Prapoj Preechachalieo
SET-IT-TEAM
Published in
1 min readJun 26, 2023

--

Learning from Past Mistakes Didn’t Always Work Out

“มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง” ไอน์สไตน์

“ผิดครั้งแรกเรียกพลาด ผิดครั้งที่สองเรียกประมาท ผิดครั้งที่สาม เรียกตั้งใจ” ดีเจพี่อ้อย

เราโตมากับคำสอนให้ รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาด แต่เรารู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเราพลาดเรื่องอะไร แล้วเราเรียนรู้ถูกเรื่องไหม ?

วันศุกร์ที่ผ่านมาได้ไปฟัง คุณ ท้อป จิรายุส พูดถึงความผิดพลาดในการบริหารงานของ Bitkub ใน 3 ช่วงของบริษัท จากงาน CTC2023 ดังนี้

  1. War time: ตอนตั้งบริษัท Bitkub ได้ funding ที่ over value มา ทำให้ต้องเร่งลงทุนหา product fit และ growth เพื่อไม่ให้เกิดการ de-rounded. ช่วงแรก BitKub เติมโตเป็น 10 เท่า แต่ก็แลกมาด้วยเงินที่เหลือ runway แค่ 1 เดือนจนเกือบต้องปิดบริษัท โชคยังดีที่สุดท้ายมี funding ใหม่มาต่อชีวิต เรื่องนี้ ทำให้ Bitkub ระมัดระวังที่จะลงทุน เพื่อไม่ให้เจอเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก
  2. Blitzscaling: ช่วง Bitcoin ขึ้นแตะ 1 ล้านบาท คนแห่มาลงทุนกับ Bitkub แต่เพราะกลัวจะผิดพลาดแบบตอนแรกอีก มัวแต่รัดเข็มขัด ไม่ลงทุนขยายตัวอย่างเพียงพอจนพลาดโอกาส เงินหายไปเป็นพันล้าน ทั้งที่ Bitkub ตอนนั้น มี Net margin 50% จะลงทุนเพิ่ม อีก 10–20% ก็ยังสบาย ความผิดพลาดนี้ทำให้ Bitkub ตั้งใจที่จะไม่พลาดโอกาส หากมีน้ำขึ้นให้รีบตัก อีก
  3. Sustainable : คุณท้อป จ้างคนมากมาย ภูมิใจที่เคยไห้สัมภาษณ์ว่าบริษัทให้โบนัส 12 เดือน เราเตรียมรอโอกาส จะไม่พลาดอีก แต่มาละเลยการ manage stakeholder ให้ดี ไม่ได้เน้นลงทุนป้องกันปัญหา เพราะคิดว่าไม่คุ้มในระยะสั้นที่กลัวจะเสียโอกาสกำลังจะมาถึง การมองแต่โอกาสในระยะสั้น ละเลยการเตรียมการในระยะยาวจึงเป็นความผิดพลาดที่สำคัญ

คุณท้อป ดูเหมือนเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตและปรับตัวมาอย่างดี

  • เพราะเร่งลงทุนจะเติบโต จนเงินทุนหมด จึงเรียนรู้ที่จะรัดเข็มขัด
  • รู้ว่าทำให้พลาดโอกาสทำเงิน จึงเร่งเตรียมการให้ทันโอกาสใหม่ๆ
  • พอเน้นระยะสั้นมากไป บริษัทมีปัญหาในระยะยาว ก็เรียนรู้ที่จะเริ่มป้องกันปัญหา

แต่ความผิดพลาดที่ คุณ ท้อปบอกว่าตัวเองมี คือ การใส่หมวกผิดเวลา ในแต่ละ ช่วงมันต้องการการทำงานที่ต่างกัน ซึ่งเรื่องนี้คือ ผิดมาตลอด เวลาที่ Bitkub กำลังเติบโต ถ้าไม่เพราะกลัวที่จะลงทุน ก็อาจจะไม่พลาดโอกาสทำเงินครั้งใหญ่ เราเปลี่ยนหมวกไม่ทัน

แล้วเราล่ะ ?

เคยไหมครับ ที่เคยทำอะไรแล้วออกมาผิดพลาด จากนั้นเราก็เรียนรู้ที่จะไม่ทำแบบนั้นอีก โดยไม่คิดให้ดีว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้การทำแบบที่เคยพลาดอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่กว่าก็ได้

การทำแบบเดิม คาดหวังผลลัพธ์ใหม่ ดูเป็นเรื่องบ้าในสายตาของ ไอน์สไตน์ เพราะในการทดลอง เราควบคุมตัวแปรอื่นไว้ทั้งหมด แต่ในชีวิตจริง ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว การทำแบบเดิมอาจจะได้ผลที่ต่างกันก็ได้

จะเรียนรู้จากความผิดพลาด ต้องให้แน่ใจว่าเรารู้จริง ๆ ว่าเราผิดตรงไหนไม่อย่างนั้นเราอาจจะพลาด เพราะไม่ยอมทำอะไรเดิม ๆ ที่เคยผิดพลาดมาก่อนก็ได้ครับ

เราไม่สามารถก้าวเข้าไปในกระแสน้ำเดียวกันได้ถึงสองครั้ง ฉันใด ก็คงไม่มีีสถานการณ์ไหนเหมือนกัน 100% สองครั้งเช่นกัน หน้าที่เราคือต้องรู้ว่า ความผิดพลาดนั้น มันยังจริงกับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้หรือไม่ อย่าติดกับดักกับความผิดพลาดในอดีตมากเกินไป ขอให้ Be bold, break free and bounce back :)

--

--