนและสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือความจำเป็นในการลดการสัมผัสทางกายภาพและปฏิสัมพันธ์ต่อหน้ากับบุคคล การรู้จักลูกค้าแบบเดิม (KYC) ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการประชุมแบบ Face-to-Face และการตรวจสอบเอกสารตัวจริง ก็ไม่สามารถทำได้ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมและการล็อคดาวน์
ความจำเป็นสำหรับโซลูชันไร้การสัมผัสนี้นำไปสู่ความต้องการ eKYC ที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบตัวตนผ่านช่องทางดิจิทัลได้ โดยโซลูชัน eKYC นี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การจดจำใบหน้า ชีวมิติ และการตรวจสอบเอกสารเพื่อตรวจสอบตัวตนของบุคคลจากระยะไกล
การเร่งการประยุกต์ใช้ eKYC
1. Financial Services: ภาคการเงินเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจแรกๆ ที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการนำ eKYC มาใช้อย่างรวดเร็ว ธนาคาร บริษัทฟินเทค และผู้ให้บริการการชำระเงิน ได้รวม eKYC เข้ากับกระบวนการ onboarding ของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ แต่ยังปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการนำเสนอกระบวนการเริ่มต้นใช้งานที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยากอีกด้วย
2. Healthcare: ธุรกิจด้านสุขภาพยังใช้ eKYC เพื่อเปิดใช้งาน telemedicine และการบริหารจัดการผู้ป่วยจากระยะไกล ผู้ป่วยสามารถยืนยันตัวตน และเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล หรือคลินิกด้วยตนเอง
3. E-commerce: ท่ามกลางการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการช้อปปิ้งออนไลน์ในช่วงล็อคดาวน์ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนำ eKYC มาใช้เพื่อตรวจสอบตัวตนของลูกค้าใหม่ ป้องกันการฉ้อโกง และเพิ่มความปลอดภัยโดยรวมของธุรกรรมออนไลน์
4. Government Services: หน่วยงานภาครัฐทั่วโลกตระหนักถึงศักยภาพของ eKYC ในการให้บริการดิจิทัลแก่ประชาชน ซึ่งอำนวยความสะดวกในการออก Digital ID ตลอดจนประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลได้โดยไม่ต้องเดินทางไปด้วยตนเอง
ประโยชน์ของ eKYC ในช่วงการระบาดของโรค
- ไร้การสัมผัสและปลอดภัย: eKYC ทำให้เราสามารถทำการยืนยันตัวตนจากบ้านได้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัส
- ประสิทธิภาพ: eKYC ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ประหยัดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เนื่องจากกระบวนการ eKYC รวดเร็วกว่าและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าวิธีการแบบเดิม
- ความปลอดภัยที่สูงขึ้น: เทคโนโลยีชีวมิติขั้นสูง และการตรวจจับการฉ้อโกง เพิ่มการรักษาความปลอดภัยในการตรวจสอบตัวตนอีกขั้นหนึ่ง ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของการขโมยตัวตนตัวตนและการฉ้อโกง
- ความสะดวกของลูกค้า: eKYC มอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการ onboarding และการเข้าถึงบริการจากระยะไกล ซึ่งนำไปสู่การยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า
อนาคตของ eKYC
ในขณะที่โลกได้ฟื้นตัวจากโรคระบาด การนำ eKYC มาใช้ก็ไม่น่าจะลดลง แต่กลับมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากธุรกิจ และรัฐบาลได้เห็นประโยชน์ของการยืนยันตัวตนแบบไร้สัมผัส และผู้บริโภคก็เริ่มคุ้นเคยกับความสะดวกสบายที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายก็ยังคงมีอยู่ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่จะต้องปรับปรุงกระบวนการ eKYC ต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลง และจัดการกับข้อกังวลเหล่านี้เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ใช้งาน
โดยสรุป การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เป็นตัวเร่งในการนำ eKYC มาใช้ในการ onboarding และพิสูจน์ตัวตนแบบไร้สัมผัส การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการแบบทันท่วงทีเท่านั้น แต่ยังปูทางไปสู่อนาคตที่เป็นดิจิทัลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งการยืนยันและพิสูจน์ตัวตนเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของปฏิสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ
ทั้งนี้ บริษัท SCB TechX พร้อมให้คำปรึกษาและสามารถแนะนำโซลูชัน eKYC ที่ตอบโจทย์ธุรกิจของท่านได้ในทุกรูปแบบ โดยมีบริการดังนี้
1. Liveness & Optical Character Recognition (OCR): บริการตรวจสอบผู้ใช้บริการกับบุคคลในบัตรประชาชนว่าเป็นบุคคลเดียวกันจริงหรือไม่ พร้อมเปลี่ยนภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการให้เป็นข้อมูลดิจิทัลได้ทันที เพื่อลดขั้นตอนในการกรอกข้อมูลของผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่
2. Liveness & Face Recognition: บริการตรวจสอบว่าผู้ใช้บริการกับบุคคลในภาพถ่ายเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ โดยใช้ภาพถ่ายและระบบ Face Recognition เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับรูปในบัตรประชาชน
3. DOPA Gateway: ตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการว่าตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครองหรือไม่
4. NDID Proxy: เชื่อมต่อแพลตฟอร์มดิจิทัลไอดีเพื่อยืนยันตัวตนแบบ Cross Platform ช่วยให้ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ NDID โดยตรง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อและดูแลระบบ
หากท่านสนใจระบบยืนยันตัวตน eKYC ของ SCB TechX เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา พร้อมทั้งช่วยประเมินความพร้อมของระบบในการใช้งาน eKYC โดยสามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
Email: contact@scbtechx.io
Website: www.scbtechx.io/th/services-products/ekyc/
Facebook: https://www.facebook.com/scbtechx/
LinkedIn: www.linkedin.com/company/scb-tech-x/
Medium: https://medium.com/scb-techx
