ชีวิตพึ่งตนเอง ฉบับโจน จันใด

Bowpornpan
Sharing Citizen
Published in
2 min readJul 9, 2017

ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเอง สวนพันพรรณ จังหวัดเชียงใหม่ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม “โจน จันใด”

โจน จันใด ณ สวนพันพรรณ

เมื่อได้ยินคำว่า “พึ่งตนเอง” หลายๆคนคงจินตนาการไปถึงชีวิตในฝันของตัวเอง ต่างๆนานา เช่น อาจมีบ้าน มีรถ มีสระน้ำ มีบ่อปลา มีสวนผักผลไม้ มีกินตลอดปีไม่ต้องไปพึ่งการใช้เงินมาก และอื่นๆ

แต่แท้จริงแล้ว ชีวิตที่พึ่งตนเอง มันทำได้ง่ายกว่านั้น

ก่อนจะได้มีโอกาสมาที่คอร์สพึ่งตนเอง กับโจน จันใด ยอมรับเลยตอนนั้นคิดไปแค่ว่า โอเค เดี๋ยวเราก็จะได้มาเรียนรู้การทำสวน การสร้างบ้าน การอยู่กินกับธรรมชาติ ที่สำคัญที่สุดก็คือ การได้มาพักผ่อน หลบหนีจากชีวิตในเมืองกรุง

แต่เมื่อได้มาเจอพี่โจน จันใด สิ่งที่คาดว่าจะได้มาเรียนรู้ เราก็ได้เรียนรู้จริง หากแต่เป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่ง เพราะเราได้มาเรียนรู้กับความหมายของการมีชีวิตจริงๆ

เพราะชีวิตที่พึ่งตนเองนั้น มันคือการที่เรามีเวลาได้ทำความเข้าใจในตัวเองจริงๆ ว่าเราคือใคร เราต้องการอะไร มันไม่มีใครตอบเราได้ นอกจากตัวเราเอง

เข้าใจในธรรมชาติ เข้าใจในตัวเราเอง

ใครคิดว่า หญ้าไม่มีประโยชน์เลยบ้าง ? มันจะขึ้นอะไรนักหนา มาดูดสารอาหารของพืชที่เราต้องการจะปลูกทำไม ?

ความจริงแล้ว หญ้ามีประโยชน์มากเลยนะ ถ้าเราทำความเข้าใจกับมันใหม่

สภาพดินแรกๆไม่ดี เราต้องเริ่มจากการปลูกหญ้าให้ได้ก่อน เพื่อให้หญ้านั้นช่วยปรับสภาพหน้าดินเพื่อให้เหมาะแก่การเพาะปลูก

และเมื่อเริ่มปลูกพืช ก็ต้องหมั่นถอนหญ้าและพืชชนิดอื่นที่จะมาแย่งสารอาหาร โดยที่ตัวเราเองก็ต้องรู้จักการใส่ใจและความสม่ำเสมอในการถอนเช่นเดียวกัน หากเราถอนบ่อยๆในช่วงแรก ตอนหลังๆมันก็จะหายไปเอง ไม่มารบกวนในบริเวณนั้นอีก

“การถอนหญ้าก็เหมือนเวลาเรากำจัดความทุกข์

หากเราไม่ทำความเข้าใจกับมัน สักแต่จะเอามันออก

สุดท้ายแล้ว เมื่อมันกลับมา เราก็จะกลับมาเป็นทุกข์อยู่ดี”

“บางอย่างเราจะไม่มีวันได้รู้ จนกว่าเราจะได้ลอง”

ทุกคนย่อมมีสิ่งที่อยากทำอยู่ภายในใจ รู้ใจตัวเองดีกว่าเราอยากทำอะไร

แต่อาจไม่ได้ทำเพราะติดในเรื่องของปัจจัยอื่น แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนก้าวผ่านไปได้ยากก็คือ ความกลัว

กลัวว่าเราจะทำไม่ได้ หรือ กลัวว่าเราจะทำออกมาไม่ดี

กลัวนู้นกลัวนี่เสียไปหมด จนไม่กล้าแม้กระทั่งจะลอง

เอ้า! แล้วถ้าไม่ลองซะที เราจะรู้ได้ไงว่ามันเป็นยังไงกันแน่ ?

ลองให้เวลากับตัวเอง นั่งเงียบๆ คุยกับตัวเอง แล้วถามตัวเองจริงๆดูนะ

มีอะไรที่เราคิดแต่ไม่เคยได้ลองบ้างไหม ? แล้วเมื่อเราย้อนมองกลับไป เราเสียดายที่ไม่ได้ลองมันหรือเปล่า ?

และในครั้งนี้ เรายังจะปล่อยให้ตัวเราในอนาคตเกิดความรู้สึกเสียดายอีกไหม ?

พยายามหาประโยชน์จากทุกสิ่งรอบตัว

“มันน่าแปลกที่คนเรากลัวความปกติ ความธรรมดาที่คนเราจะต้องเจ็บปวด แต่เรากลับไม่กลัวความไม่ปกติ”

คนทุกคนย่อมเคยเผชิญกับความเจ็บไข้ได้ป่วย มีคนจำนวนไม่น้อยที่จะรู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายทุกครั้งที่จะต้องมาเจ็บป่วย

แล้วทำไมเราถึงไม่มองลองมองถึงประโยชน์ของการเจ็บป่วยบ้างล่ะ ?

การเจ็บป่วย คือการที่ร่างกายของเราเองมันเรียกร้องให้เราได้กลับมาดูแลสุขภาพตัวเองบ้าง ดังนั้น มันจึงเป็นเวลาที่เราควรย้อนกลับมามองดูตัวเองและเข้าใจว่า ร่างกายกำลังเรียกร้องอะไรจากเรา

เวลาที่เราป่วย ย่อมหมายความว่า เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้มีโอกาสมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้เข้าใจในตัวเอง

คนเราไม่สามารถหนีความเป็นตัวเองได้ แม้กระทั่งยามที่เราเจ็บป่วย เราก็ไม่สามารถหนีความเจ็บป่วยนี้ได้

ถ้าเราลองสังเกตอาการที่ร่างกายแสดงออกมาให้ดี มันก็ไม่ต่างอะไรจากอารมณ์ของคนเรานักหรอก มันมีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

“ไม่มีอะไรยืนนาน ทุกอย่างมีขึ้นและลงเสมอ”

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ร่างกายต้องการจะเตือนเราก็คือ อย่าหลงระเริงชีวิตตัวเองมากเกินไป ชีวิตนี้มันสั้น เราไม่อาจล่วงรู้ได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราบ้าง

อย่าประมาทกับทุกเรื่องในชีวิต

หลักการดูแลชีวิตตัวเองง่ายๆจากภูมิปัญญาชาวบ้าน

หมั่นดื่มน้ำให้มาก

โดยเฉพาะช่วงเวลาเช้าหลังตื่นนอน พยายามกินให้ได้สักแก้วสองแก้ว

นอกจากมันสามารถที่จะช่วยรักษาความเป็นกรดด่างในกระเพาะอาหารแล้ว ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ในการขับถ่ายสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย ยังสามารถช่วยให้ร่างกายเรารู้สึกสดชื่น มีหน้าตาผ่องใสอีกด้วย

“ชีวิตง่ายๆ ทำให้ยากทำไม ถ้ามันยากหรือเป็นทุกข์ แสดงว่ามันผิด”

สวนพันพรรณ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

ข้อมูลเพิ่มเติม:

สวนพันพรรณ http://thai.punpunthailand.org/

โจน จันใด TEDxChiangmai https://www.youtube.com/watch?v=yR7Q3tdNK6M

--

--