โบราณว่าไว้ สามีที่กลัวภรรยา มักจะได้ดี

#2 เคล็ดวิชากลัวเมีย

เมื่อตอนพี่เล้งเอา MFEC เข้าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ๆ ได้ไปงาน networking ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งในโต๊ะของพี่เล้งเป็นรุ่นพี่ วิศวะจุฬากันหมด
และในวันนั้น มีการคุยกันว่า อยากรู้ว่า เด็กวิศวะจุฬาที่จะประสบความสำเร็จเขามีคุณสมบัติอย่างไร ด้วยความที่พี่เล้งเด็กสุดในโต๊ะ จึงถูกมอบหมายให้ไปหาคำตอบ

พี่เล้งจึงกลับไปคุยกับสมาคมศิษย์เก่า เพื่อจะเก็บข้อมูลนี้ และริเริ่มที่จะให้ ศิษย์เก่าแต่ละรุ่น เสนอชื่อคนที่ประสบความสำเร็จของรุ่นเป็นตัวแทนรุ่นพูดถึงประสบการณ์ตัวเองในทุกปี และก็มีการเก็บข้อมูลไปด้วย

ทำให้ได้พบว่า คนที่ประสบความสำเร็จของรุ่น ไม่ใช่ คนที่เรียนดีที่สุด ไม่ใช่ คนที่เรียนสูงที่สุด และไม่มีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนกับกลุ่มไหนเลย

อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จ มักจะมี ปีพิเศษปีหนึ่ง ที่เปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ ถ้ามองเป็นเงิน ก็จะเหมือนว่า เงินที่หาได้ในปีนั้น มากกว่าเงินที่เคยหาได้มาทั้งชีวิต ซึ่งไม่มีใครอธิบายได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้น อาจจะเป็นเพราะมีทีมดัน หรือ มีหัวหน้าดึง มันเป็นหลายๆ อย่างประกอบกัน

สรุปได้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จตัวตนของเรามีผลเพียง 30% อีก 70% เป็น network และสิ่งเวดล้อมของเรา อ้าว แล้วจะพูดทำไมเนี่ย……………..

แต่วันนี้ พี่เล้ง มีความลับจากฟ้ามาบอกครับ

พี่เล้งพบว่า คนที่ประสบความสำเร็จ กับความกลัวเมีย นั้นมีความสัมพันธ์กันค่อนข้างสูง แต่พอรู้เรื่องนี้ เวลามีใครถูกเสนอโปรโมทในบริษัท พี่เล้งจะลองถามว่า คุณกลัวเมียไหม? ซึ่งพี่เล้งเล่าขำๆ ว่า ใน MFEC ตอนนี้ ถ้า level รองจากพี่เล้งนี่น่าจะกลัวเมียกันหมดนะ

โบราณว่าไว้ สามีที่กลัวภรรยา มักจะได้ดี แต่พี่เล้งมีคำตอบครับ ว่าทำไม

ย้อนกลับไปสิบกว่าปีที่แล้ว มีพี่ คนหนึ่งโทรมาหาพี่เล้ง ถามถึงน้องที่มาสมัครงานในบริษัทของเขา ซึ่งมาจาก MFEC พี่เล้งเลยไปสอบถามน้องคนนั้น ว่า อยู่ที่นี่มีปัญหาอะไรไหม ไม่มีความสุขเหรอ น้องเขาตอบว่า ไม่ครับ อยู่ที่นี่ดีทุกอย่าง แต่เป็นปกติที่ทุกๆ 2–3 ปี เขาจะไปดูตลาดว่า มีโอกาส หรือ อะไรที่ดีกว่าสำหรับตัวเองไหม

พี่เล้งเล่าว่า มีแนวโน้มที่คนเราจะมีวิธีมองโลก และจัดการกับเรื่องต่างๆ เหมือนๆ กัน เช่น คนเจ้าชู้ จะเป็นคนที่รู้สึกว่าจะต้องการของที่ดีที่สุดให้ตัวเองเสมอ ถ้าเจอสาวมีเสน่ห์กว่าแฟนเรา ก็จะเป็นแรงขับภายในที่ทำให้เขาต้องพยายามได้สิ่งที่ดีกว่า ไม่งั้นจะรู้สึกผิดกับตัวเอง แต่สำหรับคนที่กลัวเมีย จะมีแนวโน้มที่จะเลือกจัดการเรื่องต่างๆในสภาพแวดล้อมที่เป็นข้อจำกัดให้ดีที่สุด จึงมี commitment และพยายามหาทางแก้ปัญหาต่างๆ ในการทำงานภายใต้ข้อจำกัด มากกว่าคนอีกกลุ่ม

ขอ note ว่าที่เขียนมาเป็นการสรุป และตีความโดยความเข้าใจของผม ไม่ใช่คำพูดพี่เล้งท้้งหมดอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบ้าง หากนำไปใช้ต้องระวังกันเองนะครับ

เคล็ดวิชาเป็นแค่เคล็ดลับ จะได้ผลไหมไม่สามารถรับประกันได้ แต่ถ้าเราไม่มีข้อมูลอะไรเลย การมีเคล็ดลับติดไม้ติดมือไว้ใช้ ก็ดีกว่า ไม่มีใช่ไหมล่ะครับ :)