Random Art & Design Weekend in Paris

มาแวะเวียนปารีสครั้งนี้…เพราะเหตุผลทางการเมือง

การเดินทางครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักคือ ไปหาหนัง หาอะไหล่ ที่มิลาน มาทำกระเป๋าให้กับ Mo. (ตั้งใจเก็บเงินมางานนี้ 2 ปีละ) แต่…เคยไปอิตาลีแล้วเค้าให้วีซ่าเชงเก้นสั้นมาก ไป 1 อาทิตย์ ก็ให้มันแค่ 1 อาทิตย์ #สั้นเกินไปปป

เลยถือโอกาสขอวีซ่าผ่านสถานทูตฝรั่งเศส และแวะเที่ยวฝรั่งเศสก่อนซะหน่อย เพราะเคยขอวีซ่าเชงเก้น รอบที่แล้วได้ 2 ปี เลยมีลุ้นว่าครั้งนี้น่าจะได้นานกว่าของอิตาลี อย่างน้อย 1 ปีก็ยังดี สุดท้าย ก็ได้มา 1 ปี #โชคดีคุณได้ไปต่อ …ปีหน้าทริปยุโรปยังมีต่อคิวอีกอย่างน้อย 1 ทริป เลยคุ้มหน่อยจ้ะ เนี่ยแหละ…นโยบายทางการทูต การเมือง เศรษฐกิจ ที่ทำให้เราได้วีซ่าเชงเก้นเหมือนกันในระยะเวลาที่นานต่างกัน

ช่วงที่ไปเป็น Paris Fashion Week พอดีบรรยากาศเลยคึกคัก มีงาน Fashion Trade Show & Fashion Show หลายแบรนด์ดัง มี Instagrammers ทั่วเมืองเลย เลยได้สังเกตแฟชั่นสนุกๆ จากคนหลายประเทศ inspiring ดีนะ

ปารีสเป็นเมืองที่ คนแต่งตัวสนุก มีศิลปะแบบเก่า และแบบใหม่ ผสมอยู่ทั่วเมือง ชอบในความ blend in ในศิลปะหลายแขนงของที่นี่ สถาปัตยกรรม แฟชั่น จิตรกรรม ดีไซน์ อาหาร ภาพยนตร์ ที่ดูศิลปินที่นี่ให้ความสำคัญในการเป็นที่สุดของศาสตร์ของตัวเอง และยังเป็นตัวของตัวเอง จนเราชอบทัศนคติของศิลปินที่นี่มากๆ (ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับศิลปิน ดีไซน์เนอร์ที่นี่ เลยอยากซึมซับบางอย่างมา)

ได้มีโอกาสไปงาน Tranoi เป็น Fashion Trade Show ที่มีแบรนด์ใหม่ๆจากทั่วโลกมาให้เราอัพเดท ในช่วง Fashion Week เค้าจัดในพระราชวังเก่า แต่จัดแสดงโดยใช้กราฟฟิกที่ดู modern เท่ๆ ทำให้เราหลงเสน่ห์กับความไม่มีกฎเกณฑ์ของเมืองนี้ …ลองคิดเล่นๆ ง

ถ้ามีคน เอาประติมากรรม สไตล์ contemporary แบบ futuristic ไปใส่ที่วัดพระแก้ว”… น่าจะทำให้กรุงเทพ “เท่” ไม่น้อย … แต่น่าจะมีผู้ใหญ่ออกมา ต่อต้านก็ไม่น้อย…เช่นกัน

ในส่วนของ การเที่ยวดู Arts & Design ในกรุงปารีส ขอเริ่มจาก Basic Tourist 101

โดยการไปดูงานศิลปะสุดคลาสสิคในพิพิธภัณฑ์ Louvre ที่เป็นที่อยู่ของแม่นาง Monalisa ที่ท่านต้องต่อคิวประมาณ 40 นาที-1 ชั่วโมง (แล้วแต่วันและช่วงเวลาที่ไป) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่หลงง่ายมาก เนื่องจากพื้นที่ใหญ่ ขอแนะนำให้ไปแบบ Audio Tour Guide (ดูตาม Viator ได้เลย) เพราะไกด์ท้องถิ่น จะพาท่านไปอันเด็ดๆ เช่น xxxxxxx โดยลัดคิวยาวๆ ของ Monalisa ได้ แถมได้เข้าไปดูรายละเอียดของภาพใกล้กว่าชาวบ้าน(ที่ซื้อตั๋วเอง) อีกด้วย *กรุณาตรวจสอบรายละเอียดของทัวร์ก่อนซื้อ*

พอเสร็จจาก Louvre แล้ว จะมี Palais Royal ที่เป็นสถานที่เปิดโล่ง เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูปมากๆ

เดินไปอีกนิด จะมี Patisseries ของ Cedric Golet ที่เป็น Chef ขนมหวานระดับโลก อร่อยและฟินกับความตั้งใจทำมาก Trust me I eat a lot of desserts ที่นี่จะไม่มีโต๊ะนั่งทาน เค้าจะให้ซื้อเป็น Takeaway ไปกินที่โรงแรม แต่…ควรซื้อแล้วเข้าโรงแรมเลย เพราะมันจะเละง่ายมาก เอาไปเลย 10 กะโหลก นี่คือ Finest Dessert Dining ที่คุณจะได้รับรสในโลกนี้

สาย #ขนมหวาน อีกร้านที่ไม่ควรพลาดคือ Angelina ที่ถ้าคิวในการนั่งร้านนาน ดูแล้วไม่เหมาะกับนักท่องเที่ยวชิวๆอย่างเรา เราก็ข้ามคิว โดยการซื้อแบบ Takeaway ได้เลย Mont Blanc และ Hot Chocolate ที่นี่คือ ดีงาม แต่ก็แล้วแต่ความชอบในขนมของท่าน #เราไม่ใช่สาย Macaron บอกก่อน (สาย Macaron มีหลายที่ Laduree , Pierre Hermès , Fouchan และร้าน Angelina ก็มี)

สำหรับ..วันแรก ท่านจะวนๆอยู่แถว Louvre หรือถ้าแรงยังเยอะอยู่ ไปดูร้านเก๋ๆในย่าน Lamarais ต่อได้เลย (Next)