จุดเริ่มต้นของ APE BOARD ลิงม่วงมหาประลัย!

Yongwit Sornsin
SCB 10X OFFICIAL PAGE
3 min readJun 16, 2021

เชื่อว่าชั่วโมงนี้ ใครที่เป็นนักฟาร์ม หรือนักลงทุนในโลกของ DeFi คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ Platform ที่ใช้ติดตามผลประกอบการ การลงทุน DeFi ที่ชื่อว่า APE BOARD อย่างแน่นอน และวันนี้ผมอยากจะมาเล่าที่มาที่ไปของพวกเราว่า มันเริ่มจากอะไร? Design and Dev process in general เป็นยังไง? อะไรที่ทำให้เรา Design Platform APE BOARD ให้มีความแตกต่างจากคู่แข่ง? และมีแนวคิดการออกแบบ Platform ยังไงให้โดนใจ User?

จุดกำเนิดของ APE BOARD

APE BOARD เกิดจาก Pain ของน้องๆในทีมนี่แหล่ะที่เริ่มเข้ามาลงทุนในโลก DeFi พอฟาร์มหลาย ๆ ที่ ก็เริ่มที่จะเช็คเงินในกระเป๋าตัวเองได้ยาก เพราะต้องเปิดเว็ปดูข้อมูลต่างๆ 5–10 เวปไซต์ นอกจากจะฟาร์มหลายที่แล้ว ยังฟาร์มหลาย Chain อีก ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Binance Smart Chain, และ Terra Solution ในตอนนั้นแพลตฟอร์มที่ใช้ดู Port พวกนี้ก็มีไม่เยอะ ซึ่งก็น่าจะมี DeBank เว็บดูพอร์ตพวกนี้ ส่วนใหญ่จะดูได้แค่ Chain เดียว รวมถึงมี Protocol น้อย ทีนี้พวกเค้าเองเลยรู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์และลำบากเหลือเกิน เราก็เลยอยากให้มี Platform ดู Portfolio ที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้จากหลาย ๆ Chain และมีการ Add Pool / Protocol ใหม่ๆ ที่รวดเร็วอย่างหมาใน และว่องไวอย่างไฮยีน่า! ก็เลย Setup team และทำ Project นี้ให้มันเกิดทันที ซึ่งต้องบอกว่าการคิดเร็วทำเร็วของพวกเรา ก็มาจากจาก Core Value ที่พวกเราระลึกไว้เสมอนั่นก็คือ Boost นั่นเอง(มีของดีต้องขายของหน่อย555) และถ้าถามว่าทำไมต้อง Boost ล่ะ แต่ละตัวอักษรมันมีความหมายในตัวของมันอยู่นะ

B หรือ Boldness กล้าตัดสินใจ กล้าเสี่ยงที่จะทำสิ่งใหม่ กล้าที่จะล้มเหลว และกล้าที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง

O หรือ Ownership เราจะคิดเสมอว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันคือผลงาน มันคือโปรดักซ์ของเรา เราพร้อมที่จะร่วมหัวจมท้ายไปกับมัน

O หรือ Open เราไม่ปิดกั้นไอเดียของพนักงาน อย่าง Ape Board ก็เกิดจากไอเดียของพนักงานเองด้วยซ้ำ

S หรือ Speed ต้องบอกเลยว่ายุคนี้ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็กแล้วนะครับ มันคือปลาเร็วกินปลาช้า “เก่งไม่กลัว กลัวช้า”

และสุดท้าย T หรือ Trust คือความเชื่อในทีม เชื่อในเป้าหมายขององค์กรนั่นก็คือ. Moonshot Mission

ทำไมต้องเป็น APE BOARD?

คำว่า Ape เอามาจากศัพท์แสลงในวงการคริปโต เอาไว้กล่าวถึงพฤติกรรมการลงทุนหรือซื้อเหรียญต่าง ๆ ด้วยความรวดเร็ว แบบไม่ได้คิดวิเคราะห์ หรือไม่แม้แต่จะหาข้อมูล เหมือนลิงที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ ถอดสมองแล้ววิ่งไส่ไปก่อน ไม่ได้ใช้สมองอะไรงี้ 555 ความหมายมันก็จะเกรียนๆ เหมือนกับตัว Character เอปปี้ที่เราใช้ หน้าตามันก็จะมึนๆ งง ดีใจ เสียใจ ได้กำไร ขาดทุนก็จะหน้านี้ตลอด และนี่คือลูกชายของพวกเรา “เจ้าเอปปี้

ผมชื่อ “เอปปี้” ฮะ

Design and dev process in general เป็นยังไงบ้าง?

เริ่มแรกเลยที่ทำ APE BOARD เนี่ย เราก็คุยกันก่อนว่าเราจะทำ Platform เกี่ยวกับ DeFi นะ เราจะทำเป็น Dashboard แต่ยังไงไม่รู้ว่าหน้าตามันจะออกมาเป็นยังไง ทีนี้น้องไมค์ ซึ่งตอนนั้นเป็น Technical Lead ก็พูดขึ้นมาว่า

“เฮ้ยพี่เห็น UI Design Trends ปีนี้หรือยังผมว่ามันเท่ดีนะพี่ Glass%@$# ซึ่มเนี่ย”

พวกเราก็งงเนอะว่าอะไรซึ่มๆวะ 5555 ก็มาอ๋อเค้าเรียกว่า Glassmorphism ทีนี้พอได้สไตล์ที่ชัดเจนแล้วว่าเราจะไปทางนี้นะ ก็เริ่ม Design เลย!

APE BOARD Version 0.1 : เป็น Version ขายฝัน 555 เราได้ Inspiration จาก Platform หลายๆที่ที่เราคิดว่ามันดีอยู่แล้วและก็เป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ Plateform ทั่วไปต้องมีเอามาประยุกต์กับ Design ที่เราจะทำซึ่งในตอนนี้ Version ปัจจุบันเป็น Beta Version 2 แล้วนะ
APE BOARD Beta Version 1

พอเริ่ม Design แล้วแต่คำถามต่อมาก็คือจะทำอย่างไรให้ Dev ทำงานออกมาแล้วเหมือนอย่างที่เรา Design ไว้มากที่สุด ซึ่งขั้นตอนนี้ผมว่าสำคัญมากๆ เพราะเราต้องมาคุยกับ Dev ก่อนนะว่าเราจะทำอะไร เรามีไอเดียอะไรบ้าง อยากให้มีลูกเล่นแบบไหน เวอร์วังแค่ไหน ก่อนอื่นเราก็ขายฝัน(ในพื้นฐานของความที่จะเป็นไปได้นะ)ไปก่อนแล้วเค้าจะเป็นคนบอกเราเองว่า เฮ้ยพี่ อันนี้ทำได้ อันนี้ทำไม่ได้นะ หรืออันนี้ทำได้แต่มันจะเกิด Effect ต่องานเรานะพี่ แต่ผมค่อนข้างโชคดีที่ Dev ทีม Ape Board เนี่ยค่อนข้างที่จะสนอง need ให้ Designer เพราะเค้าเองก็อยากจะลองทำอะไรยากๆ ทำอะไรที่มันท้าทาย และก็ไม่ปิดกั้นความต้องการของ designer ด้วย โดยรวมคือการหาตรงกลางระหว่าง Designer และ Dev ให้เจอแล้วมันจะทำให้เราทำงานร่วมกันได้ง่ายและสนุกมากๆเลย

แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ APE BOARD มีความแตกต่างจาก DeFi Dashboard ทั่วไป?

อย่างแรกที่อยากจะพูดถึงนั่นก็คือเรื่องของ รูปแบบการ Design จะเห็นได้ว่าใน Platform DeFi ทั่วไปจะใช้ Template หรือ Component ต่างๆ ที่มีความใกล้เคียงกันซะส่วนใหญ่ เมื่อดูๆไปแล้วแทบจะมีรูปแบบที่ไปในทิศทางเดียวกันหมดเลยเลยกลายเป็นว่า DeFi Dashboard ต้องมีรูปแบบ รูปทรงหรือสไตล์ประมาณนี้เท่านั้น ต้องขอบคุณความไม่รู้ของตัวเองก่อน ผมเป็น UX/UI Designer ที่ไม่รู้จัก DeFi, Blockchain เลยยยยยยยยยยยยยย พอมองย้อนกลับไป มันกลับกลายเป็นข้อดีที่ดีมากๆสำหรับเราก็ว่าได้ ผมซึ่งมี Skill ด้านการออกแบบ ถึงจะไม่มีความรู้เรื่องการออกแบบ Product ที่เกี่ยวกับ DeFi เลยก็จริง ผลที่ได้ก็คือ “ของใหม่” ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน การที่เราไม่ไปยึดติดกับรูปทรงหรือรูปแบบเดิมๆ แบบที่คนอื่นเค้าทำ เลยเป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องของสีสันที่ฉูดฉาด สดใส Layout ของ Platform ที่แปลกตา แถมยังมี Mascot ที่สามารถสร้าง Interaction กับ User ได้เอง ทำให้ทุกคนที่เข้ามาใช้ APE BOARD หลงรัก Platform นี้และเจ้าเอปปี้ทันทีที่เจออย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะครับ

APE BOARD Beta Version 2 เป็น UI ล่าสุด! สดใสและน่าใช้กว่าเดิม

ออกแบบ APE BOARD อย่างไรให้ถูกใจ User?

สิ่งที่เราทำเนี่ยมันก็เป็นอะไรที่ user กลุ่มนี้เค้าใช้จนเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้วด้วยซ้ำ มันก็เลยเหมือนกับว่าโชคดีที่ไม่ต้องทำการ Varidate อะไรมาก แต่เพิ่มอะไรสักอย่างที่เป็นสิ่งที่น่าจะดึงดูดให้ user อยากใช้งานเข้าไปอีก นั่นก็คือ Design และก็อีกอย่างที่เราให้ความสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ พวกเรารับฟังความต้องการของ User ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ APE BOARD มีจุดเด่นเฉพาะตัวไม่ว่าจะเป็น

1. เราแอดฟาร์มใหม่เร็วมาก สิ่งนี้เราเรียกว่า “Ape Speed”

2. เรา support หลาย Chain หลาย Protocols ซึ่งปัจจุบันก็มีอยู่ 5 chains 60 กว่า Protocols อนาคตก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

3. เรา Work ได้ดีบน Mobile

4. เรามี Toolkit และก็ Feature ต่างๆ เช่น Impermanent Lose / หรือ ROI Estimation / และ Loading Indicator ซึ่ง Feature นี้ User ชอบมาๆ เพราะเค้าสามารถเปิด-ปิด Protocols ได้เพื่อให้ Plateform ไม่ช้าทำให้ใช้งานได้รวดเร็ว

5. สามารถ Add to matamask

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งเราใส่ใจในเรื่อง User Experience ที่อยากทำให้มันดีขึ้นและให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆด้วย

สำหรับคนที่สนใจอยากจะเปลี่ยนสายงาน จริงๆมันไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับคนที่มีพื้นฐานทางด้านกราฟฟิกดีไซน์อยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ ผมเองก็ทำงานสายกราฟฟิกดีไซน์มาหลาย 10 ปีเพิ่งจะเปลี่ยนสายมาเป็น UX/UI Designer แค่ 1 ปี กว่าๆ เมื่อเรามีพื้นฐานอยู่แล้ว สิ่งที่เราควรจะต้องไปศึกษาต่อก็คือ UX คืออะไร UI คืออะไร เราจะออกแบบ App หรือ Platform ยังไงให้มีคนมาใช้งาน ต้องไปศึกษา Research หา Insight จาก User เพื่อจะได้ออกแบบให้ตอบโจทย์กับสิ่งที่ User ต้องการมากที่สุด ลองติดตาม Trends ของ Graphic Design และ Trends ของ UI เพราะสองอย่างนี้มันสามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้เสมอ ปัจจุบัน UX/UI Designer กำลังเป็นที่ต้องการของบริษัท Start up หรือ บริษัทเกี่ยวกับ Innovation เป็นอย่างมากถ้าใครคิดที่อยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ หรืออยากออกจาก Comfort Zone ผมว่าอย่าลังเล ลงมือทำเลย!

อันนี้สุดท้ายจริงๆ 555 อยากขอบคุณน้องๆทีมงานทุกคน ทั้งที่เป็นทีมปัจจุบัน และน้องๆที่เคยช่วยกันสร้าง APE BOARD ด้วยกันมา พวกเราตั้งใจทำงานกันอย่างหนักและอยากทำ Product ดีๆให้คนทั่วโลกใช้และรู้จักเอปปี้ลิงม่วงมหาประลัยตัวนี้ด้วย! “Built by APES, for APES”

--

--